- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 10 September 2015 17:21
- Hits: 1831
บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) : Market Comment
รัฐบาลเร่งจัดลำดับความสำคัญการดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ หลังนักวิเคราะห์บางรายมองว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -1.45%, -1.15%, -1.39%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก หลังจีนและญี่ปุ่นจะสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มเติม ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB
ปิด 0.31%, 1.35%, 1.44%, 0.84%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.79 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.94 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐฯ ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีนี้และปีหน้าลง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค หลังตลาดมีกระแสการคาด การณ์ว่าจีนจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นในประเทศ หลังจากที่มีข่าวว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) เตรียมที่จะเดินหน้าการปฏิรูปปรับปรุงกรอบการทำงานด้านกฎหมาย และยกระดับการกำกับดูแลตลาด โดยอาจจะใช้กลไกต่าง ๆ เช่น ระบบ Circuit breaker สำหรับดัชนีหุ้นเพื่อป้องกันความผันผวนที่ผิดปกติ
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนได้ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสกัดความผันผวนที่รุนแรงในตลาดปริวรรตเงินตรา โดยกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ของจีนต้องกันเงินสำรองไว้กับธนาคารกลางจีนในสัดส่วน 20% ของมูลค่าการซื้อขายสกุลเงินในตลาดฟอร์เวิร์ด เพื่อเพิ่มต้นทุนของการเก็งกำไรสกุลเงิน และเพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดความผันผวนมากเกินไปในตลาดเงิน ส่วนปัจจัยภายในประเทศวานนี้รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจได้มอบนโยบายเร่งรัดผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดยขอให้เร่งจัดลำดับความสำคัญในการพัฒนาแต่ละโครงการให้มีความชัดเจน เพื่อสร้างความ สามารถในการแข่งขันของประเทศ พัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และเอื้อต่อการท่องเที่ยว ทั้งนี้จะต้องพัฒนาให้เกิดการเชื่อมโยงกันในระบบการขนส่งภาคอุตฯ ภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน
โดยเชื่อมโยงตะวันออก-ตก เช่น การเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งกับทวาย-กทม.-มาบตาพุด เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงไปยังประเทศภูมิภาคอาเซียน โดยมีไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อไปถึงอินเดีย-พม่า เวียดนามและจีน เพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียน รองนายกฯ กล่าวว่าโครงการที่จะต้องดำเนินการเร่งด่วนคือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ปัจจุบันมีความก้าวหน้าประมาณ 63% ซึ่งโครงการนี้เราคาดว่าน่าจะหนุนให้ BMCL มีการขนคนได้มากขึ้น และถึงจุดคุ้มทุนได้เร็วขึ้น ซึ่งน่าจะหนุนให้ CK มีผลประกอบการที่ดีด้วย พร้อมทั้งเร่งให้ดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ในการพัฒนาให้ครบเส้นทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ-พญาไท-สนามบินดอนเมือง คาดว่าจะหนุนให้ทั้ง ITD และ STEC ได้งานมากขึ้นเช่นกัน ทางด้านรมว. คมนาคมกล่าวว่า หลังได้รับมอบนโนบายจะเร่งรัดให้ความสำคัญกับ โครงการรถไฟเชื่อมโยงกาญจนบุรี-กทม.-แหลมฉบัง ส่วนโครงการรถไฟไทย-จีน ล่าสุดได้กำหนดแนวเส้นทางตรงกันทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว เหลือเพียงประเด็นแหล่งเงินที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้าย รูปแบบการลงทุน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่จีนเสนอให้ไทยนั้นยังต่ำไม่พอ
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ต่ำกว่าระดับ 1,360 จุด แนะนำเก็งกำไรได้
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (0) 2682 9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]