- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 September 2015 16:59
- Hits: 2538
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Leading by SCC
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แกว่งตัวในผันผวน นำโดยหุ้นหลัก SCC / PTT / ADVANC ทำให้ SET INDEX แกว่งระหว่าง 1,365-1,375 จุด ขณะที่กลุ่มอสังหาฯ มีแรงเก็งกำไรเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นระยะสั้นที่เตรียมประกาศในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,372.35 จุด ลบเพียง 2.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,287 ล้านบาท ทั้งนี้มีรายการ Big Lot หุ้น SCC มูลค่า 4.47 พันล้านบาท
เงินทุนต่างชาติกลับมามีประเด็นที่น่าสนใจ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 2,367 ล้านบาท แต่กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง เพียง 499 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 7 ก 494 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
รายการ Big Lot หุ้น SCC วานนี้ SCB เป็นผู้ขาย ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดแรงกดดันจากหนี้เสีย SSI
กลุ่ม ICT เผชิญกับแรงกดดัน ต่อคดีความที่ทางการอาจหยิบกลับมาฟ้องร้อง
มุมมองของประธานเฟดต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย คาดว่าจะขึ้นภายในปีนี้
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค.ของไทย
การประชุม ครม. อาจมีการพิจารณาแผนการลงทุนรถไฟฟ้า 5 เส้นทาง และรถไฟแอร์พอร์ทลิงค์ส่วนต่อขยาย
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันที่ 1-7 ต.ค.
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น "กลางถึงบวก" วันที่ 19 พร้อมให้โอกาสที่ SET INDEX จะกลับมาฟื้นตัวเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ สู่ด่าน 1,385 จุด +/- ผลักดันด้วย SCC หลัง SCC ขายหุ้นดังกล่าว จำนวน 9.9 ล้านหุ้นวานนี้ เชื่อว่า SCC วันนี้จะฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ กลับสู่ปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็น เพราะแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 3Q58 ยังแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากการขาดทุนสต็อคและสเปรดราคาปิโตรเคมีที่แคบลงก็ตาม
รวมถึงกลุ่มธนาคาร / กลุ่มอสังหาฯ / กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จะยังแข็งแกร่งกว่าค่าเฉลี่ยของ SET INDEX โดยเฉพาะ KTB / TISCO / SCB แนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังราคาหุ้นปรับฐานลงมาสะท้อนความเสี่ยงจากหนี้เสียของ SSI มูลค่ารวม 4.4 หมื่นล้านบาทไปมากแล้ว ขณะที่รองนายกฯ ยืนยันเร่งผลักดันโครงการลงทุนร่วมกับเอกชน 5 โครงการให้เปิดประมูลภายในปีนี้ รวมถึงเตรียมออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ภายใน 2 สัปดาห์หน้า ย่อมเอื้อต่อการลงทุนในกลุ่มหลักดังกล่าวเช่นกัน
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญคือ ความเห็นของประธานเฟด Janet Yellen คงความเห็นที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยให้เงื่อนไขว่าตลาดการจ้างงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและอัตราเงินเฟ้อเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เว้นเสียแต่ว่าจะมีอะไรที่เซอร์ไพร์สด้านเศรษฐกิจ จะเห็นได้ว่าโทนของความเห็นเบาลงจากช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ DJIA Futures เช้านี้บวก 22 จุด และดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัว (6.54 น.)
