- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 10 September 2015 17:24
- Hits: 2166
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -239.11, NASDAQ -55.40 และ S&P -27.37 ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน และได้รับปัจจัยกดดันจากความเป็นไปได้ที่เฟดอาจมีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะมีขึ้นสัปดาห์หน้า หลังตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐฯ – กค. เพิ่มขึ้นสู่ 5.75 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลเมื่อปี’43 สะท้อนให้เห็นถึงภาวะแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันที่ลดลงกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน แม้จะมีปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่ไม่สามารถชดเชยปัจจัยกดดันข้างต้นได้
.....ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับเพิ่มขึ้น โดย FTSE +82.91, CAC +66.33 และ DAX +31.76 จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ดีขึ้น หลังจีนและญี่ปุ่น ออกมาให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มเติม
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. -US$1.79 อยู่ที่ US$44.15 ต่อบาร์เรล หลัง EIA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันเฉลี่ยในปี’58 และ 59 จากคาดการณ์เดิมที่ US$49.62 และ US$54.42 เป็น US$49.23 และ US$53.57 ตามลำดับ ขณะที่ยังคงมีความกังวลภาวะอุปทานน้ำมันส่วนเกิน
......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$19.0 อยู่ที่ US$1,102.0 ต่อออนซ์ ภายใต้ปัจจัยกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น และยังอยู่ระหว่างรอการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,438 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -93,955 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : ผันผวน? คาดมีโอกาสลดลง ภายใต้ประเด็นต่างประเทศ โดยเฉพาะอยู่ระหว่างรอการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูงเกี่ยวกับระยะเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด? และคาดยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัว อาจส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ ที่เป็นคู่ค้า อย่างไรก็ตามจีนพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่น เพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้มาตรการผ่อนคลาย ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ แนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีน
.....ทางด้านปัจจัยในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยลบจากประเด็นเดิม (1) Fund Flow ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง อีกกว่า 1,400 ล้านบาท และทำให้ YTD ยอดขายสุทธิสะสม เพิ่มขึ้นสูงเกือบ 94,000 ล้านบาท ขณะที่เงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า คาดแรงซื้อสุทธิต่างชาติอาจยังไม่กลับมา และ (2) ความผันผวนของราคาน้ำมัน ซึ่งมีผล + / - ต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามคาดยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลต่อเนื่อง จากมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและธุรกิจ SME ไปแล้ว คาดหลังจากนี้เป็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการต่างๆ ของภาครัฐ
....ขณะที่ยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วง 3Q/58 แต่เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว ขณะที่ในระยะสั้นคาดอาจมีแรงเก็งกำไรค่าการกลั่น ที่ล่าสุดอยู่ที่ ประมาณ 7 – 7.5USD/Barrel หลังก่อนหน้าเคลื่อนไหว 5 - 6 USD/Barrel (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, STEC, TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ภาพรวมยังมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 36.21 – 36.25 คาดเป็น Sentiment ที่ดีต่อกลุ่มส่งออก (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น TASCO และ VNG เป็นต้น (5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้นตามลำดับ และ (6) Window Dressing – 3Q/58 ในวันที่ 30/9/58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.01 อยู่ที่ 2.18% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.33 อยู่ที่ 26.23
หุ้นแนะนำ : SIRI
ประเด็นที่ต้องติดตาม (10 - 11 กย.’58)
10/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ราคานำเข้าและส่งออก - สค. (3) สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง - กค. (4) สต๊อกน้ำมัน
11/9/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) - สค. (2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้น - กย. (3) งบประมาณของ
รัฐบาลกลาง - สค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788