WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRA copyบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +122.10, NASDAQ +42.79, S&P +15.91, FTSE +10.19, CAC +6.70 และ DAX +67.57 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มเหมืองแร่ หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกปรับตัวขึ้น รวมถึงการคาดการณ์ว่าทางการจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังเศรษฐกิจชะลอตัวลง
  .....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. -US$0.72 อยู่ที่ US$47.81 ต่อบาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบ ล่าสุดเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล (มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล) อยู่ที่ 461 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน พร้อมเปิดเผยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุด เพิ่มขึ้น 76,000 บาร์เรล อยู่ที่ 9.172 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดการณ์ปริมาณผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยในปีนี้ อยู่ที่ 9.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 8.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี’59
  .....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$2.3 อยู่ที่ US$1,148.7 ต่อออนซ์ จากการเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางหลายแห่งเข้าซื้อทองคำไว้ในทุนสำรองเดือนส.ค. รวม 47 ตัน จากที่มีการซื้อทองคำ 62 ตัน เมื่อกค. โดยจีนและรัสเซียเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุด
  (+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,119 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -105,110 ล้านบาท (ปี’57 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)

ทิศทางตลาด :
  ทิศทางตลาด : ลุ้นทดสอบ 1,400 จุด? ภายใต้น้ำหนักที่ยังเป็นบวกโดยเฉพาะประเด็นในประเทศ จาก (1) แรงซื้อสุทธิของต่างชาติที่กลับเข้ามา ประมาณ 1,100 ล้านบาท ขณะที่เงินบาทล่าสุดแข็งค่าขึ้นจากช่วงก่อนหน้า ทำให้คาดในระยะสั้นอาจเห็น Fund Flow ไหลเข้ามาได้บ้าง (2) แม้ราคาน้ำมันล่าสุดจะปรับลดลง แต่ระดับราคายังสูงกว่าในช่วงที่ผ่านมา ทำให้คาดยังเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และ (3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ที่คาดจะมีการนำเข้า ครม. ภายในเดือนตค. ซึ่งคาดเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ
  .....ทางด้านปัจจัยต่างประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ คาดได้รับปัจจัยกดดันบ้างจากการที่ IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP ลง แต่คาดสามารถชดเชยจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางหลายประเทศยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป เช่นเดียวกับเฟดที่คาดเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปในปี’59 (เฟดเหลือการประชุม 2 ครั้งในปีนี้ วันที่ 27 – 28/10/58 และ 15 – 16/12/58) รวมถึงจีนที่คาดมีความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังเศรษฐกิจชะลอตัวลง
  ....โดยยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 35.88 – 35.93 แข็งค่าขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ 36.50 บาท (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้น โดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58 (6) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) หลัง กสทช. จะเปิดประมูลใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ในวันที่ 11/11/58 และ15/12/58 ตามลำดับ และ (7) เข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน – 3Q/58 โดยเริ่มจากกลุ่มธนาคาร ประมาณกลางเดือนนี้ คาดอาจกดดันภาพรวมตลาดฯ ภายใต้ความกังวลปัญหา NPL’s
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.03 อยู่ที่ 2.06% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.00 อยู่ที่ 18.40
  หุ้นแนะนำ : SIRI

ประเด็นที่ต้องติดตาม (8 - 9 ตค.’58)
  8/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
  9/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ราคานำเข้าและส่งออก - กย. (2) สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง - สค.

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!