- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 27 June 2014 17:54
- Hits: 2696
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เลือกซื้อเก็งกำไร
SET ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคและดาวน์โจนส์ โดยดีดตัวขึ้น +8.99 จุด (+0.61%) ปิดที่ 1477.48 จุด SETHD ขึ้นนำตลาด (+0.76%) สินค้าโภคภัณฑ์เริ่มทรงตัวเช่นเบรนท์ที่ US$113.95/bbl เช่นเดียวกับเงินบาทที่ 32.46/US$ เพียง 4 กลุ่มปรับตัวลงเช่น อิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง เกษตร และยานยนต์ และขึ้นนำตลาดโดยกลุ่มเล็กเช่น PROF (+2.2%), ท่องเที่ยว (+1.7%) และกลุ่มใหญ่เช่นพลังงาน (+1.6%) และสื่อสาร (+1.6%) มูลค่าการซื้อขายทรงตัวขึ้นที่ 37,917 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องแต่ลดลงเหลือ 49 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
นายกฯญี่ปุ่นเผยมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจธนูดอกที่ 3 ประกอบด้วยการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ต่ำกว่า 30% ในช่วงหลายปีข้างหน้าและจะปฏิรูปกองทุนลงทุนเงินบำนาญของรัฐบาลจำนวน US$1.26 ล้านล้าน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีการจัด สรรเงินไปยังตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น
ก.พาณิชย์มั่นใจการค้าไทย-อียู-สหรัฐฯ ไม่กระทบจากเหตุที่สหภาพยุโรปประกาศลดความร่วมมือกับไทย มองว่าจะมีผลในระยะสั้นคือชะลอการเดินทางมาเยือนไทย แต่การค้าจะไม่มีผลกระทบ เพราะไม่ใช่การคว่ำบาตร ขณะที่สหรัฐฯจัดอัน ดับการค้ามนุษย์ให้ไทยอยู่ในระดับ Tier 3 หรือ เลวร้ายสุดเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบเช่นกัน เพราะทางคู่ค้าในสหรัฐฯได้ประกาศชัดเจนว่าจะมีการนำเข้าสินค้าจากไทยตามปกติ ส่วนภาคเอกชนไทยยืนยันว่ายังทำการค้าต่อกันตามปกติ และได้ปรับคาดการณ์การส่งออกของไทยในปี 57 จะขยายตัว 3.5% บนสมมติฐานอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ 3.6%-3.7% อิงจาก IMF ราคาสินค้าวัตถุดิบอุตสาหกรรมโลกลดลง 2.5% และอัตราแลกเปลี่ยนที่ 31.5 บาท/US$
เดือนพ.ค. ไทยมีมูลค่าส่งออก US$19,401 ล้านลดลง -2.14%YoY นำเข้าที่ US$20,210 ล้านลดลง -9.32%YoY ส่งผลให้ขาดดุลค้า US$808 ล้าน ส่งออกชะลอตัวต่อเนื่อง 3 เดือนจากปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นแต่ราคาเกษตรในตลาดโลกตกต่ำเช่นยางพารา น้ำตาล อาหารทะเล มันสำปะหลัง ในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค. 57) ส่งออกลดลง -1.22%YoY มีมูลค่าUS$92,862 ล้าน นำเข้าลดลง -14% อยู่ที่ US$94,418 ล้าน ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุลรวม US$1,556 ล้าน
เราประเมินว่า ตลาดเข้าสู่การกลับมาของแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรอีกครั้งจากกองทุนซื้อสุทธิวานนี้ 3,074 ล้านบาทเฉพาะเดือนมิ.ย. ซื้อสุทธิ 6,190 ล้านบาท และต้นปี-ปัจจุบันซื้อสุทธิ 41,285 ล้านบาท กอปรกับหุ้นพื้นฐานใหญ่ที่ได้ปรับลดลงมาก เช่นสื่อสาร พลังงาน และหุ้นพื้นฐานใหญ่บางตัว คาดจะยังมีแรงผลักขึ้นจากการปิดงวดบัญชีสิ้นงวด (Window Dressing) วันนี้ เราแนะนำเลือกซื้อหุ้นเก็งกำไร
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ถือครองพอร์ตลงทุนในหุ้น 70%
น้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือครองหุ้น 70% และเงินสด 30%
Accumulate : -- สะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไร
เปรียบเทียบดัชนีกับ SET
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 70% ถือเงินสด 30%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (70%) = +9.9%
ผลตอบแทนถือเงินสด (30%) = +0.6%
ผลตอบแทนตลาด SET = +9.1%
พอร์ตจำลองสุทธิ > SET
หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130