- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 September 2015 18:27
- Hits: 1544
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ขึ้นทดสอบ 1400 และ 1410
SET Index : 1390.96 ปรับตัวต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1390 จุดหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 1380 จุด และเส้นค่าเฉลี่ย200 วันขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มของ SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านที่ 1400 จุด และ 1410 จุดในระยะสั้น แต่เมื่อพิจารณาโครงสร้างในระยะยาวที่ฟื้นตัวกลับขึ้นมาเหนือระดับ 1360 จุดได้ค่อนข้างดี ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1440 จุด
แนวต้าน : 1395 และ 1400
แนวรับ : 1388 และ 1385
SCB = 145 / 147, PTTEP = 73.50 / 75.00, ADVANC = 234 / 236, KBANK = 181 / 184, BBL = 165 / 167
PTT (PTT TB; THB 256.00) - ซื้อ
แนวต้าน : 264 และ 270
แนวรับ : 256 และ 254
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิม แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ฟื้นตัวทดสอบระดับ 40
แนะนำซื้อ PTT โดยมีแนวรับที่ 256 และ 254 และมีแนวต้านที่ 264 และ 270 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 250 ลงไป
General Environment (GENCO TB; THB 1.87) - ซื้อ
แนวต้าน : 2.00 และ 2.20
แนวรับ : 1.87 และ 1.85
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่งหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้ ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ GENCO โดยมีแนวรับที่ 1.87 และ 1.85 และมีแนวต้านที่ 2.00 และ 2.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.85 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...รอผลการประชุม FOMC
ค่ำคืนนี้ เราคงจะทราบผลการประชุม FOMC ว่าทาง FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ หากขึ้นดอกเบี้ยก็จะสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐและสร้างความชัดเจนให้กับตลาด แต่หากยังคงดอกเบี้ยแต่บอกเป็นนัยว่าจะขึ้นในเดือนต่อมา น่าจะไม่เป็นผลลบกับตลาดมาก อย่างไรก็ตามหากยังบอกว่าการขึ้นดอกเบี้ยยังขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาดรวมและเศรษฐกิจจีน ตรงนี้น่าจะทำให้ตลาดหุ้นผันผวนต่อไปอีก จากสถิติที่ผ่านมาในช่วงการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในปี 1994 1999 และ 2004 ปรากฏว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก จะส่งผลต่อดัชนีดาวโจนส์ทั้งขึ้นและลง โดยในปี 1994 ดาวโจนส์ปรับลดลง ในขณะที่ปี 1999 ดาวโจนส์ปรับขึ้นได้และปี 2004 ดาวโจนส์ปรับลง โพลส์สำรวจล่าสุดของ Thomson Reuters จากนักเศรษฐศาสตร์รวม 80 คน มี 45 คนมองคงดอกเบี้ย ขณะที่ Trader มองโอกาสขึ้นดอกเบี้ยอยู่ที่ 25%
ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐยังคงเคลื่อนไหวคล้ายๆปี 1998 ดูได้จากรูปด้านซ้าย หากยังย้ำรอยปี 1998 ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐจะยังผันผวนในช่วงที่เหลือของเดือน ก.ย. แล้วปรับตัวขึ้นในช่วงต้น ต.ค. ส่วนทิศทางดัชนี SET ในปี 1998 หากเทียบกับปัจจุบัน ก็ถือว่าคล้ายๆกันในแง่ขึ้นจุดสุงสุดและต่ำสุด คือสร้างจุดสูงสุดในเดือน ก.พ. และต่ำสุดในเดือน ส.ค. ส่วนอัตราการลงในปี 1998 มากถึง 60% จากสูงสุดถึงต่ำสุด ส่วนในปีนี้ลงไปแล้ว 20% จากสูงสุดถึงต่ำสุด (ใช้ราคาปิด)
