- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 September 2015 17:10
- Hits: 1358
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มทรงตัว คาดลุ้นกลับไปบวก ดังนั้นซื้อแล้วถือต่อได้...
กลยุทธ์ : แม้วานนี้ SET จะปรับตัวลงต่ออีก แต่ก็ถือว่าเริ่มแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้น และมีแรงซื้อกลับพอควร ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET มีสิทธิพลิกกลับไปแกว่งบวกต่อได้ตามคาดเดิม ดังนั้นหลังจากเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อช่วงลบไปแล้ว เราแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อน เพื่อลุ้นโอกาสที่ดัชนีจะสามารถขยับขึ้นไปหาระดับดัชนีเป้าหมายปีนี้ที่ FSS ประเมินไว้ที่ 1450 จุดหรือใกล้เคียงต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BEAUTY, DCON, BJCHI(short)
แนวโน้ม : วานนี้ SET ยังแกว่งลบตามภาวะตลาดหุ้นทั่วโลก ที่วิตกต่อตัวเลขเศรษฐกิจหลายประเทศที่อ่อนแอกว่าคาดโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน แต่ก็ถือว่ายังมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยพยุงให้ตลาดหุ้นไทยยังมีลักษณะแกว่งทรงตัวได้บ้าง ขณะที่เช้านี้แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังปรับตัวลงต่อ หลังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และข้อมูลที่บ่งชี้ว่าภาคการผลิตเดือน ก.ย.ของสหรัฐเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี แต่ก็ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ให้ดีดกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในวันได้ดีพอควร โดยคาดว่าส่วนหนึ่งมาจากการที่นักลงทุนยังมีความหวังว่าเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วนัก รวมทั้งการที่ ECB ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ก็อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้บ้างว่าเศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มจะทรงตัวได้ดีขึ้นบ้างแล้ว นอกจากนี้การลาออกของ CEO โฟล์คสวาเกนก็ช่วยทำให้ราคาหุ้นโฟล์คฯ รีบาวด์กลับขึ้นได้อีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ทำให้ FSS ยังคาดหมายว่า SET จะสามารถรีบาวด์กลับขึ้นไปแกว่งบวกได้ด้วยเช่นกันตามคาดเดิม
แนวรับ 1372-1370 , 1365-1360 จุด
แนวต้าน 1378-1382 , 1385-1390 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคทุกประเทศและหนาแน่น US$1,032 ล้าน เงินทุนไหลออกจากไต้หวันมากที่สุด US$495 ล้าน ตามด้วย US$303 ล้าน และไทย US$136 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกภายหลังตัวเลข PMI จีนและอีกหลายประเทศตกต่ำยิ่งสร้างความวิตกต่อความชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ส่งออกของไทยเดือน ส.ค. อาจดีกว่าคาด ตลาดคาด -3.2% Y-Y แต่ยอดส่งออกรถซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 เพิ่มถึง 13.9% Y-Y เร่งตัวจาก ก.ค. ที่ +11.5% Y-Y จึงอาจทำให้ภาพรวมของส่งออกเดือน ส.ค. ติดลบน้อยกว่าคาดและเป็นข่าวดีต่อ SET Index ซึ่งหาได้ยาก สังเกตุว่าหุ้นกลุ่มยานยนต์ช่วงปลาย ส.ค. ปรับตัวขึ้นดีหลังส.อ.ท.รายงานตัวเลขส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ SAT, TKT, TMC, TRU แต่สำหรับการลงทุนระยะยาว แนะนำ SAT (ราคาเป้าหมายปีนี้ 21 บาท) ที่จะเริ่มรับรู้รายได้การผลิตชิ้นส่วนรถคูโบต้าและฮีโน่ใน 2H15 และ EPG (เป้าหมายปีนี้ 12 บาท) ที่รับรู้รายได้เต็มที่จากการซื้อ TJM เพื่อเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายชิ้นส่วนรถกระบะในออสเตรเลีย
(0) รมว.คลังเร่งสรุปมาตรการกระตุ้นอสังหาฯใน 2 สัปดาห์ หากมีการลดภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3% เหลือ 0.1% ตามที่เป็นข่าว จะช่วยเพิ่มกำไรของกลุ่มอสังหาฯในปีหน้าอีก 19% คิดเป็นอัตราการเติบโต 30% Y-Y เติบโตมากขึ้นกว่าประมาณการของเราที่คาดกำไรโต 10% Y-Y อย่างไรก็ตาม เราไม่แนะนำให้เก็งกำไรกับข่าวนี้เพราะยังมีความไม่แน่นอน แต่แนะนำซื้อลงทุน คือ PS (ราคาเป้าหมายปีนี้ 36 บาท) และ QH (เป้าหมายปีนี้ 4 บาท) จากพื้นฐานที่แข็งแกร่งอยู่แล้วของทั้งสองบริษัท
