- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 September 2015 16:42
- Hits: 2400
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แกว่ง/บวกจำกัด
KGI คาด SET วันศุกร์ไซด์เวย์/บวกแคบ (วานนี้ลงก่อนฟื้น ตามคาด) เรามองว่าความไม่ชัดเจนต่อผลประชุมเฟดวันพฤหัสฯ หน้าจะส่งผลให้ SET แกว่ง ทั้งนี้ SET อาจบวกบ้างหลังหุ้นพลังงานอาจขยับขึ้นตามราคาน้ำมัน +3.7% หลัง EIA ประเมินการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ จะลดลงในระยะหลายเดือนจากนี้ (หักล้างผลของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่สูงกว่าคาด) เราคงมองหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจภายใน/มาตรการกระตุ้นภาครัฐฯ จะยังเด่น เพราะปัจจัยเศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินสหรัฐฯ ไม่ชัดเจน แนะเก็งกำไรหุ้นจำพวกนี้ต่อไปก่อน รอติดตามผลประชุมเฟดก่อนปรับ
กลยุทธ์อีกครั้ง
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร SYNEX / สะสม IFEC, SAMART*
SYNEX (เป้า Consensus 5.2 บาท) 1) รูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นหากวันนี้ทะลุผ่านแนวต้านสั้นที่ 4.40 บาทได้ (แนวต้านเทรนไลน์) มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 4.92 บาท ประเมินแนวรับ ±4.30 บาท 2) ในเชิงพื้นฐาน เรายังคงประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 จะโตเด่น QoQ และ YoY ต่อเนื่อง (High season + คาดมีกำไรพิเศษจากการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินไว้ล่วงหน้า) 3) ประเมินกำไรปีนี้ ±300 ล้านบาท โต >65% YoY (อิงเป้ายอดขาย 2 หมื่นล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิ 1.5%, ใน 1H58 มียอดขาย 1 หมื่นล้านบาทและอัตรากำไรสุทธิ 1.6%) คิดเป็น EPS ±0.375 บาท เท่ากับ PE ตอนนี้ต่ำเพียง 11.6 เท่า 4) จ่ายปันผลระหว่าง 0.08 บาทต่อหุ้น (XD 20 ส.ค.) เป็นการจ่ายปันผลระหว่างกาลครั้งแรกในรอบ 4 ปี ส่งสัญญาณบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H58
IFEC (เป้าพื้นฐาน 16.6 บาท) 1) แนะนำ “สะสม” ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้น หลังทะลุแนวต้านเทรนไลน์วานนี้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน ±11.5 บาท และมีโอกาสทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ ±12.5 บาท 2) เตรียม COD โครงการพลังงานลมที่ปากพนังเฟสที่ 1 ขนาด 10MW วันที่ 25 ก.ย.นี้ ปลดล๊อกอุตสาหกรรมพลังงานลมที่ภาคใต้ และเตรียมสร้างเฟสที่ 2 อีก 8.9MW ต่อ 3) คาดเตรียมนำเสนอการซื้อหุ้นโครงการพลังงานลมที่ประเทศเกาหลีใต้ขนาด 33MW เข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นภายในไตรมาส 4/58 (IFEC ต้องการซื้อหุ้น 1 ใน 3 ตอนนี้เหลือเพียงการจัดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บ.ที่เกาหลีใต้ใหม่) และเตรียมพัฒนาโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งอีก 100 – 200MW ที่ประเทศเกาหลีใต้ 4) ร่วมประมูลโครงการโซลาร์ส่วนราชการฯ ในส่วนของโควต้าหน่วยงานทหารเรือ (เบื้องต้นเราคาดได้ราว 50 – 100MW)
SAMART* (เป้า Consensus 25.7 บาท) 1) แนะนำ “สะสม” ประเมินรูปแบบเริ่มฟื้นตัว มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน ±25 บาท ประเมินแนวรับ 22.5 บาท 2) คาดพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และจะเริ่มฟื้นตัวโดยเฉพาะ บ.ลูกอย่าง SAMTEL (คาดงานประมูลวางระบบฯ จากภาครัฐฯจะเริ่มฟื้นตัวในปลายปีนี้) และ SIM (คาดยอดขายโทรศัพท์มือถือ จะเริ่มฟื้นในปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า รับ 4G) 3) รองานเซ็น MOU โรงไฟฟ้าถ่านหินที่ประเทศกัมพูชาภายในไตรมาส 4/58 นี้ 4) มีโอกาสเข้าร่วมงานประมูลโครงการย้ายสายไฟฟ้าลงใต้ดินของ การไฟฟ้านครหลวง (มูลค่าโครงการรวม 1.4 แสนล้านบาท) ... วานนี้ราคา SAMTEL ปรับขึ้นแรง 4.5% และ Break แนวต้านสำคัญที่ 20.4 บาทได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (EMA) ที่ 21.5 บาท เป็น Sentiment บวกต่อ SAMART*