สำหรับทิศทาง SET INDEX ในสัปดาห์หน้า เราคาดว่าจะขยับลักษณะ Sideways-to-Sideways-Up สู่ด่าน 1,400-1,420 จุด เพราะเป็นการผลักดันจากปัจจัยภายในประเทศเป็นสำคัญ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่จะสิ้นสุดช่วงทำ Window Dressing ในปลายสัปดาห์หน้าก็ตาม
ทั้งนี้เรายังคงให้น้ำหนักกับพัฒนาการด้านเศรษฐกิจ ซึ่งในวันที่ 30 ก.ย. ธปท.จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค. หากภาคการผลิต และการบริโภคภายในประเทศ เริ่มฟื้นตัวอย่างอ่อนๆ ย่อมเป็นสัญญาณที่ดี เพราะมาตรการกระตุ้นระยะสั้นจากทีมเศรษฐกิจ ของรองนายกฯ สมคิด เริ่มมีผลในช่วงกลางเดือนก.ย. ย่อมทำให้ภาคการบริโภคภายในประเทศจะฟื้นตัวชัดมากขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยใน 2H58
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรหุ้นที่สะสมมาก่อนหน้านี้มากขึ้นบริเวณ 1,385 จุด หรือสูงกว่า"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: SCC
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. SCC : ราคาปิด 476.00 บาท ราคาเหมาะสม 600.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้น SCC จะฟื้นตัวได้ หลังปรับตัวลง -3.2% ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา หลัง SSI แจ้งหยุดสายการผลิตโรงถลุงเหล็กที่อังกฤษ ส่งผลให้ราคาหุ้น SCC ได้รับ Sentiment เชิงลบ จากความกังวลว่า SCB อาจขายหุ้น SCC ออกเพื่อ Realized Gain ไปหักลบกับการตั้งสำรองที่จะเพิ่มขึ้นมากใน 3Q58
b) SCB รายงานวานนี้ช่วงเย็นว่าได้ขายหุ้น SCC ทั้งหมดจำนวน 9.09 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 497.76 บาท ผ่านกระดาน Big lot เสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้น MBKET จึงเชื่อว่าจะช่วยปลดล็อก Overhang ที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงตั้งแต่จันทร์ที่ผ่านมา
c) ทิศทางผลประกอบการ 3Q58 คาดว่าจะอ่อนตัวลง qoq เนื่องจาก 2Q58 มีการบันทึกเงินปันผลรับจากบริษัทลูก และจะมีผลขาดทุนจาก Stock loss ราว 800-1000 ล้านบาท
d) อย่างไรก็ตาม ไม่ได้เป็น Negative Surprise เพราะได้สะท้อนในประมาณการกำไรปี 2558 ของเราแล้ว จึงยังคงประมาณการกำไรปี 2558 ที่ 44,455 ล้านบาท +32% yoy และเป็นระดับสูงสุดใหม่ของบริษัท
e) Valuation น่าสนใจ ซื้อขายระดับ PER 2559 ที่ 12.4 เท่า และได้ประโยชน์โดยตรงจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ที่จะขยายตัวในปีหน้า จากงานก่อสร้างขนาดใหญ่ภายใต้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$343 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$729 ล้าน
โดยขายสุทธิทุกตลาดเป็นวันที่ 2
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงทยอยขายหุ้นไทยต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 2,367 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 7,285 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 158 ล้านบาท และผลักดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงอยู่ในระดับสูงเกิน 9 หมื่นล้านบาทเป็นวันที่ 14 มากถึง 98,571 ล้านบาท
แต่ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Long สุทธิอีกครั้ง แต่ก็เพียง 499 สัญญา เทียบกับวันก่อนหน้า Short สุทธิมากถึง 20,383 สัญญา คาดว่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Short บางส่วน เมื่อ S50Z15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็น 15.50 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 11.60 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิมากถึง 63,777 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7 เพียง 494 ล้านบาท รวม 7 วันทำการซื้อสุทธิ 7,008 ล้านบาท หลังราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 5.20bps จากวันก่อนหน้าลดลง 4.41bps ปิดที่ 2.789%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 649 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 480 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้น ICT ต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิอีก 357 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิหนาแน่นถึง 1,754 ล้านบาท จาก 7 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 7,262 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการลดการลงทุนใน ICT ต่อเนื่อง สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 467 ล้านบาท ชะลอตัวจากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 942 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงานขายสุทธิ 73 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 59 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารกลับถูกซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 143 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 315 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม MAI ซื้อสุทธิ 67 ล้านบาท และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 48 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ความเห็นของประธานเฟดยังคงส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้:
