- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 01 September 2015 16:08
- Hits: 1726
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยกดดันยังมี คาด SET มีสิทธิย้อนลบ น่าแบ่งขายบวกด้วย!
กลยุทธ์ : เนื่องจาก SET บวกขึ้นมาแรงพอควรแล้ว ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกยังกดดันอยู่ ทำให้ตลาดมีสิทธิปรับพักตัวลงอีกครั้ง ก่อนที่จะลุ้นจังหวะกลับไปแกว่งบวกต่อได้ในช่วงถัดไป ดังนั้นยังสามารถแบ่งส่วนทำกำไรช่วงบวก เพื่อรอโอกาสซื้อกลับเมื่อตลาดปรับตัวลง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TISCO, MTLS, TUF(buy back)
แนวโน้ม : แม้ว่าเมื่อวานนี้ SET ยังดีดบวกขึ้นต่อเนื่องอีก จากความคาดหวังเชิงบวกเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ครม.ชุดใหม่ที่จะเข้าสู่ที่ประชุมในวันนี้(1 ก.ย.) แต่ในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายก็ถือว่าเริ่มมีแรงขายออกมากดดันมากขึ้น จนทำให้ดัชนีค่อนข้างแกว่งตัวผันผวนพอควร ขณะที่เช้านี้น่าจะได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดเป็นลบกว่า 100 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังตลาดหุ้นจีนวานนี้ยังปรับตัวลดลงรุนแรงพอควร แม้ว่าทางการจีนจะได้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นแล้วก็ตาม รวมทั้งผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากว่าเฟดขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือนนี้ (16-17 ก.ย.) หลังจากยังมีกระแสคาดการณ์เรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET น่าจะเริ่มบวกได้ในกรอบจำกัด และมีสิทธิที่จะแกว่งพักตัวลงไปเคลื่อนไหวเป็นลบในเร็วๆ นี้ได้ อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกจากการเร่งดำเนินการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย และการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงพุ่งสูงขึ้นอีก น่าจะพอช่วยสกัดกั้นการปรับตัวลงรุนแรงของ SET ได้บ้าง และสุดท้ายยังมีลุ้นโอกาสกลับไปแกว่งบวกต่อได้ด้วย
แนวรับ 1375-1370 , 1364-1360 จุด
แนวต้าน 1383-1388 , 1391-1395 จุด
Fund Flow วานนี้เงินทุนไหลออกจากภูมิภาคแต่ชะลอลงเหลือ US$51 ล้าน โดยไหลเข้าอินโดนีเซีย US$22 ล้าน และไทยไหลเข้าเป็นวันแรกในรอบ 2 สัปดาห์ที่ US$11 ล้านจากความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ยังไหลออกเกาหลีใต้ และไต้หวันที่ US$51 ล้านและ US$22 ล้านตามลำดับ รวมถึงเวียดนามที่ไหลออกต่อเนื่องอีก US$11 ล้านหลังประกาศลดค่าเงินดองในสัปดาห์ก่อน แนวโน้มเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหลังจีนประกาศตัวเลข PMI ที่ชะลอตัวและความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในเดือน ก.ย. นี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ดาวโจนส์ลงแต่น้ำมันบวกแรง ดาวโจนส์กลับมาปิดลบ 114.98 จุด ดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดกลับมากังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเช่นกัน ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดลบเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมัน WTI ปรับขึ้นเป็นวันที่ 3 จากแนวโน้ม Supply ที่ลดลงหลัง EIA ปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐลงเพราะวิธีคำนวณเป็นเก็บจากผู้ผลิตเอง แทนที่จะขอข้อมูลจากรัฐ ขณะที่กลุ่ม OPEC พร้อมจะเจรจามากขึ้น ทำให้มีแรงซื้อกลับ Short covering เป็นบวกกับ PTTEP, PTT, PTTGC, IRPC
(0) จับตาประชุมครม.วันนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.3 แสนล้านบาทของดร.สมคิดที่ประกอบไปด้วยการปล่อยกู้ 0% 2 ปี (54%) การจ้างงาน (32%) และการเร่งงบลงทุน (14%) ที่จะเข้าเข้าครม.วันนี้ หากไม่ล่าช้าจะกระตุ้น GDP ได้ถึง 0.9% (0.3% เฉพาะในปีนี้) และเป็นผลดีต่อกลุ่มค้าปลีกที่อ่อนไหวต่อรากหญ้าได้แก่ CPALL, BIGC, ROBINS, GLOBAL, SINGER กลุ่มลิสซิ่งที่เน้นรากหญ้าเช่น MTLS, TK, GL, THANI, ASK รวมถึงกลุ่มรับเหมาเช่น CK, STEC, ITD