… BR (เป้าพื้นฐาน 12.9 บาท) 1) ธีมค่าเงินบาทอ่อนโดย BR มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกในรูปค่าเงินยูโรราว ±35% ของรายรับทั้งหมด (ดอลลาร์สหรัฐฯราว 8% และเงินบาทราว 55%) 2) ประเมินรูปแบบราคาฟื้นตัวหากผ่านแนวต้านสั้นที่ 9.65 บาทได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ราว 10.2 บาท ประเมินแนวรับ ±9.3 บาท และกำหนดจุด Stop loss ที่ 9 บาท
… JAS* (เป้า Consensus 6.56 บาท) แนะนำ “เก็งกำไร” ต่อจากวานนี้ 1) ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (EMA) ที่ 6.2 บาท (กำหนด Stop loss 5.5 บาท) 2) เราประเมิน JAS มีโอกาสเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจก่อนการประมูล 4G ในเดือน พ.ย.นี้ ที่จะเข้ามาร่วมลงทุนธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ชดเชยความเสี่ยงที่ JAS เองไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจโทรศัพท์ … สำหรับนักลงทุนที่รับเสี่ยงได้น้อยอาจพิจารณาลงทุน JASIF ที่มีปันผลสูง >7% ต่อปี
(+ กลุ่มรับเหมาฯ วัสดุฯ) นโยบายการลงทุนภาครัฐฯ (รถไฟทางคู่, รถไฟความเร็วสูง, รถไฟฟ้า, มอเตอร์เวย์, สุวรรณภูมิเฟส 2) ที่คาดจะเริ่มต้นการประมูลในช่วงปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า ยังเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ+วัสดุฯ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” CK* และ SCC* / แนะนำ “เก็งกำไร” ITD* (กำหนด Trialing stop 7.8 บาท สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตามที่เราแนะนำ)
… กลุ่มการบริโภคในประเทศที่ได้อานิสงค์จากนโยบายภาครัฐฯ ค้าปลีก (ROBINS*) ลีสซิ่งรากหญ้า (TSR) อสังหาฯ (SPALI*, AP*) แนะนำ “ซื้อ” ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) เป็นหุ้น Laggard กลุ่มค้าปลีก TSR (เป้าพื้นฐาน 9.5 บาท) เป็นหุ้นเด่นกลุ่มลีสซิ่งที่ผลการดำเนินงานเด่น แต่ราคายังไม่สะท้อน และแนะนำ “เก็งกำไร” กลุ่มอสังหาฯ อย่าง SAPLI* และ AP*
… หุ้นพลังงานทดแทน (IFEC, SUPER, SOLAR, TSE, GUNKUL, DEMCO) โครงการโซลาร์ส่วนราชการและสหกรณ์การเกษตร (โซลาร์ส่วนราชการฯ) จำนวน 800MW ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติวันที่ 11 ธ.ค.นี้, ประกาศผลวันที่ 24 ธ.ค.นี้ i) เราประเมินเป็นการปลดล๊อกอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนไทย โดยจะทำให้สามารถเปิดประมูล FiT พลังงานทดแทนอื่นๆได้ โดยเฉพาะพลังงานลม หลังการจัดโซนนิ่งเสร็จ ii) ประเมินหุ้นที่มีความพร้อมเข้าร่วมโครงการฯ (ขนาดการลงทุนมีนัยสำคัญ) ได้แก่ IFEC, SUPER, SOLAR, TSE เป็นต้น และเป็นบวกต่อผู้รับเหมาฯ อย่าง DEMCO, GUNKUL* แนะนำ “ซื้อสะสม” หุ้นในกลุ่มฯ
… UWC และ CEN มีธีมการลงทุนเรื่องการขยายสายส่งไฟฟ้าฯทั่วประเทศ (UWC มีส่วนแบ่งตลาดฯ ±30%) และการเข้าซื้อธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล >100MW (ปิดดีลการซื้อโรงไฟฟ้าชีวมวลราว 20 – 30MW ในเดือน ก.ย.นี้) ขณะที่ CEN ถือหุ้น UWC อยู่ 40.5%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: SCC*, KTB*, SAMART*, BANPU*, IFEC, TSR
ขายล๊อกกำไร: CPF* (แนวต้าน 20.5 บาท), PYLON (แนวต้าน 11.8 บาท)
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลยุทธ์: คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลให้ดัชนีเชื่อมั่นฯ ฟื้นตัวภายใน 1Q59 ซึ่งจะส่งผลดีต่อ GDP และหุ้นที่เชื่อมโยงกับดัชนีเชื่อมั่นฯ เราแนะนำซื้อสะสมหุ้นกลุ่มดังกล่าวที่มีค่า PEG ต่ำว่า 1.0 เท่า ประกอบด้วย LPN* ANAN* AP* TASCO DCC และ WORK
ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
(+) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปรับเพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านคนปีนี้ ขณะที่ประมาณการต้นปีอยู่ที่ระดับ 28.8 ล้านคน อีกทั้งคาดว่า รายได้การท่องเที่ยวรวมจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.2 ล้านล้านบาท (เดอะ เนชั่น) เราเห็นว่า ข่าวดังกล่าวเป็นบวกต่อภาพรวมตัวเลขการท่อเงที่ยวไทย อีกทั้งยังสอดคล้องกับมุมมองที่เราคาดไว้ว่า เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมาย 28 ล้านคน แม้จะเกิดเหจุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ก่อนหน้านี้ก็ตาม โดยเชื่อว่า ผลกระทบทางลบจากเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นเพียงระยะสั้น และยังอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวอีกด้วย ขณะที่การเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งตามมา เรายังคงแนะนำซื้อหุ้น AOT*, AAV*, BH* และ BDMS* โดยมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 345, 6.09, 267 และ 24.30 บาท ตามลำดับ
(+) DRT ชี้การควบคุมต้นทุนการผลิต ช่วยหนุนกำไรปี 2558 เติบโต (กรุงเทพธุรกิจ) แม้เราคาดรายได้ปี 2558 จะเติบโตใกล้เคียงกับที่ผู้บริหารคาดการณ์ที่ 4-6% แต่อัตรากำไรขั้นต้นที่ขยับขึ้น 50 bps เป็น 24.5% จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเน้นขายสินค้าที่มีกำไรดี อย่างกระเบื้องสีและผลิตภัณฑ์ไม้ฝา จะทำให้กำไรปี 2558 ขยายตัว 21.0% YoY เป็น 350 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้กำไรจะฟื้นตัว แต่กำลังซื้อในไตรมาสที่ 3 ที่ยังชะลอตัว จะทำให้หุ้น DRT ยังคงปรับตัวขึ้นไม่มากนักเมื่อเทียบกับตลาด ดังนั้น เรายังคงคำน้ำหนัก “เท่ากับตลาด”ราคาเป้าหมาย 5.95 บาท
(+) รฟม.ไฟเขียว BMCL* เดินรถ เตาปูน-บางซื่อ (ข่าวหุ้น) BMCL มีเฮ.! บอร์ดรฟม.ไฟเขียวเดินรถเตาปูน-บางซื่อและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณวงเงิน 693 ล้านบาทและพร้อมเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติการลงนามว่าจ้างต่อไป
(+) คมนาคมยอมรับ BECL* ควบ BMCL* เสนอเข้าที่ประชุม ครม. พิจารณาไม่ทัน ก.ย. นี้ (ข่าวหุ้น) 'คมนาคม' ยอมรับชงเรื่องควบรวมกิจการ BECL-BMCL เข้าที่ประชุม ครม.ไม่ทันในเดือน ก.ย.นี้ ล่าสุดยังไม่ได้รับรายละเอียดอย่างเป็นทางการ คงต้องส่งไม้ต่อให้ปลัดฯคนใหม่ดำเนินการแทน
(+) DEMCO* รายได้ทุบสถิติแบ็กล็อกหมื่นล้านหนุน (ทันหุ้น) DEMCO ท้าลุยประมูลงานใหม่ครึ่งปีหลังอีก 11,000 ล้านบาท คาดคว้าเพิ่มอีก 4,500 ล้านบาท ดันงานในมือรอรับรู้รายได้เพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาท "พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์" ฟุ้งเป้ารายได้ทั้งปีพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่อานิสงส์รัฐ-เอกชน เดินหน้าลงทุนระบบสายส่ง-สถานีไฟฟ้า
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยสั้นที่ 1392 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1392 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1392-1409 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1392 จุดนั้น อาจกดราคาทางลงในกรอบ 1392-1372 จุด
แนวรับวันนี้: 1392/1378 แนวต้านวันนี้: 1400/1409
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]