WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

May copyบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้ Break 1380
ตลาดหุ้นวานนี้:
      ตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX เปิดบวกขึ้นทดสอบด่าน 1,370-1,375 จุด แต่เกิดแรงขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนต่างระมัดระวังต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น โดย ADVANC/ INTUCH / SCC เป็นหุ้นหลักที่ช่วยพยุงตลาดวานนี้ ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 7.52 จุด มาอยู่ที่ 1,370.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,281 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติยังคงน่าสนใจ คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 6 อีก 11,179 สัญญา กลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 1,210 ล้านบาท และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้วันแรกในรอบ 3 วันทำการ 440 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตลาดหุ้นจีน ยังคงปิดทำการจนถึงวันที่ 7 ต.ค. เนื่องในวันชาติจีน
     ติดตามการประชุม BoJ อาจส่งสัญญาผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมได้ หากจำเป็น
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทะลุ US$48/barrel แนวโน้มจะขึ้นทดสอบแนว US$50 เป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี / SCC เด่นในรอบนี้
IMF ปรับประมาณการเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้และปีหน้าลง แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในเอเชียวันนี้

มุมมองต่อตลาด
       เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 6 และคงให้น้ำหนักของ SET INDEX ขยับขึ้นทดสอบด่าน1,380 จุด แต่ยังไม่น่าทะลุผ่านในด่านนี้วันนี ด้วยแรงผลักดันของหุ้นหลักใน SET50 Index ซึ่งเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ หลัง Long สุทธิใน SET50 Index ตลอด 6 วันทำการ 46,725 สัญญา และ QTD นั้น Long สุทธิ 33,254 สัญญา ย่อมสะท้อนมุมมองของต่างชาติต่อทิศทาง SET50 Index มีโอกาสขยับขึ้นกลับไปยืนเหนือ 900 จุด และทิศทางค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มทรงตัวหรือแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หลังโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ เป็นไปได้อย่างจำกัด เมื่อตัวเลขการจ้างงาน / ดัชนี ภาคการผลิต - บริการ ของสหรัฐฯ ออกมาชะลอตัวต่อเนื่อง
       ขณะที่ปัจจัยการลงทุนทั้งในและต่างประเทศช่วงสั้นเป็นกลาง ทำให้ภาพรวมของการเก็งกำไรต่อสินทรัพย์เสี่ยง อย่างตลาดหุ้น / น้ำมันล่วงหน้า / เงินสกุลรอง มีแนวโน้ม Rally รอบสั้น ก่อนที่จะกลับมาแกว่งแคบอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของเดือนต.ค. ก่อนการประชุมเฟด แต่แน่นอนว่าวันนี้ นักลงทุนทั่วโลกต่างรอดูรายงานการประชุมเฟดวันที่ 16-17 ก.ย. ต่อความเห็นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ / โลก และทิศทางอัตราดอกเบี้ยจากนี้ไป บนเงื่อนไขอะไรบ้าง
      สำหรับบรรยากาศการลงทุนในเอเชียวันนี้ แนะนำให้ติดตามการประชุม BoJ หากมีการส่งสัญญาณพร้อมเพิ่มมาตรการทางการเงินทันที หากมีความจำเป็น เชื่อว่าจะสร้างบรรยากาศการเก็งกำไรต่อตลาดหุ้นเอเชียช่วงเช้า และ ตลาดหุ้นยุโรป ช่วงบ่ายได้เช่นกัน
      ทั้งนี้ เราประเมินว่า กลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี / SCC จะยังคงโดดเด่นในรอบการฟื้นตัวนี้ เพราะเป็นกลุ่มที่ถูกลดน้ำหนักการลงทุนไปค่อนข้างมากในช่วงกลางปี ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่กลับมาทรุดตัวอีกรอบ แต่เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกลับมา Rebound เด่นและดูเหมือนว่ารอบนี้จะขยับขึ้นทดสอบแนว US$50 สำหรับ NYMEX ได้ ส่วนกลุ่มธนาคาร คาดว่าจะทรงตัว เพื่อรอดูผลการดำเนินงาน 3Q58 ในช่วงครึ่งหลังของเดือนต.ค.นี้

กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรมากขึ้นบริเวณ 1,380 จุด +/- เพื่อรอจังหวะที่ราคาหุ้นเป้าหมายกลับมาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย" ทั้งนี้ SET INDEX จะล้าง Downward Trend ได้ หาก SET INDEX ทะลุแนว 1,380 จุด และ 1,410 จุด ตามลำดับ

Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: IRPC/ TPIPL

Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. TPIPL : ราคาปิด 2.50 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่ม High Beta เช่น TPIPL จะปรับตัวขึ้นได้ดีจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากคาดว่ามีโอกาสมากขึ้นที่เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2558 หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นต่ำคาด
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากจะได้ประโยชน์โดยตรงจากงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐใน 2H58 และจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2559
c) TPIPL มีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์เป็นอันดับ 3 ของประเทศ และจะขยับขึ้นเป็นอันดับ 2 หลังการขยายกำลังการผลิตปูนซีเมนต์อีก 4.5 ล้านต้นจะเสร็จสิ้นในช่วงปลายปี 4Q58 หรือ 1Q58 และส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 13.5 ล้านตัน
d) คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติใน 3Q58 จะเติบโต qoq เนื่องจากโรงไฟฟ้าขยะอีก 55 MW เริ่มจ่ายไฟเข้าสู่ระบบแล้วในกลางเดือนส.ค. น่าจะมาชดเชยกับการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ TPIPL แปลงหนี้สกุลเงินยูโร 163 ล้าน เป็นเงินบาท หลังออกหุ้นกู้สำเร็จ
e) Valuation ของ TPIPL ณ ปัจจุบันซื้อขาย PBV58 ต่ำ 1.0 เท่า เป็น 0.88 เท่า เทียบกับ SCC ที่ 2.70 เท่า และ SCCC ที่ 3.63 เท่า
2. IRPC : ราคาปิด 4.00 บาท ราคาเหมาะสม 4.20 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะ Outperform ตลาดในวันนี้ จากการเร่งตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่เพิ่มขึ้น +4.9% dod จากความคาดหวังเชิงบวกต่อการประชุมระหว่างกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั้ง OPEC และ Non-OPEC ต่อสถานการณ์น้ำมันในตลาดโลก ที่คาดว่าจะกำหนดขึ้นภายในสิ้นเดือน ต.ค.
b) แม้ผลประกอบการ 3Q58 จะถูกกดดันจากผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน แต่เชื่อว่า IRPC จะยังเด่นกว่าหุ้นอื่นๆในกลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษเงินประกันรับคืนจากเหตุไฟไหม้ เข้ามาช่วยหักล้างผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันได้ส่วนหนึ่ง
c) ขณะที่ผลประกอบการ 4Q58 คาดว่าจะกลับมาขยายตัวเด่น qoq จากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากเข้าสู่ High Season ของฤดูหนาวซึ่งมีความต้องการใช้พลังงานสูง จึงคาดว่าหุ้นกลุ่มโรงกลั่นจะกลับมาบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมันใน 4Q58
d) คาดผลประกอบการปี 2558 พลิกกลับเป็นกำไรสุทธิ 6,556 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 9,374 ล้านบาท ในปี 2557 และเติบโต +23% qoq เป็น 8,078 ล้านบาท จากแรงหนุนของโครงการ Phoenix ที่จะเริ่ม CDO ในช่วงปลายปี 2558
e) Valuation น่าสนใจ โดยซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 8.10 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มพลังงานที่ 12.8 เท่า

Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ US$277 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$60 ล้าน

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติ Long สุทธิอย่างหนาแน่นต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 1,210 ล้านบาท สอดคล้องกับเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้างตลาดเอเชียเกิดใหม่ แต่ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงสูงกว่า 1.0 แสนล้านบาท เป็น 106,229 ล้านบาท
ส่วน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 6 หนาแน่น 11,179 สัญญา รวม 6 วันทำการ Long สุทธิ 46,725 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 10,418 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Short ทั้งหมด และถือสถานะ Long ขยับขึ้นเป็น 36,307 สัญญา และ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิ 33,254 สัญญา เมื่อ S50Z15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เท่ากับ 10.08 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 7.91 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิลดลงเหลือ 27,470 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 440 ล้านบาท จาก 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 1,466 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 5 อีก 3.06bps จากวันก่อนหน้าลดลง 2.91bps ปิดที่ 2.706%

Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 954 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 721 ล้านบาท

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 แต่ยังคงเป็นไปอย่างเบาบาง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีกเล็กน้อย 144 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 234 ล้านบาท ภาพรวมยังคงเป็นการเลือกลงทุนรายตัวต่อเนื่อง เพราะภาพตลาดยังคงไม่ชัดเจน สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1. กลุ่มค้าปลีก กลับมาซื้อสุทธิสูงสุด 163 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 115 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 103 ล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 79 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 87 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ขายสุทธิ 79 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
IMF ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกลง จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง: เศรษฐกิจโลกจะเติบโตราว 3.1% ลดลงจากประมาณการเดือนก.ค.ที่ 3.3% ส่วนปีหน้าจะเติบโต 3.6% ลดลงจากประมาณการก่อนหน้าที่ 3.8% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่เติบโตไม่สมดุลย์ไปทั่วโลก เศรษฐกิจในบราซิล และรัสเซียเผชิญกับการถดถอย ญี่ปุ่นและยุโรป ยังไม่ฟื้นตัว การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในระยะยาวถูกลดทอนลง แม้ว่าเศรษบกิจสหรัฐฯ จะแข็งแกร่งมากจนสามารถทำให้เฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
ดุลการค้าเดือนส.ค. ขาดดุล US$4.83 หมื่นล้าน ใกล้เคียงกับ Bloomberg consensus คาดขาดดุล US$4.86 หมื่นล้าน แต่ขาดดุลมากกว่าเดือนก่อนหน้าที่ US$4.18 หมื่นล้าน เป็นผลจากการส่งออกที่ชะลอตัว จากความต้องการในตลาดโลก และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

ยุโรป
คำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมันชะลอตัวสวนทางกับที่ตลาดคาด: คำสั่งซื้อเดือนส.ค. หดตัว 1.8% mom เดือนก่อนหน้า -2.2% mom ขณะที่ Bloomberg consensus คาดฟื้นตัว 0.5% mom เป็นผลจากเศรษฐกิจในจีนและตลาดเกิดใหม่ที่เติบโตชะลอตัว
ราคาบ้านในอังกฤษลดลงเล็กน้อย: เดือนก.ย. ลดลง 0.9% mom หลังจากที่เดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 2.7% mom ถือเนการลดลงแรงสุดในรอบกว่า 1 ปี ของราคาบ้านในอังกฤษ

จีน
เงินหยวนใช้เป็นสกุลเงินค้าขายเป็นระดับที่ 4 ของโลก ในเดือนส.ค.: รายงานจาก Worldwide Interbank Financial Telecommunications พบว่า รายการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเดือนส.ค. สกุลเงินหยวน เพิ่มขึ้น 2.79% เร่งตัวขึ้นจากเดือนก.ค.ที่เพิ่มขึ้น 2.34% ส่งผลให้เงินหยวนมีรายการแลกเปลี่ยนเงินตราเป็นอันดับที่ 4 ของโลก แทรงหน้าเงินเยนญี่ปุ่น นอกจากนี้สกุลเงินหยวนยังเป็นสกุลเงินที่ใช้ออก LC คิดเป็น 9.1% ของมูลค่ารวมการค้าโลก มากเป็นอันดับที่ 2 ส่วนอันดับที่ 1 เป็นสกุลเงินดอลลาร์ สัดส่นว 80.1%

เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางออสเตรเลียคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด: อัตราดอกเบี้ยนโยบายคงไว้ที่ 2.0% ตามที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่ามากถึง 9% ใน 3Q58 แนวโน้มค่าเงินจะอ่อนค่าลงไปอีก ตามทิศทางเศรษฐกิจจีนและเอเชียตะวันออก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนค่าลงต่อเนื่อง
อัตราเงินเฟ้อฟิลิปปินส์ชะลอตัวลง: เพิ่มขึ้น 0.4% yoy ในเดือน ก.ย. จากเดือนก่อนหน้าและ Bloomberg Consensus คาดเพิ่มขึ้น 0.6% yoy นำโดยราคาอาหารที่ชะลอตัวจาก +1.2% yoy ในเดือนก่อนเป็น 0.8% yoy และค่าสาธารณูปโภครวมถึงน้ำมันที่ลดลง 2.2% yoy

ไทย
ไม่มี

Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!