(+) TISCO การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้พบว่าผลกระทบจาก SSI น้อยกว่าเราและตลาดคาดเพราะจะมีรายการอื่นๆ ช่วยลดผลกระทบจากการตั้งสำรอง 1.5 พันล้านบาทของ SSI เราจึงคาดกำไร 569 ล้านบาทใน 3Q15 (ดีกว่าเดิมที่คาด 250 ล้านบาท) -43% Q-Q, -42.6% Y-Y ส่วน Coverage ratio ที่เหลือ 70% ผู้บริหารไม่มีนโยบายสำรองเพิ่มให้กลับไปสู่ระดับเดิม แรงกดดันต่อการตั้งสำรองในระยะถัดไปจึงต่ำลง ผลของ SSI ที่น้อยกว่าคาดทำให้เราปรับกำไรปี 2015 ขึ้น 10% เป็น 3.8 พันล้านบาท -10.5% Y-Y และคงประมาณการกำไรปี 2016 +9.7% Y-Y คงราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 42.70 บาท และคาดว่าจะจ่ายปันผลได้ 2 บาท/หุ้นเท่าเดิม (yield 5.4%) แนะนำซื้อลงทุนระยะยาว
(+) BIG การปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทที่เดิมเป็น Holding Company ถือหุ้น 99.99% ในบจ.บิ๊กคาเมร่า (ขายกล้อง) และ 97% ในบจ.บิ๊กคาเมร่า (2001) จำกัด (ขายมือถือ) ให้เป็นบมจ. บิ๊กคาเมร่าคอร์ปอเรชั่น บริษัทเดียว ทำให้บริษัทใช้ประโยชน์ทางภาษีจากผลขาดทุนที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งเป็น SUN ซึ่งมี Loss carry forward ประมาณ 190 ล้านบาทโดยจะเริ่มใช้ในปีหน้า เราปรับกำไรปี 2016 ขึ้น 12% เป็น 367 ล้านบาท +36% Y-Y เพิ่มต่อเนื่องจากปีนี้ที่คาดโต 97% Y-Y ราคาเป้าหมายปรับไปใช้ปีหน้าที่ 2.20 บาท แนะนำซื้อ
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบเล็กน้อยหลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคการผลิตเดือนก.ย.ของสหรัฐฯเคลื่อนไหวต่ำสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ประธาน ECB ส่งสัญญาณว่ายังไม่กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมารีบาวด์กลับขึ้นมาได้บ้างหลัง CEO ของ Volkswagen ลาออก อย่างไรก็ตามตลาดยังกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว
(0) สำหรับตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนหนึ่งปิดทำการ ส่วนที่เปิดทำการปรับตัวผสม เนื่องจากนักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลก
(-) ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 36.15-36.25 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดที่ 44.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.88 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,131.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่ารวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ ทำให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24-ก.ย. - ไทย: ดุลการค้า (ส.ค.)
- ตลาดหุ้นมาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ปิดทำการ
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ส.ค.), ยอดขายบ้านใหม่ (ส.ค.)
25 ก.ย. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ส.ค.)
- ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และ อินเดีย ปิดทำการ
- สหรัฐ: 2Q15 GDP ตัวเลขสุดท้าย (ตลาดคาด +3.7%)
28 ก.ย. - ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน ปิดทำการ
- สหรัฐ: Pending Home Sales, Personal spending and income (ส.ค.)
29-ก.ย. - ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการ
- อินเดีย: ธนาคารกลาง (RBI) ประชุม
- รมว.ต่างประเทศของสหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประชุมเรื่องการรักษาสันติภาพในบริเวณคาบสมุทรเกาหลี
30-ก.ย. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ส.ค.
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ก.ย.)
1-ต.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.), อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research