- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 September 2015 17:07
- Hits: 1541
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index : ขึ้นทดสอบ 1400 และ 1410
SET Index : 1393.45 ปรับตัวต่อเนื่องใกล้ทดสอบแนวต้านทดสอบแนวต้านสำคัญของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 1395 จุด ทำให้แนวโน้มของ SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถ้าสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1400 จุด โดยมีแนวต้านที่ 1400 จุด และ 1410 จุดในระยะสั้น แต่เมื่อพิจารณาโครงสร้างในระยะยาวที่ฟื้นตัวกลับขึ้นมาเหนือระดับ 1360 จุดได้ค่อนข้างดี ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1440 จุด
แนวต้าน : 1395 และ 1400
แนวรับ : 1385 และ 1380
ITD = 8.10 / 8.90, TPIPL = 2.62 / 2.78, ADVANC = 232 / 236, KTB = 17.80 / 18.50, KBANK = 181 / 185
Tpi Polene (TPIPL TB; THB 2.64) - ซื้อ
แนวต้าน : 2.68 และ 2.78
แนวรับ : 2.62 และ 2.58
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น รอทะลุเส้นแนวต้านขาลงที่ 2.86 แนวโน้มของราคาหุ้น พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TPIPL โดยมีแนวรับที่ 2.62 และ 2.58 และมีแนวต้านที่ 2.68 และ 2.78 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.50 ลงไป
Irpc (IRPC TB; THB 4.02) - ซื้อ
แนวต้าน : 4.10 และ 4.20
แนวรับ : 3.94 และ 3.90
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ IRPC โดยมีแนวรับที่ 3.94 และ 3.90 และมีแนวต้านที่ 4.10 และ 4.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.85 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ลุ้นอาทิตย์หน้า
นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ปรากฎว่าสินทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทองแดง ดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ ตลาดพัฒนาแล้วและพันธบัตร ต่างปรับตัวลง ส่วนสินทรัพย์ที่สามารถยืนในแดนบวกได้ จะเป็นสินทรัพย์ในรูปดอลลาร์ทั้งค่าเงินดอลลาร์ พันธบัตร 10 ปีสหรัฐ ค่าเงินเยน และตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย การโยกเงินออกมาจากตลาดหุ้นเกิดใหม่หรือพัฒนาแล้ว หรือสินค้าโภคภัณฑ์ มีเหตุมาจากมีความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ
ความผันผวนที่เกิดขึ้นต่างคาดกันว่าจะยังดำเนินงานต่อไป แม้ตลาดจะรับรู้ผลการประชุม FOMC เนื่องจากยังมองว่า โอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งตัวขึ้นยังมีต่อ รอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ต.ค.หรือ ธ.ค. และกังวลกับเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ตามความผันผวนที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้น่าจะลดความรุนแรงลง หลังดัชนี VIX ปรับตัวลงมาในระดับใกล้ 20 ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ จาการสำรวจของ Bank of America พบว่าบรรดานักลงทุนยังคงถือเงินสดสูงสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติในสหรัฐปี 2008 สะท้อนความกังวลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แม้เริ่มมีสัญญาณที่บ่งบอกว่าความผันผวนจะคลายตัวลง ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชีย เริ่มน่าสนใจคือ ค่า P/E กำลังลงมาเล่นต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี (รูป) แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณการลงทุน เนื่องจากมองว่าค่า EPS 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดหุ้นเอเชียยังไม่ดีขึ้นมาก จากแรงกดของเศรษฐกิจจีน ทิศทางดอกเบี้ยและราคาน้ำมัน
หากทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกยังเผชิญกับความผันผวนต่อ แรงขับเคลื่อนดัชนี SET จะขึ้นอยู่กับสภาพคล่องในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะ LTF/RMF หรือหุ้น IPO (ตลาด MAI) ส่วนเม็ดเงินต่างชาติ คาดจะยังไหลเข้าน้อย แต่มีจุดดีที่แรงขายของต่างชาติในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ไทย น่าจะหดหาย หากมีก็ไม่น่าส่งผลกับดัชนี SET โดยปัจจัยที่ยังขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทย คือ มาตรการกระตุ้นของภาครัฐในรูปแบบต่างๆ ที่ทยอยออกมา แต่คงไม่มากพอที่จะดันให้ดัชนี SET ขึ้นได้แรงๆ
