- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 September 2015 17:46
- Hits: 1211
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Rebound
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดปรับฐานลงทดสอบแนวรับ 1,340 จุด ก่อนเกิดการฟื้นตัวลักษณะ Technical Rebound นำโดยหุ้นหลักกลุ่ม ICT / SCC อีกทั้งหุ้น Glencore ในตลาดลอนดอนฟื้นตัว ช่วยทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้นในรอบบ่าย ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบเล็กน้อย 3.29 จุด มาอยู่ที่ 1,348.84 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 43,782 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติยังคงลดน้ำหนักการลงทุนในไทยต่อเนื่อง ด้วยการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีก 2,765 ล้านบาท ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 อีก 618 ล้านบาท แต่กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 6,665 สัญญา ที่น่าจะเป็นการปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้า
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามการประชุม ครม. วันนี้ คาดพิจารณาแผนลงทุนรถไฟฟ้า 3 โครงการ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 2 โครงการ มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท
ติดตามรายงานเศรษฐกิจเดือนส.ค.ของธปท. วันนี้
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดซื้อขายวันแรกในรอบ 3 วันทำการ
วันสุดท้ายของการทำ Window Dressing
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 2 พร้อมประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,340-1,350/55 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นต่อเนื่อง ทั้งนี้จับตาในช่วงท้ายของการซื้อขายวันนี้ อาจเห็นการทำ Window Dressing ในหุ้นหลักกลุ่มธนาคาร / กลุ่มพลังงาน / SCC / ICT เป็นต้น แม้ว่าปัจจัยการลงทุนจะไม่มีความโดดเด่นก็ตาม
ปัจจัยสำคัญในวันนี้ เราให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค.ที่ธปท.รายงานในช่วงบ่ายวันนี้ แม้ว่ามาตรการกระตุ้นระยะสั้นของทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ภายใต้การนำโดยรองนายกฯ ดร.สมคิด จะยังไม่เริ่มขึ้น แต่หากภาคการบริโภคภายในประเทศ เริ่มทรงตัวหรือฟื้นตัวอ่อนๆ ย่อมเป็นสัญญาณที่ดี และช่วยจำกัด downside risk ของผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนใน 3Q58 ที่จะเริ่มทยอยประกาศในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้
S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย BBB+ พร้อมให้น้ำหนักกับความคืบหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาล เช่นเดียวกับ นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่รอคอยความคืบหน้าของการเปิดประมูลโครงการหลักๆ ที่อนุมัติไปแล้ว เราเชื่อว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งเปิดประมูลงานมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องถึง 1Q59 โดยวันนี้ รฟท.เปิดรับซองประมูลโครงการรถไฟรางคู่เส้นทางฉะเชิงเทรา - คลอง 18 - แก่นคอย ส่วนงานมอเตอร์เวย์ พัทยา-มาบตาพุด ยื่นซองไปแล้วในวันศุกร์ที่ 25 ก.ย. ส่วนอีก 2 เส้นทาง คาดว่าจะทยอยเปิดประมูลในเดือนต.ค. - พ.ย. และรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน น่าจะได้ข้อสรุปในเดือนพ.ย.และเริ่มประมูลงานในเดือนธ.ค. เป็นต้น และในวันนี้ การประชุม ครม.จะมีการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 2 โครงการ มูลค่ากว่า 2.0 แสนล้านบาท เป็นการเลื่อนพิจารณาจากวานนี้ เพื่อรอให้นายกฯ กลับจากการเยือนสหรัฐฯ
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศในช่วงนี้ขาดน้ำหนักที่น่าสนใจ ประเด็นของ Glencore เริ่มสงบลง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เริ่มทรงตัวมากขึ้น ด้านตลาดหุ้นจีนวันนี้ คาดว่าจะมีความผันผวนสูง ก่อนที่จะเปิดทำการเนื่องในวันชาติจีน ระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค.
