- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 October 2015 16:43
- Hits: 2545
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"ระวังการแกว่ง...แต่ยังถือได้ถ้าไม่หลุด 1390"
Stock Picks-Oct 2015 : Fundamental : AOT, BBL, CK, CPNRF, LPN
Fundamental Pick -Today: CPNRF
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, AP, QH, SPALI, SNC, MODERN, TCAP, TISCO, TMT, BTSGIF, CPNRF, SPF
Shot Sell-Prev : M 20%, EGCO 18%, PTTGC 17%, PTTTEP 16%, PTT 13%
Technical View ภาพตลาดเป็นบวก แต่ควรระวังการแกว่งก่อนลงต่ำต่อ
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1420,1430-40 ต่ำกว่า 1390
SET50 ซื้อบวก 930,940-950 ต่ำกว่า 910
Technical Picks- Today : PYLON, AP, SVI, BANPU, CBG, APCS, TTA, ERW
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้แกว่งตัว แต่สามารถปิดบวกได้เล็กน้อย 1.16 จุดที่ 1412.49 โดยนักลงทุนขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี แต่มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มที่พักอาศัย ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะประกาศมาตรการกระตุ้นในเร็วๆนี้ ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เป็นการเลือกซื้อรายตัว เช่น BBL, TISCO, TCAP นักลงทุนต่างชาติและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิต่อ รายย่อยพลิกกลับเป็นซื้อสุทธิแต่ยังไม่มาก ส่วนสถาบันในประเทศขายสุทธิมากขึ้น
วันนี้มีปัจจัยติดตาม คือ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่จะเข้าพิจารณาในครม. ซึ่งราคาหุ้นกลุ่มที่พักอาศัยได้ขยับขึ้นมารับข่าวบวกเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ไปแล้วพอควร ดังนั้นถ้ามาตรการออกมาไม่มีอะไรที่เป็น Positive Surprise การเก็งกำไรตามรอบก็ควรระวังการขายทำกำไรระยะสั้น หรือ Sell on Fact แต่สำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาว ยังสามารถถือ/ทยอยซื้อสะสมต่อในจังหวะที่ราคาหุ้นอ่อนตัวแรงได้ โดยหุ้นพื้นฐานเด่นในเชิงกลยุทธ์เป็น LPN, PS, SPALI ด้านกลุ่มสื่อสาร ก็มีความคืบหน้าว่ากสทช.จะประกาศผู้มีคุณสมบัติประมูล 4G คลื่น 1800 MHz ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ส่วนกลุ่มพลังงานควรระวังการแกว่ง/อ่อนตัวในช่วงสั้นหลังราคาน้ำมันดิบร่วงแรง (เพราะมีรายงานว่ากลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันดิบเพิ่มในเดือนก.ย.) ส่วนต่างประเทศอื่นก็ไม่ได้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่จับตารายงาน Beige Book ที่จะออกมาในวันพุธนี้
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวก แต่ก็พร้อมเปลี่ยนเป็นลบ การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก แนวต้านระยะสั้น 1420, 1430-1440 จุด ค่าลบ/ต่ำกว่า 1390 จุด ดูไม่ดี สำหรับผลการ SCAN เห็นว่าหุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดี สามารถเลือกซื้อเก็งกำไรระยะสั้น (แต่ไม่บวกไม่เล่น) ได้แก่ PYLON, NCH, AP, APCS, AUCT, SAMART, HMPRO ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้ว และราคาขึ้นมาอยู่ในพื้นที่น่าสนใจ Take Profit คือ CPN, TTCL, TRUE, BRR
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
สหรัฐ : กระแสส่วนใหญ่ยังคาดการณ์ว่าเฟดจะไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย ประธานเฟดแอตแลนตาเห็นว่าตัวเลขเศรษฐกิจหนุนให้เฟดเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ แต่เฟดจะดำเนินการอย่างไรต้องติดตามต่อไป ทั้งนี้เศรษฐกิจสหรัฐได้ปรับตัวดีขึ้นในระดับที่น่าพอใจ ภาคแรงงานแข็งแกร่งขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่าเฟดต้องใช้ความระมัดระวังในการดำเนินการเพราะหากว่าปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้วก็ไม่ควรกลับการตัดสินใจในระยะสั้น ด้านประธานเฟดชิคาโก มองว่าเฟดไม่ควรรีบปรับขึ้นดอกเบี้ย และเห็นว่าดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐไม่ควรต่ำกว่า 1% ในสิ้นปี 59 ส่วนรองประธานเฟดส่งสัญญาณความเป็นห่วงต่อปัจจัยเสี่ยงภายนอก ที่อาจมีผลกระทบต่อการนำเข้า-ส่งออกของสหรัฐ
สหรัฐ : นักลงทุนจับตาดูรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันที่ 14 ต.ค.58 รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค.