หลังจากนี้กลุ่มที่น่าจะมีแรงซื้อเข้ามา จากเหตุผลเดียว คือราคาหุ้นลงไปลึก (กลุ่มธนาคารพาณิชย์) และกลุ่มที่พอมีสัญญาณชี้นำในการลงทุนในแต่ละวัน คือ พลังงานและปิโตรเคมี ส่วนกลุ่มอื่นๆ คงต้องรอประเมินผลดำเนินงาน Q3/15 หาก 2 กลุ่มดังกล่าวสามารถขยับขึ้นมาได้ก็น่าจะช่วยดันดัชนี SET เพราะ Mkt Cap. ของ 2 กลุ่มนี้มีถึงประมาณ 35% ของขนาดตลาดรวม แต่หาก 2 กลุ่มนี้ยังซึมตัว แม้กลุ่มที่โตจากการบริโภคในประเทศจะขยับขึ้นได้ ดัชนี SET ก็ไปไม่ได้ไกล
ทิศทางดัชนี SET ในสัปดาห์หน้า น่าจะมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้นจากแนวโน้มการทำปิดงบ Q3/15 (Window dressing) แต่ยังต้องจับดูความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีน ราคาน้ำมันและตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐรวมทั้งไทย (ตัวเลขส่งออก-นำเข้า ดัชนีการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชน) วันนี้หลังเฟดมีมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป ท่ามกลางความวิตกต่อเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และตลาดการเงินที่ไร้เสถียรภาพ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาด เราประเมินว่าอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา (sell on fact) หลังตลาดมีการเก็งกำไรขึ้นมาก่อนหน้าว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามการปรับลงคงจะไม่มากเนื่องจากค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าช่วงสั้น (ลดความกดดันที่นักลงทุนต่างชาติจะขายหุ้นออกไปได้บางส่วน) และใกล้ปิดงวดไตรมาส 3 ที่กองทุนอาจมีการทำ window dressing กลยุทธ์วันนี้เราแนะนำให้ทยอยขายทำกำไรหากดัชนีมีการปรับขึ้นต่อ โดยมีแนวต้าน 1395-1400 และแนวรับ 1375-1380 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,393.45 จุด เพิ่มขึ้น 3.75 จุด(+0.27%) มูลค่าการซื้อขาย 15,693.89 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบคล้ายตลาดภูมิภาคที่แกว่งแคบแต่อิงในแดนบวกเป็นหลัก อาจเป็นเพราะเจอ Sell on Fact หลังรู้ผลประชุมเฟดให้คงดอกเบี้ย และรอปัจจัยใหม่เข้ามาด้วย ส่วนบ้านเราก็เจอแรงขายทำกำไรหลังหมดข่าว โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่เริ่มกังวลเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาโดยเฉพาะ 3 แบงก์ที่เกี่ยวข้องกับ SSI หวั่นแบงก์อาจจะต้องตั้งสำรองเพิ่มใน Q3/58 อย่างไรก็ดีตลาดฯยังมีลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาต่อเนื่อง หวังจะมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯด้วย ทำให้ยังช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งคล้ายช่วยเช้า พร้อมให้จุดฟิวเตอร์และแนวรับไว้ที่ 1,385 แนวต้าน 1,400 จุด
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดภาคบ่าย มีโอกาสเข้าทดสอบระดับ 1400 จุด โดยค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นหลุดแนวรับสำคัญที่ 35.8 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มาที่ระดับ 35.6 บาทต่อดอลลาร์แล้ว ทำให้สามารถยืนยันแนวโน้มการแข็งค่าที่ดูแข็งแรง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 35.15 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งหากเป็นตามแนวโน้มดังกล่าว จะถือเป็นปัจจัยหนุนให้เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดไทย จากประเด็นดังกล่าว เรายังแนะนาให้เข้าเก็งกำไรตามกระแส Fund Flow โดยเราชอบหุ้นใหญ่อย่าง PTT,KBANK, AOT, SCC, BANPU, TOP, PTTGC, IRPC, CENTEL, CPN, CPALL, QH
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Tpi Polene (TPIPL TB; THB 2.64) - ซื้อ
Irpc (IRPC TB; THB 4.02) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kammiphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]