- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 September 2015 17:13
- Hits: 4888
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ลุ้นโหวต รับ รธน.ดันหุ้นไทยขึ้นต่อ
วันนี้คาดดัชนีฯ ผันผวน แนวรับ 1,365 ต้าน 1,390 จุด เมื่อวาน ECB ส่งสัญญาณสยบความผันผวนของตลาดหุ้นอีกครั้ง MS คาดเล็งเพิ่มวงเงินอัดฉีดต่อเดือนขึ้นจากปัจจุบันที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน ส่วนการลงมติรับร่าง รธน. วันอาทิตย์นี้ ถ้าไม่รับคาดส่งผลลบต่อหุ้นไทยจำกัด แต่ตรงข้ามถ้าโหวตรับร่างฯ คาดหุ้นไทยขึ้นสวนหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ กลุ่มรับเหมาฯ ค้าปลีก และหุ้นเล็ก-เก็งกำไรตามข่าวบวกรายตัว Outperform ตลาดตามคาด และแนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดหุ้น เล็ก-เก็งกำไร ตามข่าวบวกรายตัว ขึ้นดีกว่าตลาดต่อ
ระยะเดือน (กย.) แนวรับ (Stop loss) 1,340/1,350 จุด แนวต้านบริเวณ 1,400 จุด หลังจากหุ้นไทยลงตามคาดเมื่อเดือน สค. และแนะแบ่งพอร์ตเริ่มซื้อคืน 20/30% (แนะมาตั้งแต่ ปลาย สค.) เน้น แบงก์, ค้าปลีก, รับเหมา, โรงแรม และหุ้นที่ลงแรงก่อนหน้านี้ ใครที่ซื้อตามแล้วถือลุ้นแล้วรอซื้อเพิ่ม หรือ แบ่งขายเล่นสั้น แล้วรอซื้อเล่นใหม่
หุ้นแนะนำ PYLON คาดจะประกาศงานเสาเข็มเจาะจาก ลูกค้าเอกชนเพิ่มเร็วๆนี้มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท, SAMART มีโอกาสสูงได้งานนำสายไฟลงดินจาก กฟน., JAS คาดเปิดตัวพันธมิตรร่วมประมูล 4G เซอร์ไพร์สตลาด
+ CBG IFEC JASIF KTC PTG TASCO TRUEIF U BH เข้าคำนวณ FTSE mid cap มีผล 18 กย.นี้
BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(+) SAMART (TP 33 บาท คงคำแนะนำซื้อ) งานเข้าบริษัท SAMTEL TEDA OTO เพียบชดเชยแนวโน้มกำไรที่ชะลอลงของ SIM ได้สบาย: เราคงคาดกำไร SAMART จะโตขึ้นก้าวกระโดดตั้งแต่ 3Q15 นี้ และดีขึ้นอีกใน 4Q15 จากการรับรู้งานในมือจาก SAMTEL คาดเซ็นงานกรมตำรวจเฟส 1 มูลค่า 3.3 ล้านบาทและประกาศงานภายในเดือนนี้ อย่างช้าเดือนหน้า และงานกรมที่ดินคาดประกาศภายใน 2 อาทิตย์ รวมๆงานในมือ 3Q15 นี้จะพุ่งขึ้นเป็น 1.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% q-q ส่วน OTO งาน กฟน.และ การรถไฟฯ เข้าใน 3Q15 อีกรวม 322 ล้าน และงาน TEDA (บริษัทฯทำด้านสายส่งและงานไฟฟ้า) คาดเข้าอีกในครึ่งหลังราว 1.2-3 พันล้านบาท หนุนงานเพิ่มไม่น้อยกว่า 18% ในปีนี้ และยังมีลุ้นงานใหญ่ 1.43 แสนล้านบาท ในการนำสายไฟลงใต้ดินอีก เราคงคำแนะนำซื้อ มองโมเมนตั้มของกำไรทีดีขึ้นจะหนุนราคาหุ้นให้ขึ้นต่อเนื่อง (คาด Bottom out)
(+) MAJOR (TP 36 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ) คาดแนวโน้มกำไร 3Q15 ที่ 320 ล้านบาท +9% y-y และ 35% q-q ไม่แย่อย่างที่ตลาดวิตก ขณะที่หนังทำเงินเกิน 100 ล้านบาทในช่วง 2 เดือน ที่ผ่านมาได้แก่ MISSION Impossible 5 (Bt137m) Minions (Bt116m in total), Ant-Man (Bt114m) and Terminator Genisys (Bt102m). และ ปลาย 3Q15-4Q15 เราคาดหนังใหม่ทำรายได้สูงที่จะทยอยเข้าฉายหนุนกำไรให้ดีขึ้นต่อเนื่อง หนังฟอร์มดีที่เข้าคิวรอฉายทำเงิน ได้แก่ ฟรีแลนซ์ แม่เบี้ย MAZE Runner 2 และ 4Q15 ได้แก่ Bond 24: Spectre, Star Wars 7, Hunger Games: Mockingjay 2 ฯลฯ
หุ้นมีข่าว
