- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 12 October 2015 17:41
- Hits: 1785
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ขยับขึ้นในกรอบจำกัด
เราคาดตลาดไทยมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อในวันนี้จากปัจจัยต่างประเทศคือราคาน้ำมันดิบที่เเข็งเเกร่งอยู่ในช่วงนี้ ประกอบกับตลาดหุ้นจีนที่เริ่มฟื้นตัวได้ก็ช่วยหนุนsentimentโดยรวม สำหรับกลยุทธ์เรายังคงเเนะนำทยอยขายทำกำไรบ้างขณะที่ตลาดปรับขึ้นเหนือ 1410 จุด เนื่องจากประเด็นเฟดเเละเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวมีโอกาสกลับมากดดันตลาดไทยได้อีก
แนวรับ/แนวต้าน : 1400/1420 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
กลยุทธ์ : เริ่มสะสมหุ้นเมื่อดัชนีย่อลง เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง
นักลงทุนระยะสั้น : NUSA (1.50) , CSS (6.20)
NUSA (1.50) เราคาดกำไรจะโตได้สูงปี นี้ ประกอบกับราคาปัจจุบันถือว่ายังถูกอยู่ในแง่ของ price to book แถมมี Land bank ซึ่งมีต้นทุนน้อยมาก บวกกับโครงการ NUSA ONE และอีกหลายโครงการในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทในระยะยาว และในครึ่งปี หลังนี้แนวโน้มการโอนโครงการจะมีเข้ามากกว่าครึ่งปี แรกอีกด้วย หลังจากครึ่งปี แรกคอนโดขายดีจนเกินเป้าแล้วครับผม
CSS (6.20) ประกอบธุรกิจออกแบบและติดตั้งเสาแดงและอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ ลูกค้าหลักก็คือบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มสื่อสาร อย่างเช่น TRUE และ DTAC ราคาหุ้นเคยขึ้นจาก 6 บาทไป 8 บาทช่วงต้นปี แล้วก็ไหลลงมาเรื่อยๆจนปัจจุบันเหลือ 5 บาทต้นๆ เพราะบริษัทประกาศยกเลิกการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้ า solar farm ที่ญี่ปุ่น บวกกับนักลงทุนเริ่มกังวลกันเรื่องที่บริษัทยังไม่มีงาน Backlog ที่ชัดเจนรอไว้สำหรับปี หน้าถึงแม้ว่าปี นี้จะมีรายได้และกำไรเติบโตดีก็ตาม กลยุทธ์สำหรับหุ้นตัวนี้เรามองว่า ใครที่ติดอยู่ตํ่ากว่า 6 บาท อุ่นใจได้ ถือต่อและควรซื้อต่อถ้าเห็นตํ่ากว่า 5 บาทอีก ภายในสิ้นปีนี้น่าจะได้เห็นกลับขึ้นไป 6 บาทได้เพราะ 1)ไตรมาส 4 ปกติและจะเป็ น High season ของธุรกิจสื่อสาร ทำให้น่าจะมีงานใหม่เป็น Backlog มาเพิ่มสำหรับปีหน้า 2)การประมูล 4G จะช่วยเสริม sentiment กลุ่มสื่อสารให้เป็นบวก แต่ถ้าเห็น 6 บาทภายในสิ้นปีนี้ อย่าโลภนะครับ ต้องขาย เพราะ CSS-W1 จะหมดอายุในเดือน มี.ค.59 (120 ล้านหุ้น) 1:1.201 หุ้นราคาใช้สิทธ์ 1.249 บาท สรุปคือถ้าเห็น CSS ตํ่ากว่า 5 บาท ซื้อ เห็น 6 บาท เผ่นครับ
นักลงทุนระยะยาว : BDMS (25.50), TVO (33.75)
BDMS (25.50) โดยขณะนี้ BDMS มีราคาถูกที่สุดและ upside ที่สูงที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล ด้วย Target price ที่เราให้ไว้อยู่ที่ 25.50 ซึ่งให้ upside สูงถึง 30% ปัจจัยบวก มีอยู่หลายประการนะครับ เช่น 1.)BDMS จะสร้างตึกเพิ่มอีก 6 ตึก แต่ละตึกมี 60 เตียง ลงทุน 6 พันล้านบาท และ 2 พันล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ โดยจะสร้างไว้รองรับผู้ป่วยต่างชาติจากการเปิด AEC โดยเราคาดว่าจะช่วยเพิ่ม capacity ได้ถึง 74% ภายในปี 2018 2.)BDMS มีแผนเปิดโรงพยาบาลเพิ่ม คือสมิทติเวช ชลบุรีในปีนี้ และเปาโลรังสิต และจอมเทียน Hospital ในปี หน้า และตั้งใจจะซื้อโรงพยาบาลเพิ่มอีก 6 โรงพยาบาลให้มีครบทั้งหมด 50 แห่ง 3.)อัตราส่วนของผู้ป่ วยต่างชาติมีมากขึ้นเรื่อยๆ (30% เทียบกับ 25% เมื่อ 5 ปีก่อน) 4.)มีแผนขยายธุรกิจขายยาและเวชภัณฑ์ที่มี Margin สูงกว่าธุรกิจโรงพยาบาลทั่วไป สรุปคือ BDMS มี upside สูงถึง 30% และมีแผนขยายธุรกิจอย่างชัดเจน จัดเป็นหุ้น defensive ที่ต้านตลาดและเศรษฐกิจขาลงได้ดี
TVO (33.75) ตลาดมันแกว่งแรงความเสี่ยงก็เยอะ เอาหุ้นปันผลสูงๆติดพอร์ตไว้ก็ดีครับ TVO ตัวนี้ Downside risk จากราคาถั่วเหลืองตกตํ่ามีน้อย เนื่องจากราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกปัจจุบันใกล้เคียงกับราคาต้นทุนของเกษตรกรสหรัฐที่ 9USD/bushel แถมให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 58 ที่ดีราว 7% โดยคาดเงินปันผลปี 58 ที่ 1.62 บาท/หุ้น ประกอบกับปัจจุบันการปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐนั้นตํ่ากว่าที่คาดไว้เพราะมีปัญหาฝนตกหนักในพื้นที่ปลูกถั่วเหลือง ช่วยเสริม sentiment บวกให้กับราคาถั่วเหลืองในระยะกลางถึงระยะยาวด้วย ดังนั้นค่อยๆเก็บสะสม TVO ถือยาวๆกินปันผลกันนะครับ
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
+ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน-รับเหมาก่อสร้าง-ค้าบริการ-สิ่งทอ แห่ปักธงแม่สอด-สระแก้ว รับเขต ศก.พิเศษ 300 บริษัทแห่จดทะเบียน กว่า 30 รายยื่นขอส่งเสริมลงทุน ยักษ์น้ำตาล "กว้างชุ่นหลี" จ่อตั้ง โรงงานสระแก้ว "รอสโซ่" ขอ BOI โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แจม EXIM ลอนช์สินเชื่อ พิเศษรับนักลงทุน
+ เปิดโครงสร้างย้อนหลัง 3 ปีรายได้แบงก์พาณิชย์ยังอู้ฟู่ ทั้งรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อ และรายได้จากค่าธรรมเนียมบริการ มองแนวโน้ม ปี 59 แข่งขันโกยรายได้ค่าฟีเดือด ผู้บริหารแบงก์หวังแนวโน้มรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อโตดีกว่าปีนี้
- อสังหาฯแย่ปลุกไม่ขึ้น งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 33 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 ต.ค.ที่ผ่านมา ปิดฉากลงแล้ว โดยผู้จัดงานตั้งเป้ายอดขายถึง 3,000 ล้านบาท ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะพลาดเป้า โดย น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นการฟื้นตัวของกำลังซื้อแม้ว่าคนเดินจะไม่ได้ลดลงมาก ยอดขายส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคอนโดมิเนียมในเมือง ในส่วนของเสนาฯ เองโครงการย่านรัชวิภา เพชรบุรี และบางนา ระดับราคาประมาณ 2 ล้านบาทต้นๆ ขายดี ส่วนคอนโดรอบนอกเมืองมียอดน้อยมาก เช่นเดียวกับบ้าน แนวราบที่ขายได้น้อยมากเช่นกัน
- บริษัทอสังหาฯจีนชะลอลงทุน ในไทย "คอลลิเออร์สฯ" ชี้รอจังหวะเศรษฐกิจฟื้น คอนโดฯยังล้นตลาด เผย 50 นักธุรกิจฮ่องกงถอนตัวลงทุนที่เชียงใหม่ไปมาเลย์แทน "ชลบุรี-ภูเก็ต" ยังเงียบ จับตาซีพีผนึกกรีนแลนด์ลุยโปรเจ็กต์พัทยาปีหน้า "เทียนเฉินฯ" ทุ่มหมื่นล้านยึดพระราม 9
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 33.74 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 17,084.49 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
+ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปรับขึ้น 41.34 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 6,416.16 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับขึ้นเมื่อวันศุกร์ (9 ต.ค.) นำโดยการพุ่งขึ้นของหุ้นเกลนคอร์ หลังจากบริษัทประกาศปรับลดการผลิตสังกะสี ซึ่งเป็นผลมาจากราคาที่ย่ำแย่ลง
+ ดัชนีนิกเกอิปิดขึ้น 297.50 จุด หรือ 1.64% แตะที่ 18,438.67 จุด
- สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือนพ.ย.ปิดบวก 20 เซนต์ แตะที่ 49.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (9 ต.ค.) เนื่องจากมีข้อมูลที่ส่งสัญญาณว่าผลผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐกำลังปรับตัวลง
นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล, CFA Email : [email protected] Tel: 02 659 8154