- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 05 October 2015 17:18
- Hits: 869
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
คลายกังวลเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย
คาดตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลก หลังจากตัวเลขการว่าจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้คาดกันว่าเฟดไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายในประเทศก็เป็นบวกหลายประการ มาตรการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนช่วยหนุนตลาดในวันนี้ ความคืบหน้าของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิคช่วยเพิ่มมุมมองเชิงบวก
หุ้นเด่นวันนี้ : SVI (ราคาปิด 5.15 บาท, SAA 5.63 บาท)
ผลประกอบการของ บมจ.เอสวีไอ น่าจะได้รับการหนุนจากประเด็น Turnaround เพราะการฟื้นตัวจากเกิดเหตุอัคคีภัยครั้งใหญ่ไปเมื่อปีที่แล้วและอาจจะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องด้วย แม้ว่าภาพการส่งออกโดยรวมของไทยจะดูแย่ลง แต่เราเชื่อว่ายังคงมีอุปสงค์ต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงหนุนโดยเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีรุดหน้าไปทุกวันอันเป็นประเด็นหนุนพื้นฐานของ SVI ผลิตภัณฑ์ของ SVI ประกอบอยู่ในหลากหลายผลิตภัณฑ์ ได้แก่ อุปกรณ์ด้านโทรคมนาคม วิดีโอ เซนเซอร์รถยนต์ อุปกรณ์ใยแก้วนำแสงรวมไปถึงการแพทย์ อีกทั้งอัตรากำลังการผลิตตอนนี้ได้กลับไปเท่าก่อนเกิดไฟไหม้แล้วจึงพร้อมผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตได้ หากอ้างอิงค่าเฉลี่ยประมาณเฉลี่ยโดยรวม กำไรจากการดำเนินงานของ SVI จะลดลงก่อนแค่ 1.4% ในปี 58 และจะกลับมาฟื้นตัวแรง 26% ในปี 59 รูปแบบราคาของ SVI มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ SVI บ่งชี้ว่าจะได้เห็นการทำ New High ในระยะสั้น โดยมีเป้าหมายแรกเพื่อทดสอบ High เดิมที่ 5.25 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 5.50 บาท ทั้งนี้ Price Pattern ของ SVI ได้เข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างชัดเจน และในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) การเปิด Falling Gap ถือเป็นเรื่องผิดปกติ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ Price Pattern ของ SVI ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) รอบใหม่นี้จะสามารถปรับตัวขึ้นไปปิด Falling Gap ที่เปิดไว้ที่ 5.95 บาทก็เป็นได้ (แนวต้าน: 5.20, 5.30, 5.45; แนวรับ: 5.05, 4.90, 4.80)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
รัฐให้สิทธิประโยชน์เพื่อกระตุ้นการลงทุนโดยเร็ว รองนายกฯ สมคิดเผยว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับโครงการลงทุนที่ยื่นต่อบีโอไอและต้องลงทุนภาคใน 6 เดือนเพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน บีโอไอได้เสนอมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นการลงทุนและก.คลังจะก็จะเสนออีกหลายมาตรการเพื่อให้นายกฯ พิจารณาในเร็ววันนี้
สิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ผงกหัวขึ้นจากมาตรการกระตุ้น หมวดธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์น่าจะดีขึ้นในไตรมาส 4 เมื่อรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นสุด ซึ่งน่าจะทำให้อุปสงค์เพิ่งขึ้นในช่วงสิ้นปีหลังอ่อนแอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน ส.อ.ท. ระบุว่าหมวดสิ่งพิมพ์มีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพียง 50% (Bangkok Post)
ภาคเอกชนขอความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการอสังหา บริษัทอสังหาริมทรัพย์สามรายได้ถามรัฐบาลถึงการตัดสินใจกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีผู้ซื้อบ้านที่เลื่อนการรับมอบบ้านออกไปหลังจากรัฐบาลประกาศในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่ามีแผนที่จะออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม (The Nation)
ประจิณเปิดแผนทีโอที รองนายกรัฐมนตรี นายประจิณ จั่นตองหล่าวว่าเขาอาจจะไม่แย้งทีโอทีในการสรรหาคำวินิจฉัยของศาลว่าทีโอทีได้ทำถูกต้องหรือไม่ที่จะยังคงเก็บคลื่น 900MHz ไว้แทนที่จะคืนให้แก่ กสทช. เพื่อนำไปประมูลต่อ (The Nation)
ROJNA (5.80 บ,) วางแผนสร้างสวนอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในประเทศกัมพูชาเพื่อรองรับการขยายการลงทุนในภูมิภาคหลังจากที่ AEC ได้เกิดขึ้น โดยบริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ และกำลังตัดสินใจเลือกพื้นที่ทำเลที่ตั้งของโครงการระหว่างบ้านสตึงบท จังหวัดบันเตียเมียนจัย กับพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ปอยเปตโอเนียง (Bangkok Post)
ต่างประเทศ : ความคาดหวังเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลดลง หลังจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานเมื่อวันศุกร์ที่อ่อนแอ มีการสำรวจในตลาดวอลล์สตรีทถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนต.ค. ลดลงเหลือเพียง 27% จาก 44% ก่อนการประกาศรายงาน ข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอดูเหมือนจะขัดแย้งกับความเห็นของนางเยลเลน ประธานเฟดเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ (Reuters)