เรามองว่าแม้ตลาดจะสามารถดีดตัวกลับได้ แต่คาดคงไปไม่ได้ไกล เนื่องจากยังมีปัจจัยกดดันทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ โดยกรอบการขึ้นยังมองที่ 1420-1430 จุด (หากสามารถขึ้นมายืนเหนือ 1400 จุดได้) ปัจจัยภายในที่จะส่งผลต่อดัชนี คือผลดำเนิงาน Q3/15 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนภายนอก คือ เศรษฐกิจจีนและราคาน้ำมัน
การเคลื่อนไหวของดัชนี SET คาดยังคงเป็นแบบเลือกเล่นรายตัวและรายกลุ่ม ซึ่งตอนนี้หลายๆกลุ่มก็ใช้ข่าวภายในเล่นกันทุกกลุ่มแล้ว จะเหลือที่ยังไม่ไปไหนหรือยังลงลึกตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และพลังงาน ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ยังมีแรงกดดันจากภาพใหญ่ของอุตสาหกรรม เรามองว่าหากทิศทางตลาดหุ้นโดยรวมหลังการประชุม FOMC เริ่มทรงตัว หุ้นในกลุ่มที่กล่าวมาน่าจะดีดตัวกลับได้แรง แต่หากตลาดยังผันผวนต่อไป กลุ่มที่น่าจะยืนๆ คือกลุ่มที่โตจากการบริโภคภายในประเทศ ดังนั้นการลงทุน ยังคงอยู่ในโหมดของการซื้อเก็งกำไร จนกว่าความผันผวนของตลาดหุ้นโลกจะคลายตัวลง
ดังนั้นในสัปดาห์หน้าคงจะเห็นทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก ว่าจะตอบสนองอย่างไรกับผลการตัดสินของ FED หากดีขึ้น น่าจะทำให้ดัชนี SET ขึ้นได้ระดับหนึ่ง แต่คงไม่ไกล เพราะยังมีตัวถ่วงอย่าง กำไรของตลาด ตัวเลขเศรษฐกิจและความผันผวนที่จะเกิดในจีน วันนี้คาดดัชนี SET จะดีดตัวขึ้นต่อหลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดเพิ่มขึ้นและราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแรง (หลังสต๊อกน้ำมันในสหรัฐลดลงเหนือความคาดหมาย) โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1390-1395 จุด ส่วนแนวรับที่ 1376-1372 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไรกลุ่มธนาคาร (KBANK/KTB) สินเชื่อขนาดเล็ก (SAWAD) พลังงาน (PTT/PTTEP) และรับเหมา (STEC)
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,390.96 จุด เพิ่มขึ้น 9.16 จุด(+0.66%)มูลค่าการซื้อขาย 15,647.61 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศที่อยู่ในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐเดือนส.ค. ปรับลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. จับตาผลการประชุมเฟด (คืนนี้)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดภาคบ่าย โอกาสเข้าทดสอบระดับ 1400 จุด หลังนักลงทุนค่อนข้างจะมั่นใจว่าเฟดน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ ซึ่งหากเป็นไปตามคาด จะมีผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในช่วงสั้นๆ หลังจากที่แข็งค่าขึ้นมาต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะหนุนให้เกิดเม็ดเงินต่างชาติไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย เพราะต่างชาติถือครองหุ้นไทยต่ำมาก หากค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ก็มองว่าตลาดไทยอาจจะเป็นจุดพักเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ ระยะสั้นเราแนะนำให้กลับเข้าเก็งกำไรตามกระแส Fund Flow โดยเราชอบหุ้นใหญ่อย่าง PTT, KBANK, AOT, SCC, BANPU, TOP, PTTGC, IRPC, CENTEL, CPN, CPALL, QH, อย่างไรก็ตาม หากเฟดขึ้นดอกเบี้ย ตลาดน่าจะเกิด Panic sell อีกรอบ และมีโอกาสเห็น SET ลงไปต่ำกว่าระดับ 1350 จุด
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Turnover List preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : TLUXE, AJD*, CPR*, PERM*, SAMCO*, UREKA* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
PTT (PTT TB; THB 256.00) - ซื้อ
General Environment (GENCO TB; THB 1.87) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]