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรหุ้นที้ซื้อเก็งกำไรมาก่อนหน้านี้ หากราคาหุ้นฟื้นตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย และกลับมาซื้อเก็งกำไร เมื่อราคาหุ้นเป้าหมายปรับฐานลง" หรือเป็นลักษณะ Trading ในกรอบราคา เพราะภาพ SET INDEX จะยังแกว่งในกรอบ ไร้ทิศทางที่ชัดเจนในช่วงสั้นนี้
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Accumulative Buy: ITD / SAMTEL
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 8.10 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะ Outperform ตลาดในวันนี้ จากแรงเก็งกำไรการประชุมครม.ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาอนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ได้แก่ รถไฟฟ้า 3 เส้นทาง และโครงการโรงไฟฟ้าขยะมูลค่ารวม 2 แสนล้านบาท
b) รวมทั้ง Sentiment เชิงบวก จากการยื่นซองคุณสมบัติและเทคนิคประมูลรถไฟรางคู่ ฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอยในวันนี้ และคาดว่าจะสามารถผลการประมูลในเดือน พ.ย. 2558
c) ITD เป็นตัวเก็งที่จะชนะงานประมูลด้านระบบรางเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญและมีโรงงานไม้หมอนของตนเอง จึงมีความพร้อมสูงสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันที่เหลือในกลุ่ม
d) โครงการเหมืองแร่โปรแตซมีความคืบหน้าไปอีกระดับ หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาระดับจังหวัดแล้ว และขั้นตอนต่อไปคือส่งเรื่องให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณา เพื่อจัดทำประชาพิจารณ์ทั้งจังหวัดอีกครั้งในช่วงปลายเดือน ต.ค.
e) คาดว่า ITD จะได้รับประทานบัตรเหมืองแร่ภายในปี 2558 และเป็น Upside Risk ที่มีนัยสำคัญต่อราคาเหมาะสมของเรา
2. SAMTEL : ราคาปิด 20.40 บาท ราคาเหมาะสม 28.00 บาท
a) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะทราบผลการประมูลขนาดใหญ่ คือ งานระบบวิทยุสื่อสารดิจิตอล (APCO) เฟสแรก มูลค่า 3.3 พันล้านบาทในสัปดาห์นี้
b) MBKET ประเมินว่า SAMTEL มีโอกาสสูงที่จะชนะงานดังกล่าว และช่วยหนุน Backlog ให้เพิ่มขึ้นจาก 9.0 พันล้านบาท เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี สวนทางหุ้นในกลุ่ม SI ที่ Backlog ส่วนใหญ่ลดลงจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจ
c) เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ 3Q58 ที่ราว 200 ล้านบาท +/- กลับมาขยายตัว qoq และเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง qoq ใน 4Q58 เนื่องจากประมาณการรายได้ปี 2558 มี Backlog รองรับแล้วถึง 97%
d) คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มวางระบบในปี 2559 จากแรงหนุนของนโยบาย Digital Economy ผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2559 เติบโตถึง +25.3% yoy และยังมี Upside Risk เนื่องจากประมาณการรายได้ปี 2559 มี Backlog รองรับแล้วถึง 80%
e) ปรับราคาเหมาะสมขึ้นจาก 24.70 บาท เป็น 28.00 บาท จากการ rollover การประเมินมูลค่าเป็นปี 2559 อิง PE 20 เท่า และให้เป็น Top pick ของกลุ่มรับวางระบบโทรคมนาคม (SI)
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก US$129 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$93.7ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงขายหุ้นไทยต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีก 2,765 ล้านบาท รวม 5 วันทำการขายสุทธิ 15,046 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ทะลุ 1.0 แสนล้านบาท เร่งขึ้นเป็น 106,333 ล้านบาท
ส่วน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 6,665 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 10,418 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Short อีกครั้ง ส่งผลให้ S50Z15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 14.94 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 18.74 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 67,530 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 3 ชะลอตัวเหลือ 618 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 6,428 ล้านบาท เทียบกับ 7 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 7,008 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันที่ 4 เล็กน้อย ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 เท่ากับ 0.42bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.62bps ปิดที่ 2.834%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 เป็น 1,489 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,298 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 5 คงเน้นการลดน้ำหนักกลุ่ม ICT และธนาคาร
