- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 September 2015 17:24
- Hits: 1369
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Domestic Play
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับฐานลงแรง หลัง DJIA Futures ปรับตัวลงกว่า 300 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนลดลงต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับฐานลงสู่แนว US$47 ทำให้กลุ่มพลังงานได้รับแรงกดดัน และเกิดแรงขาย เพื่อปิดความเสี่ยงที่มากขึ้นในช่วงปิด ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,362.39 จุด ลบ 20.02 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 42,9118 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติน่าสนใจต่อเนื่อง เพราะคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 878 ล้านบาท Long สุทธิ SET50 Index Futures เป็นวันที่ 6 เร่งขึ้นเป็น 3,188 สัญญา แม้ว่าจะคงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 9 เล็กน้อย 770 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ความคืบหน้าเชิงบวกต่อการจับกุมผู้ต้องสงสัย คดีการวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เชื่อว่าจะเรียกความเชื่อมั่นภาคการท่องเที่ยว
แผนการเรียกความเชื่อมั่นของรมว.คลัง 3 มาตรการที่ได้รับการอนุมัติ คาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นจากนักลงทุนดีขึ้น
ติดตามการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติอย่างใกล้ชิด หลังนักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิตลาด Spot และ Long สุทธิต่อเนื่อง SET50 Index Futures
วันนี้ติดตามรายงาน Beige Book ของเฟด
มุมมองต่อตลาด
มุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในวันนี้ เราคงมุมมอง "กลางถึงบวก" เป็นวันที่ 2 แม้ว่า SET INDEX จะปรับฐานลงสู่แนว 1,360 - 1,365 จุด ตามที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ SET INDEX จะยังต้องสร้างฐานให้เกิดความแข็งแกร่งบริเวณ 1,350-1,360 จุด สักพัก เรายังเชื่อว่า Downside risk ของ SET INDEX จะเป็นไปอย่างจำกัด แนวดังกล่าวจะยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มทรงตัวดีขึ้น ทำให้แรงกดดันต่อกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี คลายตัวลง เมื่อเทียบกับช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า
ขณะที่ปัจจัยเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐานการลงทุนในตลาดหุ้นไทยคือ มาตรการเรียกความเชื่อมั่นจากทีมเศรษฐกิจ วานนี้ ครม.ได้อนุมัติแผนอัดฉีดเงินเข้าสู่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ทั้งผ่านกองทุนหมู่บ้าน เงินอัดฉีดสู่ 1 ตำบล 5 ล้านบาท และการกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ SMEs เพื่อคาดหวังให้การใช้จ่ายของกลุ่มเป้าหมายนี้ฟื้นตัวดีขึ้น และท้ายที่สุดระบบการหมุนเวียนของเศรษฐกิจจะได้กลับมาเดินหน้า
ส่วนการลงทุนขนาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคม / กพช. เราเชื่อว่า หน่วยงานที่ได้รับการอนุมัติจากครม.แล้วจะเร่งขั้นตอนการประมูลโครงการต่างๆ ตามมาตั้งแต่เดือนนี้ โครงการรถไฟรางคู่ที่ประกาศร่าง TOR ไปก่อนหน้านี้ การเปิดกรอบการยื่นเสนอขายโครงการพลังงานโซล่าร์ของหน่วยราชการ และ สหกรณ์ 800 เมกกะวัตต์ หากเริ่มเห็นขั้นตอนต่างๆ เป็นรูปธรรม เราเชื่อว่าความเชื่อมั่นของภาคเอกชน และนักลงทุนจะฟื้นตัวเป็นลำดับ
แน่นอนว่า เรายังให้น้ำหนักกับการลงทุนของต่างชาติผ่านตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด หลังมีจุดเปลี่ยนจากทีมเศรษฐกิจ / แนวทางการเรียกความเชื่อมั่น / ภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะผ่านจุดต่ำสุด แต่ยังไม่ชัดในแง่ของการฟื้นตัว ทำให้แรงขายจากต่างชาติชะลอตัวต่อเนื่อง แต่น่าจะจุด turning point ของการกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้เช่นกัน ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อภาพรวมการลงทุน
สำหรับ ปัจจัยต่างประเทศ ยังมีความเปราะบาง ทั้งในส่วนของทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ว่าจะขยับขึ้นในการประชุมวันที่ 17 ก.ย.นี้หรือไม่ และความเปราะบางของเศรษฐกิจจีน ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะทำให้ตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวน แต่จะเป็นไปอย่างจำกัด จากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยเป็นตัวช่วยลดแรงกดดัน รวมถึงต่างชาติจะเป็นการ Wait&See ตลาดหุ้นไทย
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนกลับเข้าสะสมหุ้นเป้าหมายอีกครั้ง หลัง SET INDEX ปรับฐานลงสู่ 1,350-1,360 จุด โดยยังคงเน้นกลุ่ม Domestic Play เป็นสำคัญ"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Accumulative Buy: ADVANC/ ITD