- ราคาน้ำมันดิบร่วงลง...กดดันหุ้นกลุ่มก๊าซและน้ำมันในระยะสั้น โดยสัญญา WTI และ BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย.58 ลดลง 2.53 และ 2.79 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 47.1 และ 49.86 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากกลุ่มโอเปกรายงานว่าการผลิตน้ำมันดิบช่วงก.ย.58 ของกลุ่มเพิ่มขึ้น 109,000 บาร์เรลเป็น 31.57 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 55
+ แต่...กลุ่มโอเปกคาดสหรัฐปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันในปี 59 ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 8 ปี โดยประมาณการว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง 6 หมื่นบาร์เรล/วันจากปีนี้ แตกต่างจากคาดการณ์ครั้งก่อนว่าจะผลิตเพิ่มขึ้น ปัจจัยที่ทำให้โอเปกเปลี่ยนมุมมอง คือ ราคาน้ำมันที่ตกต่ำทำให้การลงทุนขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐลดลงมากและเร็วกว่าที่กลุ่มโอเปกได้คาดการณ์ไว้ ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ส ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลด้านน้ำมันเปิดเผยรายงานล่าสุดว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐลดลง 9 แท่น สู่ระดับ 605 แท่นในสัปดาห์ล่าสุด ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ค.53
+ คาดปริมาณอุปทานน้ำมันส่วนเกินจะค่อยๆลดลงในปี 59 และราคาน้ำมันดิบจะทยอยปรับขึ้นได้ และทำให้มุมมองลบต่อหุ้นในกลุ่มก๊าซและน้ำมันจะน้อยลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาน้ำมันจะยังไม่ได้ปรับขึ้นรวดเร็วและอยู่ในระดับสูงเหมือนในช่วงกลางปี 54-กลางปี 57 ที่ระดับกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล เรามีมุมมองที่เป็น Neutral กับราคาและแนวโน้มของหุ้นในกลุ่มก๊าซและน้ำมัน กลยุทธ์การลงทุน คือ การทยอยซื้อสะสมจังหวะราคาหุ้นอ่อนตัว โดยฝ่ายวิจัยฯ ให้ราคาพื้นฐานระยะยาวของ PTTEP ไว้ที่ 100 บาท (อิงกับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบ BRENT ในปี 58-60 ที่ 56-65 ดอลลาร์/บาร์เรลและระยะยาวหลังปี 60 ที่ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล) และราคาพื้นฐานระยะยาวของ PTT ที่ 350 บาท
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นต่อ ดัชนี DJIA บวกขึ้น 47.37 จุด (+0.28%) โดยดัชนีกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 17,000 จุดได้อีกครั้ง แต่การซื้อขายก็เบาบางเพราะไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ๆ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทรายใหญ่เปิดเผยรายงานกำไรประจำไตรมาส 3 เช่น เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, โกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกัน, ธนาคารเวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป เป็นต้น
