- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 September 2015 16:32
- Hits: 2383
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET ลบในกรอบจำกัดและคาดว่ากลับไปขึ้นต่อได้ จึงเน้นถือ!!
กลยุทธ์ : SET มีจังหวะพักตัวลงบ้างแต่กรอบลบยังค่อนข้างจำกัด และมีลุ้นโอกาสแกว่งบวกขึ้นต่อได้ ถึงแม้ว่าก่อนที่จะทราบผลประชุมเฟดในกลางสัปดาห์หน้า หุ้นไทยอาจจะยังแกว่งผันผวนอยู่ แต่ FSS ยังให้น้ำหนักในทางบวกต่อมากกว่า ดังนั้นเรายังแนะนำให้ซื้อช่วงลบ แล้วเน้นถือรอไว้ก่อนได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : VNG, NCH, GLOW(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ปรับตัวย้อนลงไปเคลื่อนไหวในด้านลบทั้งวัน ตามภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่เริ่มกลับมากังวลเกี่ยวกับโอกาสในการที่เฟดจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางสัปดาห์หน้า (16-17 ก.ย.) อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงเฉพาะช่วงต้นชั่วโมงเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเกือบตลอดทั้งวันจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุนให้ดัชนีค่อยๆ ไต่ระดับกลับขึ้นมาเป็นลบน้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งปิดเกือบเป็นบวกได้ โดย FSS คาดว่าแรงซื้อส่วนหนึ่งมาจากความคาดหวังเชิงบวกเกี่ยวกับการเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ครม.ชุดใหม่ของไทย ขณะที่บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้แม้ว่าส่วนใหญ่จะยังเปิดเป็นลบ แต่กรอบลบก็เริ่มแคบมากขึ้น เนื่องจากเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐพลิกกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐช่วงนี้ค่อนข้างไร้ทิศทาง ทำให้นักลงทุนยังมีความหวังว่าเฟดอาจจะยังไม่พิจารณาขึ้นดอกเบี้ยเร็วนักได้ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ดีดกลับขึ้นมาได้ดีด้วย จึงทำให้ FSS คาดว่า SET น่าจะยังมีสิทธิแกว่งบวกต่อเนื่องได้อีกตามคาด เพื่อลุ้นโอกาสขยับขึ้นหา SET Target ของปีนี้ที่เราประเมินไว้แถว 1450 จุดได้ต่อไป
แนวรับ 1393-1390 , 1386-1383 จุด
แนวต้าน 1398-1402 , 1404-1408 , 1414 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$117 ล้าน โดยไหลออกจากเกาหลีใต้ US$187 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$13 ล้าน แต่ยังไหลเข้าไต้หวันเป็นวันที่สอง US$64 ล้าน และไทยเป็นวันแรกในรอบกว่า 2 สัปดาห์ US$23 ล้าน รวมถึงเวียดนาม US$4 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกแต่ชะลอตัวลงเนื่องจากยังระมัดระวังก่อนการประชุม Fed สัปดาห์หน้า
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ตลาดหุ้นโลกยังผันผวนก่อนการประชุม Fed 16-17 ก.ย. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่รายงานเมื่อคืนนี้อยู่ที่ 2.75 แสนราย ต่ำกว่าระดับ 3 แสนรายติดต่อกันมา 7 เดือนแล้วและเป็นทิศทางที่ปรับลงต่อเนื่อง ชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐแข็งแกร่งมาก ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ Fed นำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจว่าขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้หรือไม่ ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงจับตาการประชุม Fed 16-17 ก.ย. และ Flow ยังมีโอกาสไหลออก แม้ว่าวานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 7 วันจำนวนเพียง 825 ล้านบาท แต่ขายฟิเจอร์ส 10,617 สัญญา และขายพันธบัตรติดต่อกันเป็นวันที่ 16 อย่างไรก็ตาม หุ้น Domestic plays ที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะช่วยหนุน SET index ได้ในระยะนี้
(+) BIG ความน่าสนใจอยู่ที่พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาสนใจกล้องมากขึ้น หลังจากถูก Smart phone แย่งตลาดไปในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง Smart phone เองก็กระตุ้นการถ่ายภาพแต่คุณภาพยังแทนที่กล้องดีๆไม่ได้ ประกอบกับราคากล้องในปัจจุบันถูกลงมาก และกระแสกล้อง Mirrorless (เล็กและพกพาง่ายเหมือนกล้อง Compact แต่เปลี่ยนเลนส์ได้เหมือนกล้อง DSLR) ที่ BIG เป็นผู้นำตลาด เป็นที่นิมยมมากขึ้นเรื่อยๆ เราคาดกำไรปีนี้ของ BIG จะโตก้าวกระโดด 97% Y-Y เป็น 270 ล้านบาท (1H15 มีกำไร 144 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 2014) ปีหน้าโตอีกกว่า 20% ราคาเป้าหมายปีนี้ 1.60 บาท อิง PE 20 เท่าเท่าค่าเฉลี่ยของผู้ผลิตและขายกล้องชั้นนำทั่วโลก แนะนำซื้อ
(+) LIT เราปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ขึ้นจาก +23.6% เป็น +30% และคาดสินเชื่อปีหน้าโตอีก 20% ทำให้กำไรในปีนี้ขึ้นเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 14% เป็น 66 ล้านบาท +40% Y-Y และคาดกำไรปีหน้าโตต่อ +33% Y-Y สะท้อนประโยชน์ที่ LIT จะได้รับโดยตรงจากมาตรการช่วยเหลือ SME ของภาครัฐ และการเร่งใช้จ่ายงบประมาณและเร่งดำเนินการโครงการขนาดเล็ก ส่วน Story ระยะสั้นก็น่าสนใจเพราะเป็น High season ของการเบิกจ่ายงบฯ เราจึงคาดกำไร 3Q15 +18% Q-Q, +40% Y-Y เรายังคงแนะนำซื้อ โดยปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 9.70 บาท
(+) GLOBAL ธุรกิจอ่อนไหวมากกับกำลังซื้อของผู้มีรายได้น้อย เพราะสาขาทั้งหมดอยู่ในต่างจังหวัด ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้รับเหมา ยอดขายของ GLOBAL จึงถูกกระทบก่อนผู้ค้าปลีกรายอื่น ยอดขายสาขาเดิมเริ่มหดตัวตั้งแต่ 3Q13 และติดลบต่อเนื่อง 5 ไตรมาสก่อนจะเริ่มฟื้นใน 4Q14 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของครม.ชุดใหม่ที่มุ่งเสริมสภาพคล่องแก่ผู้มีรายได้น้อยและ SME ก่อนและตามด้วยการลงทุน จึงเป็นประโยชน์โดยตรงกับ GLOBAL เราคาดกำไรปีนี้โต 33% Y-Y ปีหน้าโต 25% Y-Y จากการขยายสาขาปีละ 7 แห่งและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น (เพิ่มสินค้า House brand ซึ่งกำไรดี) ราคาหุ้นปรับขึ้นมาเร็วจนเริ่มใกล้เป้าหมายที่ 11.30 บาท แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากราคาน้ำมันดิบที่รีบาวด์ขึ้นมาหลังร่วงแรงในวันก่อนหน้า อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญยังเป็นการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงแรงพอสมควรโดยตลาดกังวลต่อเศรษฐกิจในเอเชียหลังตัวเลขเศรษฐกิจของจีนและญี่ปุ่นออกมาอ่อนแอ
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบโดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายมากขึ้นเพื่อรอดูผลการประชุม FED ในสัปดาห์หน้า
(+) ค่าเงินบาทแกว่งตัวผันผวนโดยล่าสุดแข็งค่าขึ้นโดยเคลื่อนไหวบริเวณ 36 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดที่ 45.92 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีข้อมูลว่าอุปสงค์ของน้ำมันในสหรัฐฯแข็งแกร่งซึ่งบดบังปัจจัยลบจากสต๊อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,109.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงค่อนข้างแรง แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังจับตาดูการประชุม FED ในสัปดาห์หน้าว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อการขึ้นดอกเบี้ย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
11-ก.ย. - สิงคโปร์: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวันเลือกตั้งทั่วไป
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
13-ก.ย. - จีน: Industrial Production, Retail sales (ส.ค.)
14-ก.ย. - ยูโรโซน: Industrial Production (ก.ค.)
15-ก.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สหรัฐ: Retail sales (ส.ค.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ก.ย.)
16-17 ก.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
16-ก.ย. - ไทย: กนง.ประชุม
- ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการ
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
17-ก.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ส.ค.)
20-ก.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (ส.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research