เฟด จะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ตามแผนที่วางไว้ และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากนั้น หากตลาดการจ้างงานปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อขยับสู่เป้าหมายที่วางไว้ 2.0%
แต่หากเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างคาดไม่ถึง ก็สามารถทำให้เฟดเปลี่ยนแผนที่วางไว้ได้
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
คำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนส.ค. หดตัว 2.0% mom เท่ากับ Bloomberg consensus คาด แต่สวนทางกับเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 1.9% mom
ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เท่ากับ 2.67 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 2.75 แสนตำแหน่ง แต่ใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.64 แสนตำแหน่ง
ยอดขายบ้านใหม่ เดือนส.ค. เท่ากับ 5.52 แสนหลัง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 5.15 แสนหลัง และเดือนก่อนหน้าที่ 5.22 แสนหลัง เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2551 โดยยอดขายในเขตตะวันออกเฉียงเหนือ และตอนใต้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ยุโรป
ธนาคารกลางนอร์เวย์ลดอัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงจาก 1.00% เป็น 0.75% เป็นระดับต่ำสุดเท่าที่เคยมีมา และส่งสัญญาณพร้อมลดอัตราดอกเบี้ยได้อีก หากเกิดความเสี่ยงต่อราคาน้ำมันปรับตัวลงในอนาคต เพราะเศรษฐกิจหลักของนอร์เวย์คือธุรกิจปิโตรเลียม ทั้งนี้เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง และอัตราเงินเฟ้อที่น่าจะต่ำกว่าเป้าหมาย
ดัชนี Business sentiment ของเยอรมันเพิ่มขึ้น: เดือนก.ย. เป็น 108.5 จุด จากเดือนส.ค.ที่ 108.4 จุด และสูงกว่า Reuters poll ที่ 108.0 จุด หลังแผนการช่วยเหลือกรีซมีพัฒนาการในเชิงบวก และความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุนลดลง
ธนาคารกลางของยูเครนลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2: อัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเป็น 22% จากเดิม 27% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.หลังอัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ หากอัตราเงินเฟ้อในปีหน้าเป็นไปตามที่คาดการณ์ ธนาคารกลางก็พร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างมีนัยยะสำคัญ
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คงอัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก Overnight คงไว้ที่ 4.0% สอดคล้องกับ Bloomberg consensus คาด ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษ คงไว้ที่ 2.5% ถือเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 8 ติดต่อกัน จากแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ที่จะเติบโตในอัตราเร่ง ลดความต้องการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงิน
ธนาคารกลางไต้หวันลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552: อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 12.5bps เป็น 1.75% ทั้งนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างคาดว่าธนาคารกลางไต้หวันจะคงอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้เป็นผลจากค่าเงินไต้หวันดอลลาร์ที่แข็งค่า และเศรษฐกิจจีนที่เติบโตชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก
นายกฯ ญี่ปุ่นตั้งเป้าขนาดเศรษฐกิจขยับเป็น Yen600 ล้านล้าน: เพื่อต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการตั้งเป้าหมายขนาดเศรษฐกิจญี่ปุ่นเป็น Yen600 ล้านล้าน จาก ณ ปัจจุบันที่ Yen500 ล้านล้าน แต่ไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน พร้อมกับเพิ่มมาตรการสนับสนุนให้ครอบครัวมีลูกเพิ่มขึ้น คิดเป็นอัตราการเกิด 1.8% เพิ่มขึ้นจาก 1.43% ของปี 2557
อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นใกล้เคียงคาด: เพิ่มขึ้น 0.2% yoy ในเดือน ส.ค.เท่ากับเดือนก่อนหน้า เทียบกับ Bloomberg Consensus คาด +0.1% yoy อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อไม่รวมอาหารสดลดลง 0.1% yoy จากอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง นับเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2556 ซึ่งทำให้ธนาคารกลางญีปุ่นตัดสินใจเพิ่มวงเงินซื้อสินทรัพย์ในช่วงเวลานั้น ทำให้ตลาด 1 ใน 3 ประเมินว่า BoJ จะมีนโยบายผ่อนคลายการเงินในการประชุมเดือน ต.ค.
ไทย
ดันลงทุน PPP 2 แสนล้านบาทภายในปีนี้: นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ พีพีพี ว่า ที่ประชุมเห็นชอบโครงการลงทุนพีพีพีภายในปีนี้ 5 โครงการ มูลค่า 2 แสนล้านบาท รวม 5 โครงการ ซึ่งจะทยอยเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในปีนี้ทั้งหมด ได้แก่ 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) วงเงินลงทุน 5.67 หมื่นล้านบาท 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) วงเงิน 5.47 หมื่นล้านบาท 3.การเปิดประมูลว่าจ้างเอกชนเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (บางซื่อ-กาญจนาภิเษก) 8.24 หมื่นล้านบาท 4.โครงการโรงไฟฟ้าขยะ อบจ.นนทบุรี 4.14 พันล้านบาท และ 5.โครงการโรงไฟฟ้าขยะ เทศบาลนครราชสีมา 2.25 พันล้านบาท
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530