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. ADVANC : ราคาปิด 235.00 บาท ราคาเหมาะสม 290.00 บาท
a) MBKET เชื่อว่าหุ้นกลุ่ม Defensive เช่น กลุ่มสื่อสาร จะ Outperform ตลาดในวันนี้ เนื่องจากเป็นที่พักเงินได้ดี ภายใต้ภาวะการลงทุนที่ผันผวนจากความกังวลต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
b) มีปัจจัยบวกรออยู่คือการประมูลใบอนุญาต 4G คลื่น 1800 MHz ในวันที่ 11 พ.ย. และคาดว่าการประมูลคลื่น 900 MHz ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำร่างโดยกสทช. จะประมูลเดือน พ.ย.เช่นเดียวกัน และเป็นบวกโดยตรงต่อ ADVANC ที่คลื่น 900 MHz บนสัมปทานเดิมจะหมดอายุลงในเดือน ก.ย.
c) ADVANC มีความพร้อมสูงสุดในการเข้าประมูลใบอนุญาต 4G จากฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่า ADVANC จะชนะการประมูลคลื่น 900MHz และ 1800 MHz อย่างละ 1 ใบ
d) คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +8.6% yoy เป็น 39,113 ล้านบาท และ +19.4% yoy เป็น 46,713 ล้านบาท ในปี 2559
e) มี Upside Risk จากการจัดตั้ง JV กับ TOT ซึ่งหากสำเร็จจะเป็นบวกอย่างมากต่อธุรกิจ Fixed Broadband ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการของเรา
2. ITD : ราคาปิด 7.50 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากมีการประมูลงานขนาดใหญ่รออยู่ในเดือน ต.ค. คือ รถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย - จีน ที่คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือน ต.ค.มูลค่างานสูงถึง 2 แสนล้านบาท
b) ITD มีความพร้อมสูงสุดในการประมูลงานก่อสร้างระบบรางรถไฟ เนื่องจากมีโรงงานทำไม้หมอนคอนกรีตรถไฟ, โรงงานปูนซีเมนต์, โรงเหล็กเส้น และสามารถทำระบบ Switching ของรถไฟได้เอง จึงมีข้อได้เปรียบมากด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันรายอื่น
c) คาดจะมีความคืบหน้าในการออกประทานบัตรโครงการเหมืองแร่โปรแตซที่ จ.อุดรธานีในช่วงปลาย 3Q58 หรือ ต้น 4Q58 และเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อหุ้น ITD
d) ราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ 8.50 บาท จึงเปรียบเสมือนกับได้มูลค่าของธุรกิจที่เหลือฟรี ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมทวายมูลค่า 1.50 บาท และเหมืองแร่โปรแตซแบบ Conservative ที่ไม่ต่ำกว่า 2.00 บาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น US$144 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$66 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 และ Long สุทธิ SET50 Index Futures เร่งขึ้นจากวันก่อนหน้า
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 878 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 1,266 ล้านบาท เทียบกับ 9 วันทำการก่อนหน้า ขายสุทธิ 34,295 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงขายสุทธิสูงเกิน 8 หมื่นล้านบาท เป็น 85,515 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 6 เร่งขึ้นเป็น 3,188 สัญญา รวม 6 วันทำการ Long สุทธิ 45,511 สัญญา น่าจะเป็นการเร่งปิดสถานะ Short หลัง SET50 Index อ่อนแอลงอีกครั้ง ขณะที่ S50U15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 11.62 จุด จากวันก่อนหน้า discount เท่ากับ 10.28 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิลดลงเหลือ 24,936 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 9 อีก 790 ล้านบาท รวม 9 วันทำการ 23,408 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาพันธบัตรไทยกลับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 0.54bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.27bps ปิดที่ 2.807%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เร่งขึ้นเป็น 1,682 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 799 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 เน้นกลุ่มธนาคารและขนส่ง