(+) CFRESH พบผู้บริหารเมื่อวานนี้ ประเด็นบวก เหนือความคาดหมายของเราและตลาด คือ โอกาสกลับมาจ่ายเงินปันผลด้วย Payout ratio เท่ากับภาวะปกติ หลังผ่านวิกฤตโรค EMS กุ้ง โดยเรามีแนวโน้มปรับปันผลขึ้นเป็นราว 0.65-0.70 บาท เทียบราคาตลาด 7.9 บาท จะให้อัตราผลตอบแทนมากกว่า 8% ส่วนกำไรหลัก 2H15 คาดว่าจะดีกว่า 1H15 เพราะค่าเงินบาทที่ทรงตัวในระดับอ่อนค่าเทียบกับต้นปี หนุนให้ยอดขายและ อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น (Upside risk มีโอกาสดีกว่าที่เรา และ ตลาดคาด)
(+) หุ้นเข้าคำนวณใน FTSE (Mid cap) รอบใหม่ มีผล 18 กย.นี้ หุ้นเข้า ได้แก่ CBG IFEC JASIF KTC PTG TASCO TRUEIF U BH (ที่มา ASPEN)
(+) IFEC บุ๊คขายไฟปีนี้ 60MW ดันกำไรปีนี้พุ่ง 376 ล้านบาท (ที่มาข่าวหุ้น)
(+) TSR กำไรดีตามเป้า คาดรายได้โต 30% เตรียมเพิ่มไลนสินค้าเครื่องทำน้ำอุ่น และเจรจาขยายตลาดไปเวียดนามปีหน้า (ที่มาข่าวหุ้น)
(+) SF เล็งขายที่ดินบางใหญ่ 50 ไร่ หวังบุ๊คกำไรหลังหักภาษีและต้นทุนแล้ว ราว 300 ล้านบาท (เพราะถือหุ้นคนละครึ่งกับ IKEA) ที่มาข่าวหุ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) SET รายงานวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative) คาดภายใน 2 สัปดาห์-เดือนนี้ ดัชนีฯหุ้นไทยจะลงทดสอบ 1,230-1,210 จุด โดยมองแนวโน้มยังไม่สิ้นสุดขาลง อิงจากค่าความผันผวนหุ้นไทยที่ขึ้นแตะระดับใกล้เคียงกับช่วงกลางปี 2013 ที่หุ้นไทยตกจากกลางปีลงมาเกือบ 400 จุด (จาก 1,650-1,270 จุด)
(+) ครม.ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 1.3 แสนลบ. เน้นช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย คาดเงินเข้าสู่ระบบภายในปีนี้ // ประกอบด้วย 2 ส่วน เพื่อการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้ต่ำ เกษตรกร และอีกส่วนคือการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนทางเศรษฐกิจ คาดมาตรการดังกล่าว จะช่วยหมุนเวียนทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้น แต่ไม่ใช่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเท่านั้น ซึ่งหลังจากออกมาตรการนี้ไปแล้ว ซึ่งถือเป็นมาตรการเฟสแรก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ที่มีรายได้น้อย โดยหลังจากนี้ 1-2 สัปดาห์จะเริ่มเข็นมาตรการเฟส 2 คือ มาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี เพื่อก่อให้เกิดการลงทุน เข้าครม. ต่อไป โดยมาตรการดังกล่าวจะต้องจบภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยได้มีการหารือร่วมกันในเบื้องต้นแล้ว กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางเบื้องต้นในการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่มีปัญหา และจะทำควบคู่ไปกับมาตรการที่ 3 คือ เรื่องของการส่งออก ซึ่งจะมีการเดินสายโรดโชว์เพื่อดึงความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ
(-) ภาคการผลิตโลกยังชะลอ จีนรายงาน PMI ภาคการผลิต official สค.49.7 ตามคาดที่ 49.7 ชะลอลงจาก 50 จุด เมื่อเดือนก่อน ส่วนภาคบริการ 53.4 ลงจาก 53.9 จุด / US ISM (สค.) การผลิต 51.1 แย่กว่าคาดมาก คาด 52.8 จาก 52.7
(+) ศุกร์ US Nonfarm payrolls (สค.) คาด +2.18 แสน จาก 2.15 แสน, อัตราว่างงาน (สค.) คาด 5.3% คงที่, ฟิลิปปินส์ เงินเฟ้อ คาด +0.9% จาก +0.8% และส่งออกมาเลเซีย กค.คาด +3.5% จาก 5% y-y
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน