- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 09 October 2015 16:41
- Hits: 1601
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
รายงานประชุม Fed ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย
คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวันนี้ โดยที่มุมมองเป็นบวกในตลาดต่างประเทศ เรื่อง Fed ว่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย ช่วยหนุนข่าวที่รวมๆแล้วเป็นบวกในประเทศ รายงานการประชุม Fed ล่าสุดบ่งชี้ว่ายังจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนี้การแถลงร่วมกันของ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ว่าจะดำเนินความพยายามร่วมกันหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจภูมิภาค ถือเป็นปัจจัยบวก รวมทั้งตัวเลขการกลับมาของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทยเดือน ต.ค.
หุ้นเด่นวันนี้ : SAWAD (ราคาปิด 37.00 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 58 ของ AWS 48.00 บาท)
บมจ. ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ เนื่องจากเราคาดว่าบริษัทจะรายงานผลกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/58 บริษัท จะเข้าสู่ high season ของการปล่อยสินเชื่อและกำลังขยายสาขาในเชิงรุก เพื่อที่จะเข้าถึงประชากรที่ยังไม่สามารถใช้บริการธนาคารพาณิชย์ ผู้บริหารตั้งเป้าเพิ่มสาขาขึ้นเป็น 1,600 สาขาในปี 58 และ 2,000 สาขาในปี 58 นอกจากนี้ SAWAD ให้บริการติดตามหนี้แก่ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อสองบริษัทและธนาคารอีกสามแห่ง โดย SAWAD ตั้งเป้าขยายฐานลูกค่ารวมทั้งเพิ่มมูลค่าหนี้ที่เรียกเก็บ ขณะเดียวกัน SAWAD ซื้อพอรต์ NPL ด้วยราคา 200 ล้านบาทและบริษัทคาดจะทำการบริหารและเรียกเก็บหนี้ได้ภายในสองถึงสามปี และมีแผนจะเข้าซื้อ NPL อีก 1 พันล้านบาทใน 2H15 เราประมาณการอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 3 ปีแบบสะสม (CAGR) อยู่ที่ 38% ระหว่างปี 2557-2560 อิงจากการเติบโตของสินเชื่อที่สูงมากจากการขยายสาขาอย่างรวดเร็วและส่วนต่างดอกเบี้ยที่มากขึ้น Price Pattern ของ SAWAD ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ และหากวันนี้ Price Pattern ของ SAWAD สามารถปิดตลาดได้เหนือ 37.25 บาท ซึ่งเป็นการปิดในรายสัปดาห์ จะทำให้ Price Pattern ของ SAWAD กลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ ยิ่งจะทำให้ Price Pattern ของ SAWAD มีความแข็งแกร่งในการปรับตัวขึ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ SAWAD หากวันนี้สามารถปรับตัวขึ้นไปปิดเหนือ 37.25 บาทได้สำเร็จ คาดว่าน่าจะได้เห็นการปรับตัวขึ้นเพื่อไปทดสอบเป้าหมายสำคัญในรอบนี้ที่ 39 บาทได้ไม่ยาก
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงต่อ ผลสำรวจจาก ม.หอการค้าไทยเผยวานนี้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงสู่ 72.1 จุดในเดือนที่แล้วจาก 72.3 ใน ส.ค. นับเป็นการลดลงรายเดือน 9 เดือนติดต่อกันและแตะจุดต่ำสุดนับแต่ พ.ค. 57 หลังความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นหลังช่วงรัฐประหาร ประชาชนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ (Bangkok Post)
อาจเกิดน้ำท่วม ฝนจะยังคงตกทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทยในวันนี้ไปจนถึงวันอาทิตย์เนื่องจากมีมรสุมพัดผ่านมายังประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศว่าจะมีฝนฟ้าคะนองกระจายและกองทัพได้ตั้งท่าพร้อมรับหากเกิดน้ำท่วมเกิดขึ้น (Bangkok Post)
เงินทุนต่างชาติกลับมาในตลาดหุ้นอีกครั้ง นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิในระหว่างเดือน ก.ย. ทำให้ยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ลดลงมาอยู่ที่ 103.4 พันลบ. อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นยังคงปรับตัวลดลงในเดือน ก.ย. จากนักลงทุนภายในประเทศที่ไม่ใช่สถาบัน โดยขายสุทธิ 10.4 พันลบ.แต่ตัวเลข YTD ยังคงมีสถานะซื้อสุทธิที่ 51 พันลบ. (The Nation)
เตรียมรับมืออุปสงค์สินค้าอ่อนกำลัง จากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชลอตัวและกำลังซื้อที่อ่อนแอลง สยามพารากอนได้ออกมาคาดการณ์ว่ายอดขายค้าปลีกอาจจะเติบโตน้อยกว่า 5% ในปีนี้ (The Nation)
ต่างประเทศ :
เฟดยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน รายงานการประชุมเฟดเดือนก.ย. ระบุว่าธนาคารกลางสหรัฐมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐเหมาะสมแก่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่ตัดสินใจที่จะรอเพื่อพิสูจน์ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกไม่ส่งผลกระทบต่อสหรัฐ นักลงทุนมองว่ารายงานการประชุมดังกล่าวแสดงถึงความโน้มเอียงน้อยลงที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยและไม่มีความกังวลเกี่ยวกับมุมมองเฟดในเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทต่างปิดบวกเมื่อวันพฤหัส ดัชนี S&P 500 ปิดแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เนื่องจากนักลงทุนมองว่ามีสัญญาณว่าเฟดยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินจากรายงานการประชุมเฟดเดือนก.ย. ซึ่งให้ความกระจ่างว่าเฟดตัดสินใจจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับใกล้ศูนย์ต่อไป หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันดิบทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน (Reuters)
บริษัท Alcoa ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 อย่างเป็นทางการ หลังจากตลาดหุ้นปิดทำการแล้ว โดยรายงานดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลด 4% ในช่วงต่อเวลาซื้อขาย ยอดขายรายไตรมาสของบริษัทลดลง 10.7% และไม่เป็นไปตามความคาดหมาย นักลงทุนกำลังรอดูผลกระทบของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวและเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อกำไรในไตรมาส 3 จากข้อมูลของทอมสัน รอยเตอร์ส เป็นที่คาดว่ากำไรของบริษัทที่ใช้ในการคำนวณดัชนี S&P500 จะลดลง 4.5% ในไตรมาส 3/58 ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 6 ปี (Reuters)
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐลดลงมากกว่าที่คาด ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 42 ปีเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นการชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงตึงตัวต่อไปถึงแม้ว่าการจ้างงานจะชะลอตัวในช่วงนี้ ตัวเลขดังกล่าวลดลง 13,000 ราย เท่ากับ 263,000 รายในสัปดาห์ก่อน ต่างจากการตัวเลขประมาณการของนักเศรษฐศาสตร์จะเท่ากับ 274,000 ราย ตัวเลขที่ประกาศเป็นตัวเลขต่ำสุดนับแต่กลางเดือนก.ค. ซึ่งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการฯ อยู่ในระดับต่ำสุดในปี 2516 อีกทั้งเป็นสัปดาห์ที่ 31 ติดต่อกันแล้วที่ตัวเลขฯ อยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ที่ 300,000 ราย (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัส โดยหุ้นยานยนต์ปรับตัวขึ้นหลังจากที่ Volkswagen ออกมายอมรับเรื่องฉ้อฉลเกี่ยวกับการตรวจสอบไอเสีย และกำลังแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังกังวลต่อปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และผลประกอบการไตรมาส 3 ที่กำลังจะออกมา (Reuters)
ส่งออกเยอรมันทรุดในเดือน ส.ค. มากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจปี 2009 สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ที่ชะลอตัวลงต่อเศรษฐกิจเยอรมันที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของยุโรป ส่งออกเยอรมันเดือน ส.ค. ร่วง 5.2% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 9.77 หมื่นล้านยูโร การนำเข้าลดลง 3.1% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 7.82 หมื่นล้านยูโร ดุลการค้าเกินดุลลดลงมาอยู่ที่ 1.96 หมื่นล้านยูโร (Reuters)
เอเชีย :
จีนผลักดันเทคโนโลยีสีเขียว ธนาคารกลางจีน (PBOC) กล่าวว่าจีนจะต้องมีการลงทุนเทคโนโลยีสีเขียวเป็นมูลค่า 2-4 ล้านล้านหยวนต่อปี (3.15-6.30 แสนล้านดอลลาร์ฯ) ในอีก 5 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ โดยจะเป็นส่วนการลงทุนของรัฐบาลราว 15% ก่อนหน้านี้จีนยืนยันว่าจะเริ่มดำเนินมาตรการควบคุมการปล่อยมลภาวะทั่วประเทศในปี 2560 และบังคับให้บริษัทที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต้องซื้อคาร์บอนเครดิต (Reuters)
จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีเฝ้าระวังสถานการณ์เศรษฐกิจโลก หลังจากการประชุมระหว่างกระทรวงการคลังและธนาคารกลางของจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ได้มีแถลงการณ์ร่วมกันออกมาว่า “เราพร้อมที่จะดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและภายในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้การเติบโตเศรษฐกิจในประเทศและในภูมิภาคเติบโตตามเป้าหมาย” (Reuters)
ความเชื่อมั่นภาคการบริการญี่ปุ่นเดือน ก.ย. หดตัวลง ดัชนีความเชื่อมั่นภาคการบริการญี่ปุ่นปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 47.5 ในเดือน ก.ย. จาก 49.3 ในเดือน ส.ค. ก่อนหน้า อย่างไรก็ตามดัชนีชี้วัดมุมมองความเชื่อมั่นในอนาคตปรับตัวสูงขึ้น 49.1 ในเดือน ก.ย. จาก 48.2 ในเดือน ส.ค. ก่อนหน้า (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันไต่ระดับกว่า 3% สูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์วันพฤหัส จากตลาดหุ้นจีนขึ้นสนับสนุนแรงซื้อและกองทัพรัสเซียเข้าร่วมรบในซีเรียเพิ่มส่วนชดเชยความเสี่ยงการเมืองระหว่างประเทศเข้าไปในตลาด ราคาน้ำมันBrent เพิ่ม 1.60 ดอลลาร์หรือ 3.1% ปิดที่ 52.93 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันสหรัฐปิดขึ้น 1.46 ดอลลาร์หรือ 3.1% แตะ 49.27 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ทองร่วงวันพฤหัส หลังรายงานประชุม Fed ระบุว่าผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐยังไม่ได้ข้อสรุปจากสัญญาณเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทองตลาดจรปรับลง 0.4% อยู่ที่ 1,139.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองล่วงหน้าส่งมอบ ธ.ค. ปรับลง 0.4% ก่อนหน้ารายงานประชุมจะเผยแพร่เพียงแค่ไม่นาน มาอยู่ที่ 1,144.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094