- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 September 2015 17:42
- Hits: 960
บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) : Market Comment
กังวลเศรษฐกิจโลกที่ยังมีทิศทางอ่อนแอลงอยู่
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนอ่อนแอลง แต่เจ้าหน้าที่เฟดเชื่อมั่นว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ย ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -1.92%, -3.04%, -2.57%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ วิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนทำให้DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -2.12%, -2.46%, -2.76%, -2.72%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.34 ดอลลาร์/บาร์เรล วิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงแรงพอสมควร กังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนหลังจีนได้เปิดเผยข้อมูลกำไรภาคอุตฯ รายใหญ่เดือนส.ค. ที่ลดลง 8.8% YoY. เทียบกับเดือนก.ค. ที่ปรับตัวลง 2.9% ซึ่งกำไรที่ลดลงมาจากธุรกิจผลิตถ่านหิน น้ำมันและโลหะ จากการร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน หลังค่าเงินหยวนอ่อนค่า ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศมีตัวเลขส่งออกเดือนส.ค. ลดลง 6.69% มีมูลค่า 17,669 ล้านบาท ถือว่าติดลบมากกว่าคาดพอสมควร และติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 แม้ว่าการส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบกลับมาขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 กว่า 6.8% YoY. แต่สินค้าที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน สินค้าเษตรมีมูลค่าต่ำตามราคาในตลาดโลก ทั้งนี้ตลาดส่งออกหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ติดลบ 1.9% YoY. ญี่ปุ่นติดลบ 6.7% YoY. สหภาพยุโรปติดลบ 2% YoY. และอาเซียนเดิม 5 ประเทศติดลบ 24.4% YoY. ส่วนจีนขยายตัวเล็กน้อย 0.4% YoY. โดยเป็นการขยายตัวในส่วนยางพาราที่มีการส่งออกไปจีน
ส่วนการนำเข้าลดลง 4.77% YoY. มูลค่า 16,948 ล้านบาท หดตัวน้อยกว่าการส่งออก ทำให้มีความหวังเล็ก ๆ ว่าการส่งออกในช่วง 4 เดือนหลังของปีน่าจะมีโอกาสฟื้วขึ้นมาบ้าง แต่คาดว่าการส่งออกทั้งปีน่าจะติดลบราว 4-5% ในปีนี้ ทั้งนี้ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลเริ่มกังวลกับปัญหาการส่งออกที่หดตัว ซึ่งปัจจุบันหดตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว ซึ่งการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะมีการปรับแผนเป็นกลุ่มคลัสเตอร์ที่ยังขยายตัวได้ดีอยู่ เช่นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออก 14.2% กลุ่มอิเล็กฯ 15.8% กลุ่มอาหาร 8.1% โดยจะมีการหารือเพื่อผลักดันการส่งออกให้เพิ่มขึ้น ทางด้านคลังเตรียมออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานแสนล้านลงทุนในโครงการเมกะโปรเจคของรัฐบาล โดยรวมเป็นกองเดียว เพื่อให้นำโครงการที่อยู่ในแผนลงทุน ยังไม่มีรายได้เข้ามาระดมทุนได้ ผลอาจทำให้ผลตอบแทนในระยะแรกอาจสูงพอ ที่จะจูงใจนักลงทุน รัฐบาลจะเข้าไป การันตีผลตอบแทนให้ ซึ่งรัฐบาลอยู่ในระหว่างรอจังหวะเข้าระดมทุน เชื่อว่าจะสามารถจูงใจให้นักลงทุนต่างประเทศได้ ทางด้าน IMF เผยว่าเตรียมที่จะปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของ GDP ของโลกลงอีกครั้งทั้งในปีนี้ และปีหน้า เนื่องจากการชะลอตัวลงของประเทศตลาดเกิดใหม่ สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า จะผันผวนในขาลงตามทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจีนยังมีทิศทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง และเจ้าหน้าที่เฟดยังมีความเชื่อมั่นว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งภายในปีนี้ ทั้งนี้ยังต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ด้วย
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ดีดกลับไม่ผ่านแถว ๆ 1,370-1,380 จุด แนะนำ ขายลดความเสี่ยงก่อน
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (0) 2682 9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]