การซื้อขายผ่าน NVDR ยังคงซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 833 ล้านบาท ชะลอตัวจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,798 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ซื้อสุทธิ 3,493 ล้านบาท ทั้งนี้ กลุ่มพลังงานกลับถูกขายสุทธิเด่นสุด สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคารถูกซื้อสุทธิสูงสุด 298 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 328 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 256 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 263 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้างซื้อสุทธิ 170 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 286 ล้านบาท และกลุ่มไฟแนนซ์ ซื้อสุทธิ 104 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มปิโตรเคมี ถูกขายสุทธิสูงสุด 121 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 382 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ขายสุทธิ 71 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 444 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลางถึงลบ
ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค. เท่ากับ 53.0 จุด เท่ากับ Bloomberg consensus คาดและแต่ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 53.8 จุด โดยคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัว ทั้งนี้ภาคการส่งออกได้รับผลกระทบจากดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า
ดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนส.ค. เท่ากับ 51.1 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 52.8 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 52.7 จุด เป็นระดับเติบโตที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2556 โดยคำสั่งซื้อใหม่เท่ากับ 51.7 จุด ต่ำสุดในแง่ของการเพิ่มขึ้นรายเดือนนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2556
การใช้จ่ายภาคการก่อสร้าง เดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.7% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 0.8% mom แต่เท่ากับเดือนก่อนหน้า โดยการก่อสร้างที่อยู่อาศัยส่วนบุคคล เพิ่มขึ้นเด่น 1.3% mom
ยุโรป
อัตราการว่างงานอียูทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2555: อัตราการว่างงานของอียู เดือนก.ค. ลดลงสู่ 10.9% ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2555 และลดลงจากเดือนมิ.ย.ที่ 11.1% และ Bloomberg consensus ที่ 11.1%
จีน
ทางการจีนสั่งให้ธนาคารสำรอง Currency Forward: เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งในการดูแลเสถียรภาพของค่าเงินหยวน และทำให้เกิดต้นทุนที่สูงขึ้นสำหรับนักค้าเงินหากจะเข้าไปเก็งกำไรต่อการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เพราะธนาคารจะต้องสำรองสัญญาล่วงหน้าของอัตราแลกเปลี่ยนกรณีที่ลูกค้ามีการซื้อขายเงินต่างประเทศ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. โดยจะต้องตั้งสำรองราว 20% ของยอดขายเงินตราต่างประเทศ โดยมีอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี
ดัชนี PMI ภาคการผลิตทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี: เดือน ส.ค.อยู่ที่ 49.7 จุด เท่ากับที่ Bloomberg Consensus คาด ซึ่งเป็นการลดลงจากเดือนก่อนที่ 50.0 จุดและตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 จุดสะท้อนภาคการผลิตที่หดตัว ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวในธุรกิจขนาดเล็ก, กลางและใหญ่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 จุดทั้งหมด
เอเชียแปซิฟิก
ตัวเลขการผลิตเดือน ส.ค.ในเอเชียส่วนใหญ่ลดลง:
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่นลดลงอยู่ที่ระดับ 51.7 จุด จากเดือน ก.ค. 51.9 จุด
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของไต้หวันลดลงอยู่ที่ระดับ 46.1 จุด จากเดือน ก.ค. 47.1 จุด
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของเวียดนามลดลงอยู่ที่ระดับ 51.3 จุด จากเดือน ก.ค. 52.6 จุด
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของมาเลเซียลดลงอยู่ที่ระดับ 47.2 จุด จากเดือน ก.ค. 47.7 จุด
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 47.9 จุด จากเดือน ก.ค. 47.6 จุด
ดัชนี Nikkei PMI ภาคการผลิตของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 48.4 จุด จากเดือน มิ.ย. 47.3 จุด
ไทย
เงินเฟ้อลดลงเป็นเดือนที่ 8: ลดลง 1.19% yoy ในเดือน ส.ค. จากเดือนก่อนที่ลดลง 1.05% yoy และเป็นการลดลงมากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 1.01% yoy เป็นผลจากราคาน้ำมันและราคาแอลพีจีลดลง รวมถึงราคาอาหารที่ลดลงตามฤดูกาลที่ผลผลิตออกมาก ส่งผลให้เงินเฟ้อใน 8M58 ลดลง 0.89% yoy อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์อยู่ในระหว่างการทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อในปีนี้จากเดิมที่ 0.6-1.3% แต่พบว่าความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืดยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากราคาสินค้าทั่วไปยังเพิ่มขึ้น
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530