- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 September 2015 17:31
- Hits: 5771
บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) : Market Comment
เฟดมีมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจ และอาจปรับขึ้น ดอกเบี้ยในปีนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ ผันผวนก่อนถ้อยแถลงของประธานเฟดเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.48%, -0.38%, -0.34%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ วิตกกังวลข่าวอื้อฉาวของ VOLK และรอดูถ้อยแถลงของประธานเฟดในมุมมองเศรษฐกิจ ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -1.92%, -1.17%, -1.93%, -2.31%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.17 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงซื้อเก็งกำไรหลังราคาร่วงกว่า 4% ในระหว่างสัปดาห์
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยตลาดยังคงซึมลงจากการไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามา และตัวเลข PMI จีนที่แย่กว่าคาดประกอบกับยอดส่งออก Commodities จีนที่เพิ่มขึ้นซึ่งแสดงถึง Domestic Demand ที่ลดลงของจีน ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศถูกกดดันจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่เช่น SCC ซึ่งเป็นที่คาดหมายก่อนหน้านี้ว่า จะเป็นหุ้นในกลุ่มเงินลงทุนของ SCB ที่จะต้องขายออกมาเพื่อชดเชยกับการตั้งสำรองหนี้ของ SSI แต่อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายตลาดทั้งหุ้น SCC และ SCB สามารถที่จะดีดกลับขึ้นมาได้ โดยมีรายงานจาก SCB แจ้งว่าได้ขายหุ้น SCC ที่ถืออยู่ทั้งหมด 9.07 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 0.76% มูลค่ารวม 4,461 ล้านบาท ให้แก่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์โดยมีราคาซื้อขายที่ 491.83 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ย 5 วันทำการ (สูงกว่าราคาซื้อขายวานนี้ที่ปรับตัวลงไปอยู่แถว ๆ 452-476 บาท) เพื่อรองรับผลกระทบจากการตั้งสำรองหนี้ของ SSI และได้มีการยืนยันเพิ่มเติมว่าจะไม่มีการขายหุ้นตัวอื่นๆ ในตลาดเพิ่มเติม
โดยจะมีแผนที่จะขายสินทรัพย์ในพอร์ตที่ลงทุนในต่างประเทศออกไปแทนเพื่อรองรับการตั้งสำรองให้ครบ 100% ตามที่ธปท. ได้กำชับมา ทั้งนี้นักลงทุนต่างประเทศกลับมาเป็นผู้ขายสุทธิอีกครั้งในตลาดหุ้นไทย หลังค่าเงินในภูมิภาคกลับมาอ่อนค่าทำจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้งในการซื้อขายวานนี้ มีแรงขายหุ้นในอินโดนีเซียตลอดสัปดาห์นี้ (21-23) อยู่ที่ 104 ล้านดอลลาร์ ส่วนฟิลิปปินส์ 50 ล้านดอลลาร์ ส่วนไทยอยู่ที่ 197 ล้านดอลลาร์ (21-24) ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นไปแตะระดับ 36.35 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามตลาดทั่วโลกกำลังจับตาดูสุนทรพจน์ของเยลเลนในหัวข้อ “พลวัตเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน” ที่เมืองแอมเฮิร์สท์ รัฐแมสซาชูเซตส์ โดยมีการส่งสัญญาณในการแถลงเมื่อคืนนี้ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่าเฟดยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ทางด้านตลาดหุ้นไทยแม้ว่าจะยังมีแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศ แต่ยังคงมีปัจจัยหนุนจากการดำเนินโครงการลงทุนภายในประเทศ หลังรองนายกฯ ได้เปิดเผยหลังมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ว่า ได้เห็นชอบโครงการลงทุน PPP ภายในปีนี้ 5 โครงการมูลค่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งจะเสนอให้ครม. เห็นชอบภายในปีนี้ อาทิเช่น รถไฟสายชมพู เหลือง และโรงไฟฟ้าขยะ เพราะฉะนั้นเรายังชอบกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและกลุ่มนิคมฯ ที่คาดว่าจะได้แรงหนุนจากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันในการลงทุนอย่างมากในปีหน้า
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ต่ำกว่าระดับ 1,360 จุด แนะนำ เก็งกำไรได้
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (0) 2682 9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]