การประชุมประจำปีของ IMF ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู เป็นประเด็นหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจในสัปดาห์นี้ โดยผู้กำหนดนโยบายของ IMF มุ่งประเด็นไปที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและผลกระทบที่มีต่อทั่วโลก IMF กำลังจะเผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับเดือนต.ค. ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับตัวเลขประมาณการอัตราการเติบโตเศรษฐกิจทั่วโลกที่ปรับปรุงแล้ว (Reuters)
ราคาพันธบัตรรัฐบาลปรับขึ้นจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่ชะลอตัว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อวันศุกร์ ส่วนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน (Reuters)
ดอลลาร์กลับมาอยู่ในแนวต้าน ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอยู่ที่ระดับ 95.907 หลังจากที่อ่อนตัวลง 0.4% ในช่วงข้ามคืน ดอลลาร์ปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 119.975 เยนหลังจากที่เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 120.415-119.90 เยนเมื่อวันศุกร์ เงินยูโรยังทรงตัวอยู่ที่ 1.1217 ดอลลาร์ โดยไต่ขึ้นสู่ระดับสูงที่ 1.1319 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ สูงสุดในรอบ 10 วัน (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่อ่อนแอซึ่งเป็นนัยว่าเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอทำให้มีการถกเถียงกันมากขึ้นว่าจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปหรือไม่ ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น (Reuters)
การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในเดือนก.ย. อ่อนแอ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 รายในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้มากที่ 203,000 ราย ส่วนตัวเลขในเดือนก.ค. และ ส.ค. ได้ถูกปรับลดลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานยังคงอยู่ที่ 5.1% (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับตัวสูงขึ้น หนุนจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและตลาดหุ้นโปรตุเกสก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในช่วงสุดสัปดาห์ ถึงแม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ ล่าสุดจะออกมาน่าผิดหวังก็ตาม ทั้งนี้ราคาหุ้น Volkswagen ได้ปรับตัวลดลง 4.3% มาอยู่บริเวณระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีหลังจากที่ได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการตรวจสอบประเด็นการปล่อยมลภาวะของรถยนต์ดีเซลของบริษัท (Reuters)
ธนาคารกรีซมีแนวโน้มจะมีคุณสมบัติเหมาะสมในการขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน เจ้าหน้าที่ระดับสูงในยูโรโซนได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่ากรีซน่าจะมีความพร้อมสำหรับการดำเนินนโยบายตามมาตรการรัดเข็มขัดซึ่งมีกำหนดเส้นตายในวันที่ 15 พ.ย. นี้ เนื่องจากเงื่อนไขในมาตรการรัดเข็มขัดคือการปฏิรูปภาคการเงินซึ่งมีแนวโน้มจะบรรลุผลได้หลังจากนั้น จากเงินช่วยเหลือทั้งหมดจำนวน 2.5 หมื่นล้านยูโร เงินจำนวน 1.0 หมื่นล้านยูโรได้อยู่ในบัญชีและเตรียมพร้อมที่จะส่งต่อให้กรีซแล้ว (Reuters)
เอเชีย :
คาดมติที่ประชุม BOJ วันพุธนี้จะยังคงนโยบายการเงินไว้เช่นเดิม ด้วยมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นมากกว่าที่ฝั่งภาคเอกชนมอง และน่าจะยังไม่มีการเพิ่มเติมมาตรการ QQE แต่อย่างใด (Reuters)
Trans-Pacific Partnership ที่กำลังจะบรรลุข้อตกลง โดยล่าสุดสหรัฐฯ และออสเตรเลียบรรลุข้อตกลงที่จะให้บริษัทยาได้รับสิทธิ์ผูกขาดในผลิตภัณฑ์ยา ส่งผลให้ประเด็นดังกล่าวอาจนำไปสู่การเจรจาการค้าในสินค้าและผลิตภัณฑ์อื่นๆ กับประเทศในกลุ่มสมาชิกหลังจากนี้ไป ขณะที่รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจญี่ปุ่นกล่าวว่าได้แจ้งให้นายกฯ อาเบะ ทราบถึงโอกาสดังกล่าวแล้ว (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ทองหนุนโดยตัวเลขแรงงานอ่อนตัว ทองตลาดจรปรับขึ้น 24.58 ดอลลาร์หรือ 2.21% มาอยู่ที่ 1,137.74 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หนุนโดบตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรอ่อนแอกว่าที่คาดทำให้ลดความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย (Reuters)
น้ำมันขึ้นจากดอลลาร์อ่อนและเรื่องอุปทาน จากรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะสหรัฐลดลง 26 แห่งในสัปดาห์ล่าสุดซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับแต่ เม.ย. ประกอบกับดอลลาร์อ่อนค่าทำให้ Brent ปิดบวก 44 เซนต์หรือเกือบ 1.0% แตะ 48.13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล NYMEX ขึ้น 80 เซนต์หรือ 1.8% ปิดที่ 45.54 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094