- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 September 2015 15:36
- Hits: 1707
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET พักตัวเล็กน้อย แต่ยังไม่
SET View
แนวโน้ม วันนี้ มอง SET พักตัวเล็กน้อย หลังจากวานนี้ ขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1385 จุด รวมถึง มีหลายปัจจัยที่ต้องติดตามช่วงสุดสัปดาห์นี้ทั้งดัชนีตลาดแรงงานของสหรัฐฯและการโหวตของ สปช. ทำให้นักลงทุนอาจเลือก wait and see แต่การเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ทำให้ SET ยังมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นต่อในสัปดาห์หน้า ส่วนประเด็นผลการประชุม ECB เราประเมินอาจไม่มีผลบวกต่อ SET มากนัก เพราะตั้งแต่ ECB เริ่มใช้ QE เมื่อมี.ค.58 กระแสเงินทุนต่างชาติกลับไหลออกจาก SET อย่างต่อเนื่อง
ประเด็นข่าว / ดัชนีเศรษฐกิจ
• ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วานนี้ ออกมาในโทนที่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นโลก กล่าวคือ ECB มองการเติบโตของกลุ่มยูโรโซนยังมีความเสี่ยงขาลง และได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ลง (ปีนี้จากเดิม +1.5% เหลือ +1.4%, ปีหน้าจาก +1.9% เหลือ +1.7%) และตัดสินใจเพิ่มเพดานการถือครองพันธบัตรรุ่นหนึ่งๆจาก 25% เป็น 33% ทำให้มีโอกาสขยายมาตรการ QE ที่ใช้อยู่ โดยอาจเพิ่มวงเงินซื้อสินทรัพย์ในแต่ละเดือน หรือขยายเวลาให้นานกว่ากำหนดการเดิมคือ ก.ย.59 ถือเป็นการยืนยันว่า แม้ Fed เตรียมขึ้นดอกเบี้ยแต่ ECB ยังพร้อมอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบอยู่
• คืนนี้ ติดตามการรายงานดัชนีตลาดแรงงานที่สำคัญของสหรัฐฯเดือน ส.ค. ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.17 แสนตำแหน่ง) และอัตราว่างงาน (ตลาดคาดลดลงจาก 5.3% เหลือ 5.2%) หากการจ้างงานออกมาแย่กว่าตลาดคาดมาก คือ ต่ำกว่า 2 แสนตำแหน่ง จะเป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้น
• นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่กว่า 48% จาก Bloomberg survey ประจำเดือน ก.ย. เชื่อว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนนี้ แต่สัดส่วนลดลงจาก 77% ในเดือนก่อน ขณะที่จำนวนนักเศรษฐศาสตร์ที่มองว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 11% เป็น 24% สะท้อนว่า เริ่มมีความเชื่อว่า Fed อาจยอมเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยออกไป
กลยุทธ์การลงทุน : Wait and see หรือรอซื้อบริเวณแนวรับ 1375 จุด
Top Daily Pick : KBANK (มูลค่าเหมาะสม 179 บาท) ถูกซื้อผ่าน NVDR มากสุดในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา, ราคาหุ้นตอบสนองข่าวบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยกว่ากลุ่มอื่นและ ADVANC (มูลค่าเหมาะสม 288 บาท) การประมูล 4G มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ, ประเด็นบวกเชิง Sentiment จากการเปิดตัว iPhone 6s ในสัปดาห์หน้า
Technical Pick : IFEC STEC WHA UWC ADVANC (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)
Theme Plays : หุ้นที่ได้รับผลบวกจากนโยบายกองทุนหมู่บ้าน (GL, GCAP, TK, THANI, S11, GLOBAL, MC, DRT, DCC)/ การเปิดตัว iPhone6s มีผลบวกเชิง Sentiment ต่อผู้ขายโทรศัพท์มือถือ (COM7, SPVI, JMART, IT, ADVANC, DTAC, TRUE)
Strategy Talk
เลือกตั้งครั้งใหม่เมื่อใด? การลงมติของ สปช.เป็นตัวกำหนด
วันอาทิตย์ที่ 6 ก.ย.นี้ ถือเป็นวันที่มีความสำคัญต่อการเมืองของไทย เพราะสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีกำหนดลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ที่จัดทำโดยคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.)
การลงมติครั้งนี้ จะเป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผย ไม่มีการอภิปรายเพิ่มเติม และจะนับคะแนนพร้อมประกาศผลทันทีภายในเวลา 1 ชั่วโมง และเพื่อที่จะผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบอย่างน้อยเกินกึ่งหนึ่ง คือ 124 เสียงจากจำนวน สปช.ทั้งหมด 247 เสียง
ผลลัพธ์จากการลงมติครั้งนี้มี 2 แนวทาง ได้แก่
กรณี “Vote Yes” สปช.มีมติเห็นชอบ ลำดับต่อไปจะเข้าสู่กระบวนการจัดทำประชามติ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องดำเนินการจัดพิมพ์และส่งร่างรัฐธรรมนูญให้แก่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงก่อน เพื่อทำความเข้าใจ จากนั้น จึงกำหนดวันทำประชามติ ซึ่งล่าสุด คาดว่า จะอยู่ในช่วงกลางเดือน ม.ค.59
กรณี “Vote No” สปช.มีมติไม่ให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะมีผลทำให้ กมธ.ชุดนี้ เป็นอันสิ้นสุดลงด้วย และ คสช.ต้องทำการแต่งตั้ง กมธ.ชุดใหม่ภายใน 30 วัน โดย กมธ.ชุดใหม่ มีเวลา 180 วันหรือ 6 เดือน ในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา แล้วกลับมาสู่ขั้นตอนเดิม คือ ส่งให้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (เข้ามาทำหน้าที่แทน สปช.ที่สิ้นสุดลงไปเช่นกัน) พิจารณาอีกครั้ง หรืออีกนัยหนึ่ง การเลือกตั้งครั้งใหม่จะต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างน้อย 7 เดือน
ในกรณีดีสุด คือ ทั้งสปช. และประชามติ โหวตรับร่างฯฉบับนี้ คาดว่า การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่จะเกิดขึ้นในช่วง ต.ค.-พ.ย.59 ด้านผลกระทบต่อตลาดหุ้น เรามองว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่ เป็นสิ่งที่นักลงทุนต่างชาติจับตามอง หากเกิดขึ้นได้เร็ว อาจเป็นปัจจัยเร่งให้นักลงทุนต่างชาติมีความมั่นใจต่อสถานการณ์การเมืองมากขึ้น และมีโอกาสที่กระแสเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาในปีหน้า หลังจากเทขายสุทธิหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบันแล้วกว่า 3.17 แสนล้านบาท กดดันให้ SET ลงมาซื้อขายบริเวณ P/E 15 เท่า เทียบกับช่วงที่มีกระแสเงินทุนไหลเข้า SET ขึ้นไปเทรด P/E สูงถึง 19 เท่า ช่วงกลางปี 2556
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.38
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.74
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.78
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.54
หุ้นในพอร์ตที่จะมีการจ่ายปันผล ได้แก่
SCB 04/09/2015 1.50 Baht per share
BBL 08/09/2015 2.00 Baht per share
PTT 10/09/2015 6.00 Baht per share