- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 October 2015 15:57
- Hits: 1109
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Domestic Play
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้มีความพยายามที่จะขยับขึ้นทดสอบด่าน 1,420 จุด แต่เกิดแรงขายทำกำไรในกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมีที่ดีดตัวขึ้นเด่นในสัปดาห์ก่อน แม้ว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX ยืนเหนือ US$50 ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่ SET INDEX ซึมตัวลงไม่มาก ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,412,49 จุด บวกอีกเล็กน้อย 1.16 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 51,115 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติน่าสนใจต่อเนื่อง ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีก 801 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 10 อีก 6,242 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 มากถึง 12,411 ล้านบาท สอดคล้องกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างโดดเด่นสู่แนว 35.35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ +/-
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามการประชุม ครม. ต่อโอกาสการเสนอแผนกระตุ้นภาคอสังหาฯ ในวันนี้
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับฐานลงแรงกว่า 5% คืนวานนี้ จากแรงขายทำกำไร ขณะที่ OPEC คาดการณ์กำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ จะลดลงอย่างต่อเนื่องถึงเดือนส.ค.ปีหน้า
สถานะ YTD ของต่างชาติใน SET50 Index Futures กลับมาเป็น Long สุทธิครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน เป็น 6,093 สัญญา
VIX Index ของ S&P500 สหรัฐฯ กลับสู่กรอบ 15-17 สะท้อนการลงทุนกลับสู่ภาวะปกติ
เช้านี้ติดตามตัวเลขการส่งออกเดือนก.ย.ของจีน Bloomberg consensus คาด -6.0% yoy เร่งขึ้นจากเดือนส.ค.ที่ -5.5% yoy
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุน "กลางถึงบวก" วันที่ 4 แม้ว่า SET INDEX วานนี้จะหลุดแนว 1,410 จุดระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่ยังสามารถกลับมาปิดยืนเหนือแนวดังกล่าวได้ โดยเรายังมองการไต่ระดับขึ้นในรอบนี้ สู่ด่าน 1,440-1,450 จุด ผลักดันด้วยหุ้นหลักในกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี / กลุ่มอสังหาฯ / กลุ่มธนาคาร ด้วยปัจจัยเชิงเก็งกำไรเฉพาะกลุ่ม รวมถึง valuation ของกลุ่มเหล่านี้ ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไรในปีนี้
แม้ว่าในวันนี้ กลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี จะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับฐานลงแรงคืนวานนี้ แต่ก็เป็นเพียงการปรับฐานช่วงสั้นเท่านั้น เพราะแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่า และกำลังการผลิตในสหรัฐฯ ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จะเป็นตัวจำกัด Downside risk แต่กลับเอื้อต่อภาวะการเก็งกำไรในราคาน้ำมันดิบได้
อีกทั้งเม็ดเงินทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้าตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่อย่างหนาแน่นและต่อเนื่อง รวมถึงตลาดหุ้นไทย เราให้น้ำหนักกับตลาด SET50 Index Futures ที่นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิอย่างหนาแน่นและต่อเนื่อง QTD เป็น Long สุทธิมากถึง 66,817 สัญญา และ YTD กลับมาเป็น Long สุทธิครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน 6,093 สัญญา แม้ว่า S50Z15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เพียง 0.53 จุดเท่านั้น สะท้อนมุมมองต่อ SET50 Index ยังมี upside gain ที่น่าสนใจ จึงยังคง Long สุทธิอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นจุดที่สะท้อน downside risk จำกัดเช่นกัน
ส่วนกลุ่มอสังหาฯ วันนี้ คาดว่าจะแข็งแกร่งต่อเนื่องจากวานนี้ ทั้งนี้ติดตามผลการประชุมครม.วันนี้ ถึงรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ อาจมีมาตรการช่วยเหลือที่มากกว่าการลดหย่อนภาษี / ค่าธรรมเนียม ที่พูดถึงมาก่อนหน้านี้
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ช่วงนี้ เป็นกลาง ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ตัวเลขการส่งออก - นำเข้าของจีน จะรายงานวันพรุ่งนี้ อาจมีผลต่อการคาดหวังที่จะเห็นธนาคารกลางจีนจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหรือไม่ และปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอีกประการจะเป็นรายงาน Beige Book วันที่ 14 ต.ค. เพื่อประเมินโอกาสที่จะเฟดจะคงนโยบายการเงินในการประชุมปลายเดือนนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่เก็งกำไรมาก่อนหน้านี้ ควรถือเพื่อรอขายทำกำไรรอบนี้บริเวณ 1,440 จุด +/- แต่หากหุ้นเป้าหมายกลับปรับฐานลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย กลายเป็นจังหวะของการเพิ่มน้ำหนักเก็งกำไรมากขึ้น"
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ ADVANC/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: PS
Buy on Weakness: IRPC
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. PS : ราคาปิด 29.00 บาท ราคาเหมาะสม 31.80 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะมี Momentum เชิงบวก ต่อการเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เป็นเวลา 6 เดือนที่จะนำเสนอต่อ ครม.พิจารณาในวันนี้
b) ราคาหุ้น Laggard และปรับตัวลงมาก MTD โดย PS +0.87% เทียบกับหุ้นในกลุ่ม เช่น AP +12.96%, QH +9.92%, LH +8.07%, LPN +6.47% เป็นต้น และ SET Property +4.82%
c) เราประเมินในเบื้องต้นว่าบริษัทที่จะได้ผลประโยชน์มากที่สุดคือ PS จากฐานลูกค้าในระดับล่างมีสัดส่วนสูง การก่อสร้างที่เร็ว และหากมีการลดค่าธรรมเนียม PS ก็จะยังได้ประโยชน์สูงเนื่องจากเป็นบริษัทที่มีรายได้สูงที่สุดในกลุ่มบ้าน
d) ยอด PS รายงานยอด Presales ของเดือน ก.ย. ที่เท่ากับ 3,324 ล้านบาท (-28% MoM และ -21% YoY) โดยมีสัดส่วนของแนวราบ : คอนโดมิเนียม เท่ากับ 80 : 20 และหนุนให้แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H58 จะดีกว่า 1H58
e) และซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 9.70x เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 13.23x
และ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว"
2. IRPC : ราคาปิด 4.14 บาท ราคาเหมาะสม 4.20 บาท
a) การปรับฐานลงของราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ Brent กว่า 5% คืนวานนี้ เป็นเพียงแรงขายทำกำไรรอบสั้น หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX ไม่สามารถยืนเหนือ US$50/barrel ได้เท่านั้น เรายังประเมินว่า ทิศทางราคาน้ำมันดิบในช่วงสั้นจะไต่ระดับกลับไปทดสอบด่าน US$50 ได้อีกครั้ง จากความตึงเครียดในซีเรีย / อัฟริกาเหนือ และการลดกำลังการผลิตและแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ ของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง
b) การปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ ย่อมกดดันต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึง IRPC กลายเป็นโอกาสของการเข้าเก็งกำไรรอบสั้น เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงจากประเด็นดังกล่าว
c) แม้ผลประกอบการ 3Q58 จะถูกกดดันจากผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน แต่เชื่อว่า IRPC จะยังเด่นกว่าหุ้นอื่นๆในกลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษเงินประกันรับคืนจากเหตุไฟไหม้ เข้ามาช่วยหักล้างผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันได้ส่วนหนึ่ง
d) ขณะที่ผลประกอบการ 4Q58 คาดว่าจะกลับมาขยายตัวเด่น qoq จากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากเข้าสู่ High Season ของฤดูหนาวซึ่งมีความต้องการใช้พลังงานสูง จึงคาดว่าหุ้นกลุ่มโรงกลั่นจะกลับมาบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมันใน 4Q58 รวมถึงโครงการอัพเกรดโรงกลั่นเป็น Complex จากเดิม Simple ทำให้ค่าการกลั่นเฉลี่ยของ IRPC จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นอีกปัจจัยที่เอื้อต่อผลการดำเนินงานใน 4Q58 ให้เติบโต qoq
e) คาดผลประกอบการปี 2558 พลิกกลับเป็นกำไรสุทธิ 6,556 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 9,374 ล้านบาท ในปี 2557 และเติบโต +23% qoq เป็น 8,078 ล้านบาท จากแรงหนุนของโครงการ Phoenix ที่จะเริ่ม CDO ในช่วงปลายปี 2558
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก US$477 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$88 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติ กลับมา Long สุทธิใน ยอด YTD เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน
นักลงทุนต่างชาติ คงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีกเล็กน้อย 801 ล้านบาท รวม 5 วันทำการซื้อสุทธิ 6,169 ล้านบาท สอดคล้องกับเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้างตลาดเอเชียเกิดใหม่ แต่ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงสูงกว่า 1.0 แสนล้านบาท เป็น 101,270 ล้านบาท
ส่วน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 10 อีก 6,242 สัญญา รวม 10 วันทำการ Long สุทธิ 80,288 สัญญา ทำให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิ 66,817 สัญญา กดดันให้ S50Z15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เหลือเพียง 0.53 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 3.90 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน 6,093 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก 12,411 ล้านบาท รวม 5 วันทำการ ซื้อสุทธิ 52,000 ล้านบาท แม้ว่าราคาพันธบัตรไทยทรงตัว ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.41bps จากวันก่อนหน้าลดลง 4.65bps ปิดที่ 2.629%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 970 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 797 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 เป็นลักษณะ Basket orders ที่เน้นกลุ่มธนาคารต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 2,717 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,508 ล้านบาท รวม 6 วันทำการซื้อสุทธิ 6,221 ล้านบาท ยังคงเน้นสะสมหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างโดดเด่น สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 มากถึง 1,208 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,192 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 503 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 329 ล้านบาท กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 239 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 157 ล้านบาท และกลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 182 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 83 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มไฟแนนซ์ ถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 10 ล้านบาทเท่านั้น
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
OPEC ประเมินกำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี: OPEC รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลง 300,000 บาร์เรล/วัน ในเดือนส.ค. และเดือนก.ย. แนวโน้มกำลังการผลิตจะลดลงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนส.คง 2559 และจะเริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้งในปลายปีหน้า ซึ่งในรายงานโอเปกล่าสุดได้ให้น้ำหนักกับการผลิตของ Shale เป็นสำคัญ ประเมินว่าผู้ผลิต Shale หลัก 4 ใน 7 ของสหรัฐฯ จะลดกำลังการผลิตในเดือนต.ค.
ยุโรป
ไม่มี
จีน
ธนาคารกลางจีนยืนยันตลาดหุ้นจีนผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว: เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ ธนาคารกลางจีน ให้ความเห็นต่อตลาดหุ้นจีนที่ปรับฐานลงแรงไปก่อนหน้านี้ ใกล้สิ้นสุดแล้ว
ยอดการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศชะลอตัวลง: เพิ่มขึ้น 7.1% yoy สำหรับเดือน ก.ย. สู่ระดับ 5.947 หมื่นล้านหยวน จากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 22% yoy ทำให้ตัวเลขสำหรับ 9M58 เพิ่มขึ้น 9.0% yoy สู่ระดับ 5.85 แสนล้านหยวน
เอเชียแปซิฟิก
ประธาน BoJ ส่งสัญญาณไม่เพิ่มมาตรการในการประชุมเดือนนี้: อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นไปตามที่ BoJ คาดการณ์ แต่หากมีความจำเป็น BoJ ก็พร้อมที่จะเพิ่มมาตรการทางการเงิน แต่ ณ ปัจจุบัน ถือว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มมาตรการทางการเงิน
ตลาดคาดธนาคารกลางสิงคโปร์เตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงินรอบที่ 2 ในปีนี้: The Monetary Authority of Singapore ที่มีนโยบายหลักในการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนมากกว่าการกำหนดอัตราดอกเบี้ย เตรียมออกมาตรการกระตุ้นในการประชุมวันที่ 14 ต.ค.นี้ จากความเห็นของ Bloomberg consensus หลังค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่าไปแล้ว 8% ในปีนี้
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมมาเลเซียขยายตัวต่ำกว่าคาด: เพิ่มขึ้น 3.0% yoy ในเดือน ส.ค. ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +6.1% yoy และต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดเพิ่มขึ้น 4.1% yoy ทั้งนี้การส่งออกนำโดยภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น 4.3% yoy รวมถึงการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 15.9% yoy ขณะที่อุตสาหกรรมเหมืองแร่ลดลง 3.4% yoy
ตัวเลขเศรษฐกิจอินเดียออกมาเป็นกลาง
อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย.เร่งตัวขึ้น โดย +4.41% yoy จากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 3.74% yoy แต่ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus คาด +4.40% yoy
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 6.4% yoy ในเดือน ส.ค. เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 4.1% yoy และดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดเพิ่มขึ้น 4.8% yoy นำโดยสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้น 17% yoy รวมถึงสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้น 21.8% yoy
ไทย
รมว.พลังงาน ยันปี 59 สัมปทานปิโตรเลียม และเร่งพลังงานทดแทน: รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า จากนี้ไปจนถึงปี 2559 จะดำเนินการภายใต้นโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการดำเนินการตามแผนบูรณาการพลังงานระยะยาวของประเทศ หรือ Thailand Integrated Energy Blueprint 2558 - 2579 ซึ่งประกอบด้วย 5 แผนที่สำคัญ และแต่ละแผนฯ จะมีแนวทางดำเนินการที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงเวลา 1 ปีนี้ ได้แก่ 1. แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2558-2579 หรือ PDP2015โครงการที่สำคัญ อาทิ การรับซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้าน จากโครงการโรงไฟฟ้าหงสาเครื่องที่ 3 2. แผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2558-2579 (Energy Efficiency Plan; EEP 2015) จะมีโครงการสำคัญ อาทิ แนวทางจัดการอาคาร/โรงงานควบคุม 11,662 แห่ง เริ่มมีการขึ้นทะเบียนผู้ตรวจสอบ 3. แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558 - 2579 (AEDP 2015) โครงการสำคัญ อาทิ เร่งรัดโครงการพลังงานทดแทนค้างท่อประมาณ 1,000 เมกะวัตต์ โครงการโซล่าร์ในหน่วยงานราชการ/สหกรณ์ การออกมาตรฐานไบโอดีเซล B10 การผลักดันการผลิตก๊าซไบโอมีเทนอัด หรือ CGB จากน้ำเสียโรงงาน เป็นต้น 4. แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2558-2579 (Oil Plan 2015) โครงการสำคัญ อาทิ ความชัดเจนในการปรับภาษีสรรพสามิต LPG เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และ 5. แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติระยะยาว พ.ศ.2558 - 2579 (Gas Plan2015) โครงการสำคัญ อาทิ ความชัดเจนด้านการเปิดให้สำรวจและผลิตปิโตรเลียม แนวทางการบริหารจัดการแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่ใกล้หมดอายุ การจัดการโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติท่อส่งก๊าซบนบกเส้นที่ 5
คมนาคม สัญญาตบเกียร์ห้า ลงทุน: รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงการประชุมร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 ต.ค. รายงานความก้าวหน้าโครงการลงทุนระบบรางที่รองนายกฯ ได้กำชับให้กำหนดแผนงานในแต่ละโครงการที่ชัดเจนว่าจะเริ่มต้นเมื่อใด โดยจะเร่งปรับแผนลงทุนใน 19 โครงการ วงเงิน 1.7 ล้านล้านบาทให้เร็วขึ้น และเร่งเสนอคณะรัฐมนตรี และประกวดราคาให้ได้ในปี 2559 เพื่อสร้างความมั่นใจกับนักลงทุนว่าโครงการขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นแน่นอน และให้ภาคเอกชนกล้าตัดสินใจเพิ่มการลงทุน โดยโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 17,290 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) 23.6 กม. วงเงิน 104,116 ล้านบาท
รถไฟทางคู่พร้อมประมูลอีออคชั่น พ.ย.: นายวุฒิชาติ ผู้ว่า ร.ฟ.ท. กล่าวถึงความคืบหน้าการประกวดราคาโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร (กม.) วงเงินประมาณ 10,524 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างประกวดราคาจำนวน 2 สัญญา คือ สัญญา 1 งานก่อสร้างทางรถไฟช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบัวใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง 3 แห่ง มี 6 บริษัทยื่นประกวดราคา คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอ็นจิเนียริ่ง (1964) จำกัด กลุ่มกิจการร่วมค้าทีซี จอยต์เวนเจอร์ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนิยริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และกลุ่มกิจการร่วมค้าซีเคซีเอช สัญญา 2 งานก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงวิหารแดงบุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ วงเงิน 598 ล้านบาท มีบริษัทยื่นประมูล 4 ราย คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กลุ่มกิจการร่วมค้าทีซี จอยต์เวนเจอร์ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด โดยจะเปิดให้แข่งขันเสนอราคาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีออคชั่น) ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางจิระ (นครราชสีมา)-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงินประมาณ 26,000 ล้านบาท จะเป็นโครงการต่อไปที่จะเร่งดำเนินการ โดยเปิดขายซองประกวดราคาแล้วเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ต้นเดือนพฤศจิกายนจะเปิดให้ยื่นซองประกวดราคาประมูลแบบอีออคชั่น
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530