+ ราคาทองคำบวกขึ้น โดยสัญญาตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 8.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1164.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่น
กลุ่มที่พักอาศํย : คาดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จะเข้าพิจารณาในครม.วันนี้ (13 ต.ค.58) โดยธอส.เตรียมปล่อยกู้ 1 หมื่นล้านบาท ผ่อนปรนเงื่อนไข เงินเดือน 3 หมื่นบาทมีสิทธิกู้ได้ถึง 3 ล้านบาท (เดิมกุ้ได้ 1.8 ล้านบาท) ลดหย่อนค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน เป็นต้น
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ : ราคาหุ้นกลุ่มที่พักอาศัยได้ขยับขึ้นมารับข่าวบวกเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ไปแล้วพอควร ดังนั้นถ้ามาตรการออกมาไม่มีอะไรที่เป็น Positive Surprise การเก็งกำไรตามรอบก็ควรระวังการขายทำกำไรระยะสั้น หรือ Sell on Fact แต่สำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาว ยังสามารถถือหุ้นพื้นฐานดี สภาพคล่องทางการเงินแข็งแกร่ง และจ่ายปันผลสูงต่อไปได้ รวมทั้งแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมต่อในจังหวะที่ราคาหุ้นอ่อนตัวแรง หุ้นธุรกิจมั่นคง หนี้สินต่ำ Valuation จูงใจ และจ่ายปันผลสูง เป็น LPN, PS, SPALI
กลุ่มสื่อสาร : กสทช.คาดประกาศผู้มีคุณสมบัติประมูล 4G คลื่น 1800 MHz ได้ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ และจะเปิดประมูลวันที่ 11 พ.ย.นี้ ส่วนคลื่น 900 MHz จะเปิดให้ขอรับใบอนุญาตใช้คลื่นได้วันที่ 22 ต.ค.นี้ คาดว่ามีผู้ยื่นซองไม่น้อยกว่า 4 ราย สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการประมูลทั้ง 2 คลื่น กสทช.คาดว่าจะไม่น้อยกว่า 73,000 ล้านบาท และภาคเอกชนที่ประมูลได้ต้องมีการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ 4G อีกไม่น้อยกว่า 150,000 ล้านบาท
กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง : คมนาคมยืนยันปี 59 จะมีประมูลรถไฟความเร็วสูงอย่างน้อย 2.3 แสนล้านบาท ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าในปี 59 จะมีการเปิดประมูลรถไฟความเร็วสุง 2 เส้นทาง วงเงินลงทุน 2.3 แสนล้านบาท โดยขณะนี้สรุปผลการศึกษาแล้วและเตรียมส่งกลับให้รฟท.ดำเนินการตามพ.ร.บ.ร่วมทุนปี 56...นับเป็นบวกกับกลุ่มรับเหมา & วัสดุก่อสร้าง ที่จะมีงานประมูลใหม่ๆ เข้ามามากขึ้นในปี 59 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม โดยธรรมชาติของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างมักจะเก็งกำไรกันในช่วงที่ได้รับงานใหม่ แต่หุ้นกลุ่มนี้มักมี Downside Risk เรื่องผลประกอบการที่บ่อยครั้งจะแย่กว่าคาด เพราะหลายงานที่รับมามีต้นทุนดำเนินงานที่สูงกว่าคาด หรือบางงานก็ต้องแข่งขันสูงจนมาร์จิ้นบางมาก ส่วนกลุ่มวัสดุก่อสร้างหลัก คือ ปูนซีเมนต์ จะมีมาร์จิ้นที่ค่อนข้างเสถียรมากกว่า ดังนั้นหากจะเป็นการลงทุนระยะยาว เราก็ชอบวัสดุก่อสร้างหลักมากกว่า หุ้นเด่น คือ SCC (ราคาพื้นฐานระยะยาวอยู่ที่ 580 บาท)
นักวิเคราะห์ & กลยุทธ์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค
[email protected]