- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 September 2015 15:50
- Hits: 2001
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET กำลังจะแกว่งบวกต่อ ดังนั้นซื้อลบแล้วเน้นถือไว้ก่อน!
กลยุทธ์ : หลังจาก SET แกว่งตัวในกรอบมากว่าสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยลบจากต่างประเทศเริ่มผ่อนคลายลงได้บ้างแล้ว รวมทั้งในบ้านเรายังมีเรื่องการเร่งดำเนินการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาช่วยหนุนอีก ทำให้ FSS คาดว่า SET จะสามารถขยับบวกต่อได้ตามคาด ดังนั้นหลังจากเราแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบไปแล้ว ถัดจากนี้แนะนำให้เน้นถือเพื่อรอจังหวะแกว่งบวกต่อได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : KCE, TTA, MONO(buy back)
แนวโน้ม : SET พลิกกลับมาดีดตัวขึ้นได้ดีในภาคบ่ายวานนี้ หลังจากช่วงเช้าดัชนีหุ้นไทยยังปรับตัวลงไปก่อน เนื่องจากตลาดหุ้นจีนไหลลงลบกว่า 1% แต่ในภาคบ่ายหลังจากตลาดหุ้นจีนเริ่มฟื้นตัวกลับมาเคลื่อนไหวเป็นบวกได้ จากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปฏิรูปการคลังของจีน โดยนักลงทุนมีมุมมองว่าทางการจีนจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นในประเทศ ซึ่งก็ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเริ่มดูดีขึ้นตาม จนทำให้ SET สามารถพลิกกลับมาขยับบวกและปิดเป็นบวกได้ด้วยเช่นกัน ขณะที่เช้านี้ยังได้รับแรงหนุนจากการปิดบวกได้ค่อนข้างดีมากของทั้งตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสจากยูโรโซน รวมทั้งมีคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะยังไม่ขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ (16-17 ก.ย.) ส่งผลให้เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่สามารถเปิดเป็นบวกได้ค่อนข้างแรงพอควร ทำให้ FSS คาดว่า SET มีแนวโน้มที่จะยังอยู่ในช่วงบวกกลับต่อเนื่องได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเราคาดว่าดัชนียังมีโอกาสที่จะขยับขึ้นไปเคลื่อนไหวสูงกว่า 1400 จุดได้ในเร็วๆ นี้อยู่เช่นเดิม
แนวรับ 1376-1374 , 1370-1365 จุด
แนวต้าน 1382-1386 , 1388-1400 จุด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคและทุกประเทศรวม US$435ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$238.4 ล้าน ไต้หวัน US$97.2 ล้าน และกลุ่ม TIP ที่ไหลออกในปริมาณหนาแน่นขึ้นรวม US$99 ล้านและเป็นการไหลออกจากอินโดนีเซียมากขึ้น แนวโน้มกระแสเงินทุนยังมีทิศทางไหลออกแต่อาจชะลอลงหลังจากมีการคาดการณ์ว่าทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมและปฏิรูปตลาดหุ้นจีนเพื่อลดความผันผวนจากการลงทุนในเร็วๆนี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ทั่วโลกคาดหวังจีนออกมาตรการเพิ่มเติม มีกระแสข่าวว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และก.ล.ต.ของจีน (CSRC) เตรียมปฏิรูปกม. ยกระดับการดูแลตลาดฯ โดยอาจใช้ระบบ Circuit breaker ป้องกันไม่ให้เกิดความผันผวนผิดปกติ และกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน ข่าวนี้หนุนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับขึ้นทุกตลาด โดยเฉพาะเอเชียเหนือคือเกาหลีและไต้หวันซึ่งเป็นตลาดที่กระแสเงินจากต่างชาติไหลเข้ามากที่สุดในช่วงครึ่งปีแรก ก่อนจะกลับมาขายหนักสุดในช่วง 2 เดือนนี้
(-) ยังต้องระวัง Commodity ตัวเลขนำเข้าของจีนเดือน ส.ค. หดตัวแรง 13.8% Y-Y ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินค้า Commodity ที่จีนบริโภคมากเช่น น้ำมัน สินแร่เหล็ก ถั่วเหลือง ถ่านหิน เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเหตุชั่วคราวเพราะมีเหตุระเบิดที่ท่าเรือเทียนจินและการหยุดโรงงานชั่วคราวก่อนการฉลอง 70 ปีสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เชื่อว่าการอ่อนค่าของเงินหยวนก็ส่งผลให้กำลังซื้อของจีนลดลงในระดับหนึ่ง
(+) มาตรการช่วยเหลือ SME ที่ครม.อนุมัติวานนี้ประกอบด้วย 1. การปล่อยกู้วงเงิน 1 แสนล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ 4% ปลอดดอกเบี้ย 2 ปี ผ่านธอส. 2. ลดหย่อนภาษีให้ SME ที่มีกำไร 3 ล้านบาทแรก เหลือ 10% ใน 3 ปีบัญชี และ 3. ตั้งกองทุนวงเงิน 6 พันล้านบาท (ธอส., KTB, SME Bank ธนาคารละไม่เกิน 2 พันล้านบาท) ร่วมลงทุนใน SME เน้นรายใหม่ (Venture capital) 4. SME ที่ประกอบกิจการตั้งแต่ 1 ต.ค. 15 - 31 ธ.ค. 16 ได้รับยกเว้นภาษี 5 รอบบัญชี
