- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 September 2015 18:33
- Hits: 3648
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +140.10, NASDAQ +28.72, S&P +17.22, FTSE +91.61, CAC +76.47 และ DAX +39.08 ภายใต้ปัจจัยหนุนจาก (1) ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน และ (2) การคาดการณ์ว่าเฟดยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลัง (ผลการประชุมเช้าวันศุกร์ ตามเวลาไทย) สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - ส.ค. ลดลง 0.1%MoM ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ปรับลงนับแต่ม.ค. ที่ผ่านมา
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. +US$2.56 อยู่ที่ US$47.15 ต่อบาร์เรล หละง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบล่าสุด ลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล (สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล) อยู่ที่ 455.9 ล้านบาร์เรล
.....ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$16.4 อยู่ที่ US$1,119.0 ต่อออนซ์ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อลดลงในเดือนส.ค. ทำให้การคาดการณ์ว่าเฟด จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +402 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -92,458 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
(0/-) กนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ 1.50% ขณะที่ประเมินเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับปัจจัยลบโดยเฉพาะจากต่างประเทศรวมทั้งความผันผวนของตลาดการเงินโลกที่อาจสูงขึ้น
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : Sideway? คาดยังมีโอกาสปรับขึ้น ตามตลาดต่างประเทศภายใต้การคาดการณ์ว่าเฟดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ (ผลการประชุมเช้าวันพรุ่งนี้ ตามเวลาไทย) หลังตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดลดลง อย่างไรก็ตามคาดยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัว อาจส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ ที่เป็นคู่ค้า แต่จีนพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่น เพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้มาตรการผ่อนคลาย ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ แนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีนที่คาดอาจเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดหลังจากนี้ไป
.....ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากประเด็นเดิม (1) Fund Flow จากแรงซื้อสุทธิของต่างชาติติดต่อกันเป็นวันที่ 2 แม้มูลค่ายังไม่มากนัก ขณะที่แนะติดตามค่าเงินบาท โดยรวมคาดยังมีทิศทางอ่อนค่า และคาดอาจส่งผลต่อ Fund Flow ทำให้ยังมีความผันผวนแรงซื้อขายสุทธิ สลับกัน และ (2) ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 คาดส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
.....ขณะที่แนะจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่คาดออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนอง ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณา คาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
....และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ภาพรวมยังมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 35.83 – 35.85 คาดเป็น Sentiment ที่ดีต่อกลุ่มส่งออก (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้น โดยเฉพาะช่วง High season ในช่วง 4Q/58 (6) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) หลัง กสทช. จะเปิดประมูลใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ในวันที่ 11/11/58 และ15/12/58 ตามลำดับ และ (7) Window Dressing – 3Q/58 ในวันที่ 30/9/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้น +0.02 อยู่ที่ 2.30% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.19 อยู่ที่ 21.35
หุ้นแนะนำ : PS
ประเด็นที่ต้องติดตาม (17 - 18 กย.’58)
17/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดุลบัญชีเดินสะพัด – 2Q/58 (3) ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง - สค. (4) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - กย. (5) เฟดประกาศมติการประชุม
18/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ - ส.ค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788