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1,346 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 677 ล้านบาท รวม 5 วันทำการขายสุทธิเป็น 4,395 ล้านบาท เทียบกับ 7 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 7,262 ล้านบาท โดยเน้นการลดน้ำหนักในกลุ่ม ICT และธนาคารต่อเนื่อง สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุด 561 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 265 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มธนาคาร ขายสุทธิ 338 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 381 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน ขายสุทธิ 138 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 139 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก ขายสุทธิ 112 ล้านบาท
2. ขณะที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ถูกซื้อสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 58 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
ดัชนีราคาบ้าน S&P CS เดือนก.ค. ลดลง 0.2% mom สวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาด 0.1% mom และหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.2% mom โดยราคาบ้าน 12 ใน 20 เมืองลดลง ทั้งนี้บ้านในชิคาโกปรับตัวลงแรงสุด 1.2% mom และเป็นการลดลงเดือนที่ 3
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย. เท่ากับ 103.0 จุด ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 96.0 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 101.3 จุด
ยุโรป
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอียูเพิ่มขึ้นดีกว่าคาด: เดือนก.ย. เท่ากับ 105.6 จุด ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนส.ค.ที่ 104.1 จุด ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 104.1 จุด โดยความเชื่อมั่นดีขึ้นตั้งแต่เยอรมันถึงอิตาลี แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศเกิดใหม่จะชะลอตัวก็ตาม
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางอินเดียลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าคาด: อัตราดอกเบี้ย RP ลดลงจาก 7.25% เป็น 6.75% เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2554 ขณะที่ Bloomberg consensus คาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% จากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในระดับต่ำ ช่วยควบคุมอัตราเงินเฟ้อของอินเดียให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้
อินเดียผ่อนคลายเพดานการให้ต่างชาติถือครองหุ้นกู้: โดยอินเดียจะผ่อนคลายเพดานการเปิดให้นักลงทุนสถาบันต่างชาติ สามารถเข้าถือพันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินรูปี จากปัจจุบันที่จะเปิดให้เฉพาะเงินสกุลดอลลาร์ พร้อมขยายเพดานการถือเป็น 5% ของยอด ภายในเดือนมี.ค. 2561
ตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นออกมาเป็นกลาง
ผลผลิตภาคอุตฯ เดือนส.ค. ลดลง 0.5% mom สวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาด +1.0% mom
ยอดค้าปลีก เดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 0.8% yoy
เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตเด่น: ขยายตัว 6.81% yoy ใน 3Q58 เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนที่เติบโต 6.47% yoy นำโดยภาคส่งออกที่เติบโตสวนทางกับประเทศอื่นในภูมิภาค ซึ่งได้ประโยชน์หลังธนาคารกลางปรับลดค่าเงินดองในเดือน ส.ค.ซึ่งนับเป็นการลดค่าเงินครั้งที่ 3 ในปีนี้ โดยการส่งออกใน 9 เดือนแรกเติบโต 9.6% yoy ทำให้เศรษฐกิจใน 9M58 เติบโตขึ้น 6.50% yoy ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินเติบโตที่ 6.40% yoy
ไทย
ชงผ่อนเกณฑ์สินเชื่ออสังหาฯ คลังเล็งเสนอครม. 5 ต.ค.: วันที่1 ต.ค. สศค.จะเร่งสรุปมาตรการที่จะเข้าไปดูแล กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเสนอต่อระดับนโยบาย และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเบื้องต้นจะมีมาตรการทางด้านการผ่อนปรนการปล่อยสินเชื่อ และมาตรการทางด้านภาษีต่างๆ แต่ต้องพิจารณาปัจจัยประกอบหลายด้าน เพื่อพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียทั้งหมด ความต้องการสินเชื่ออยู่มาก ซึ่งจะเห็นได้จากยอดการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งก็ต้องพิจารณาว่า จะสามารถผ่อนปรนเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อได้อย่างไรบ้าง ขณะนี้ได้มอบหมายให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ไปพิจารณา หากได้ข้อสรุปแล้ว จะมีการนำเสนอมาตรการด้านอสังหาฯเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมครม.ในวันที่ 5 ต.ค.นี้
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530