- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 October 2015 16:00
- Hits: 1560
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +304.06, NASDAQ +73.49, S&P +35.69, FTSE +168.94, CAC +158.02 และ DAX +261.72 โดยยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่าเฟดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ จากตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาซบเซา และตัวเลขล่าสุดของสหรัฐฯ โดยเฉพาะภาคบริการที่ยังอ่อนแอ หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ – กย. อยู่ที่ 55.1 ลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 55.6 และจาก 56.1 เมื่อสค.
....ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยบวกเพิ่มจากหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับขึ้น หลังหุ้นเกลนคอร์เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างปรับโครงสร้าง เพื่อรับมือกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง และมีหลายกองทุนให้ความสนใจซื้อหุ้นในธุรกิจการเกษตรของเกลนคอร์ ทั้งกองทุนความมั่งคั่งของสิงค์โปร์ บริษัทมิตซุยแอนด์โค ของญี่ปุ่น และกองทุนบำนาญของแคนาดา เป็นต้น
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. +US$0.72 อยู่ที่ US$46.26 ต่อบาร์เรล จากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ล่าสุด ลดลงอีก 26 แท่น เหลือ 614 แท่น และเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันที่ลดลง ขณะเดียวกันปริมาณผลิตน้ำมันน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ล่าสุดลดลง 40,000 บาร์เรล อยู่ที่ 9.096 ล้านบาร์เรล/วัน นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่าเฟดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$1.0 อยู่ที่ US$1,137.6 ต่อออนซ์ ภายใต้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร – กย. ที่น่าผิดหวัง รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ล่าสุด ทำให้คาดการณ์ว่าเฟดยังไม่ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -210 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -107,440 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : คาดมีโอกาสปรับขึ้น? ตามทิศทางเดียวกับต่างประเทศ โดยคาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่าเฟดอาจยังไม่พิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ (เฟดเหลือการประชุม 2 ครั้งในปีนี้ วันที่ 27 – 28/10/58 และ 15 – 16/12/58) จากตัวเลขการจ้างงานที่คาดยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ขณะเดียวกันตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ ยังไม่ดีเช่นกัน
.....อย่างไรก็ตามคาดยังมีปัจจัยกดดันจากประเด็นเดิม ภายใต้ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีน ที่คาดอาจส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ตามยังแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีน จากก่อนหน้าที่มีความพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่น เพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้มาตรการผ่อนคลาย ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ
.....ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ คาดในระยะสั้นอาจถูกกดดันบ้างโดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ หลังกระทรวงการคลังเลื่อนการนำมาตรการช่วยเหลือฯ ออกไป (ข้อสรุปตัวเลขยังไม่ชัดเจน) จากเดิมคาดจะนำเข้าครม. ในวันนี้ และทางด้าน Fund Flow คาดภาพรวมยังมีความผันผวน หลังแรงซื้อขายสุทธิต่างชาติสลับกัน และ YTD ยอดขายสุทธิสะสมยังสูงกว่า 107,000 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า คาดน่าจะยังมีผลต่อการไหลกลับเข้ามาของ Fund Flow?
....โดยยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 36.45 – 36.47 และมีทิศทางอ่อนค่าลง (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้น โดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58 (6) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) หลัง กสทช. จะเปิดประมูลใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ในวันที่ 11/11/58 และ15/12/58 ตามลำดับ และ (7) เข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน – 3Q/58 โดยเริ่มจากกลุ่มธนาคาร ประมาณกลางเดือนนี้ คาดอาจกดดันภาพรวมตลาดฯ ภายใต้ความกังวลปัญหา NPL’s
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.07 อยู่ที่ 2.06% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.40 อยู่ที่ 19.54
หุ้นแนะนำ : BCP
ประเด็นที่ต้องติดตาม (6 - 9 ตค.’58)
6/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ - สค.
7/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกน้ำมัน
8/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
9/10/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ราคานำเข้าและส่งออก - กย. (2) สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง - สค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788