(0) การเมืองเริ่มเข้มข้น “สุเทพ” นัดแถลงจุดยืนร่างรธน.วันนี้ ขณะที่สปช.จะโหวตรับหรือไม่รับร่างรธน. 6 ก.ย. หากรับร่างฯ จะนำไปสู่โรดแมพที่ 3 ของคสช.คือการจัดการเลือกตั้ง แม้จะมีขั้นตอนอีกพอสมควรเช่นการยกร่างกฏหมายลูกแต่อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นกรอบการเลือกตั้ง แต่หากสปช.ไม่รับ คณะกรรมการยกร่างและสปช.ต้องยุบ และเลือกสปช.ใหม่ทั้งหมดซึ่งอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 4 เดือน
(+) กลยุทธ์เดือน ก.ย. เดือนที่ผ่านมา เป็นเดือนที่สินทรัพย์เสี่ยงให้ผลตอบแทนแย่ที่สุดเดือนหนึ่งโดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชียและตลาดเกิดใหม่ ราคาน้ำมัน และราคา Commodity แต่คาดว่าบรรยากาศการลงทุนในเดือน ก.ย. จะผ่อนคลายลง การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed น่าจะยังไม่ใช่ในเดือนนี้ ซึ่งน่าจะทำให้ flow ต่างชาติไหลกลับเข้ามาบ้าง ส่วนจีนยังไม่น่ามีมาตรการเพิ่มเติมที่จะทำให้เงินหยวนอ่อนค่า อย่างน้อยน่าจะผ่านพ้นการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงในเดือน ก.ย. นี้ไปก่อน ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศเริ่มมีความหวังกับครม.ชุดใหม่ที่มีดร.สมคิคนำทีมเศรษฐกิจ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายใหม่ที่คาดว่าจะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะได้รับความสนใจ การลงทุนในเดือนนี้ เราจึงเลือกหุ้นที่พื้นฐานดีไม่ปเลี่ยนแต่ราคาปรับฐานลงมาแล้ว ได้แก่ CK, EA, EPG, INTUCH, MTLS
(+) CSS เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการประมูล 4G ไม่ว่าใครจะชนะการประมูลก็ตาม ต้องมีการติดตั้งเสา 4G เพิ่ม ในขณะที่ราคาหุ้น underperform ที่สุดในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ 4G เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.50 บาท
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจจีนรวมถึงท่าทีของ FED ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดค่อนมาในแดนลบเช่นกันจากความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและจับตาดูนโยบายการเงินของ FED
(-) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนลบเช่นกัน โดยตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนเดือน ส.ค. เช้านี้ออกมาต่ำกว่าคาดและต่ำกว่าระดับ 50 จุด
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกด้านข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.75-35.85 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดที่ 49.20 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 3.98 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยบวกติดต่อกัน 3 วันทำการหลังปริมาณการผลิตน้ำมันสหรัฐฯลดลง รวมถึง OPEC ที่อาจมีการปรึกษาหารือกันเรื่องราคาน้ำมันดิบที่ต่ำ
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,132.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับลง 1.50 ดอลลาร์/ออนซ์ จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหลังมีกระแสว่า FED อาจยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1 ก.ย. - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- จีน: Manufacturing and Non-manufacturing PMI (ส.ค.)
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA)ประชุม
- สหรัฐ: ISM Manufacturing (ส.ค.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Manufacturing PMI (ส.ค.)
2 ก.ย. - ออสเตรเลีย: 2Q15 GDP
- เกาหลีใต้: 2Q15 GDP
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ADP Report) (ส.ค.)
3 ก.ย. - ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปิดทำการ
- สหรัฐ: Fed Beige Book
4 ก.ย. - สหรัฐ:การจ้างงานนอกภาคเกษตร (ตลาดคาด +2.2 แสนราย ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่+2.15 แสนราย)
6 ก.ย. - ไทย:สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
7 ก.ย. - สหรัฐ: ตลาดการเงินปิดทำการ เนื่องในวัน Labor Day
8 ก.ย. - จีน:ดุลการค้า (ส.ค.)
- ญี่ปุ่น: 2Q15 GDP
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research