(+) ช่วย SME...ช่วยธนาคาร มาตรการดังกล่าวเน้นเสริมสภาพคล่องให้ SME ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดหนี้เสียในระบบมากที่สุด มาตรการนี้จึงดีต่อคุณภาพหนี้ของธนาคารโดยเฉพาะธนาคารที่มีสัดส่วนสินเชื่อ SME มากคือ KBANK (~37% ของพอร์ต) TMB (36%) และ BBL (30%) นอกเหนือจากจะทำให้สินเชื่อทั้งระบบโตอีก 1% หุ้นกลุ่มธนาคารน่าสนใจทยอยซื้อสะสมแล้ว ข่าวร้ายในระยะสั้นมีเพียงผลกำไร 3Q15 ที่ยังลดลงและอาจเป็นเป้าในการขายของต่างชาติ Top Pick ของเราเป็น KBANK (ราคาเป้าหมาย 219 บาท) และ TISCO (เป้าหมาย 56 บาท)
(+) กลุ่มรับเหมา ค้าปลีก อสังหาฯ ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและปลอดแรงขายของต่างชาติ ต่างชาติที่ขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลาง มิ.ย. ทำให้กลุ่มพลังงานและแบงก์เป็น 2 กลุ่มหลักที่กดดัน SET Index แม้ว่า Valuations ของหุ้นในกลุ่มแบงก์หลายตัว “ถูก” จนน่าสนใจลงทุน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนซื้อ ส่วนกลุ่มที่ perform ได้ดีโดยเฉพาะตั้งแต่มีครม.ชุดใหม่ ได้แก่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและการบริโภค หุ้นที่ยังน่าสนใจได้แก่ CK (ราคาเป้าหมาย 33 บาท) SCC (เป้าหมาย 582 บาท) GLOBAL (เป้าหมาย 11.30 บาท) ROBINS (เป้าหมาย 51 บาท) KAMART (เป้าหมาย 9 บาท) KTC (เป้าหมาย 116 บาท) MTLS (เป้าหมาย 25 บาท) QH (เป้าหมาย 4 บาท) PS (เป้าหมาย 36 บาท)
(+) บาทอ่อนหนุนกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ กลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ปรับขึ้น Outperform มากที่สุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่า หุ้นในกลุ่มที่ยังมี upside ให้เก็งกำไรต่อได้คือ KCE (ราคาเป้าหมาย 57 บาท) และ SVI (เป้าหมาย 5.20 บาท)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพุ่งขึ้นเฉลี่ย 2.5% หลังจากปรับตัวลงแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกมากขึ้น
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% ได้เช่นกันโดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจในยุโรปที่แข็งแกร่ง
(+) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ค่อนข้างแรงเช่นกันจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสจากตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นๆ
(+) ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นได้อีกครั้งหลังจากอ่อนตัวหลุดระดับ 36 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.90-36.04 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดที่ 45.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน แต่อย่างไรก็ตามระยะยาวยังถูกกดดันจากภาวะ Oversupply
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,121.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับลง 0.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูผลการประชุม FED ในสัปดาห์หน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10 ก.ย. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.), ยอดสินเชื่อใหม่ (ส.ค.)
11 ก.ย. - เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
13 ก.ย. - จีน: Industrial Production, Retail sales (ส.ค.)
14 ก.ย. - ยูโรโซน: Industrial Production (ก.ค.)
15 ก.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สหรัฐ: Retail sales (ส.ค.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ก.ย.)
16-17 ก.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
16 ก.ย. - ไทย: กนง.ประชุม
- ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการ
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
17 ก.ย. - ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการ
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ส.ค.)
20 ก.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (ส.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research