- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 26 June 2014 16:33
- Hits: 2698
บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปรับขึ้นต่อเนื่อง ลุ้น window dressing
Highlight
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดขึ้น ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ แม้วานนี้ประกาศจีดีพีออกมาหดตัวกว่าคาด แต่นักลงทุนพุ่งความสนใจไปยังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อจากนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ EU ประชุมสภายุโรปเพื่อเลือกประธานคนใหม่ USAการใช้จ่ายส่วนบุคคล พ.ค. คาดคงที่ +0.2%m-m รายได้ส่วนบุคคล พ.ค.คาดคงที่ +0.3%m-m Taiwan: ผลประชุมธนาคารกลาง คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.875%
-วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติขายอีก -899 ลบ. (ขายสะสม 12 วันรวม -1.28 หมื่นลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับมาซื้อ +152 ลบ. (จากขาย -793 ลบ.)
+/- การเมือง/เศรษฐกิจ คสช. เร่งทำความเข้าใจกับ EU USA จับตาการตั้งบอร์ดปตท. และการปฏิรูปพลังงาน
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับขึ้นต่อเนื่อง แนวต้าน 1475/1477 จุด โดยลุ้นมีการทำ window dressing ในช่วงท้ายสัปดาห์นี้ ขณะหุ้นรายตัวยังเก็งกำไรตามนโยบายคสช.
กลยุทธ์: เก็งกำไรแบบมีจุดขายตัดขาดทุน 3% BLA GOLD EPCO UTP BMCL (เทคนิค) ซื้อสะสม AIE GUNKUL SOLAR (กระแสพลังงานทดแทน) TASCO DCON SCP (โครงการรัฐ) AJD SAMART (ทีวีดิจิตอล)
หุ้นในกระแส:
หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 4.5%) ได้แก่ MAX AHC LIT TNH IFEC TKS UTP VIH NTV หุ้นที่ลงกว่า 2.0% ได้แก่ PCA TSF PAE HANA SUPER BJCHI KAMART SST CFRESH COLOR
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ BBL+187 KBANK+174 PTTEP+47 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ PTTGC-88 ADVANC-80 LH-58
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ PTTEP 40 ADVANC 35 PTT 35
Market Outlook
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับขึ้นแนวต้าน 1475/1477 จุด หลังราคาหุ้นตอบรับข่าวร้ายไประดับหนึ่งแล้ว ด้านปัจจัยต่างประเทศนักลงทุนให้น้ำหนักการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อจากนี้ มากกว่าจีดีพีไตรมาสแรกสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด แนะนำ เก็งกำไรแบบมีจุดตัดขาดทุนหุ้นกลาง- เล็ก โดยเน้นหุ้นที่มีปัจจัยระยะสั้นหนุน
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับขึ้นแนวต้าน 1475/1477 จุด แม้ตลาดยังมีความกังวลเรื่องการส่งออกไทย หลังถูกกดันจากทั้งสหรัฐฯ และยุโรป แต่ราคาหุ้นตอบรับข่าวร้ายไประดับหนึ่งแล้ว ส่วนข่าวบวกยังมาจากมาตรการต่างๆ ของคสช. ที่ให้ผลบวกหุ้นรายตัวที่เกี่ยวข้อง แนะเก็งกำไรต่อเนื่อง (พลังงานทดแทน โครงการโครงสร้างพื้นฐาน และทีวีดิตอล) นอกจากนี้ ยังลุ้นการทำ window dressing ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ด้านปัจจัยต่างประเทศ กลับมาเป็นบวกเล็กน้อย โดยนักลงทุนให้น้ำหนักการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อจากนี้มากกว่าจีดีพีไตรมาสแรกสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด แต่ยังจับตาความรุนแรงในอิรักอย่างใกล้ชิด
ปัจจัยในประเทศ มาตรการต่างๆ จากคสช. ยังหนุนการเก็งกำไรหุ้นรายกลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้คสช.ได้แถลงผลงานในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ประเด็นหลักที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจเช่น การจ่ายเงินจำนำข้าว การเดินหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ โดยแผนงาน 2.4 ล้านล้านที่คมนาคมเสนอ โดยเห็นชอบหลักการ หลังให้ตัดโครงการรถไฟความเร็วสูงออกไป จึงคาดว่าหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างจะได้ผลประโยชน์และมีโอกาสถูกปรับคาดการณ์กำไรขึ้น (แนะนำ TASCO DCON SCP) ส่วนกระแสเก็งกำไรหุ้นพลังงานทดแทนยังมีต่อเนื่อง ล่าสุดมีข่าวอนุมัติโซล่ารุฟท็อปเพิ่มในเดือน มิ.ย. (แนะนำ GUNKUL SOLAR) และการแจกคูปองทีวีดิจิตอลที่คาดทำประชาพิจารณ์เสร็จกลางเดือนนี้ เริ่มแจกได้เดือน ก.ย. (แนะนำ AJD SAMART)
ปัจจัยต่างประเทศ วานนี้สหรัฐฯ ประกาศจีดีพีไตรมาส 1/57 ทบทวนครั้งที่สาม ออกมาต่ำกว่าคาดมากที่หดตัว 2.9% qoq saar จากตลาดคาดที่หดตัว 1.6-1.8% และการทบทวนครั้งที่สองที่หดตัว 1.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี อย่างไรก็ดี นักลงทุนได้ให้น้ำหนักไปที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อจากนี้มากกว่า ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ที่ออกมาระยะหลัง ยังชี้ถึงการเติบโต โดยเฉพาะในภาคการจ้างงานด้านความกังวลต่อความรุนแรงในอิรัก ยังมีต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีข่าวว่า กลุ่มกบฏอิรักได้โจมตีฐานทัพอากาศขนาดใหญ่ในอิรัก และได้เข้ายึดครองแหล่งน้ำมันขนาดเล็ก 2-3 แห่งในอิรักในวันพุธ
ส่วน Events Play ที่จะมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทย ได้แก่
1. Window Dressing สถิติ 8 ปีหลังสุด (49-56) ในไตรมาส 2 ดัชนี SET ให้ผลตอบแทนเป็นบวก +1.9% ในช่วง 1 สัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นไตรมาส โดยกลุ่มที่ปรับขึ้นดี ได้แก่ กลุ่มธนาคาร (BBL KBANK BAY KTB SCB) กลุ่มสื่อสาร (JMART INTUCH ADVANC SIM THCOM) วัสุก่อสร้าง (RCI GEL TCMC SCCC SCC) และอิเล็กทรอนิกส์ (TEAM DRACO DELTA EIC CCET)
2. หุ้นเกาะกระแสฟุตบอลโลก ระหว่าง 12 มิย.-13 ก.ค. (เราพบว่าผลกระทบต่อราคาหุ้นกลุ่ม ICT (ADVANC TRUE) กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค (CPALL MINT CENTEL) จะมีเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่างการถ่ายทอดฟุตบอลโลก
กลยุทธ์ เก็งกำไรแบบมีจุดขายตัดขาดทุน 3% BLA GOLD EPCO UTP BMCL (เทคนิค) ซื้อสะสม AIE GUNKUL SOLAR (กระแสพลังงานทดแทน) TASCO DCON SCP (โครงการรัฐ) AJD SAMART (ทีวีดิจิตอล) ถือหุ้นพื้นฐานดีที่แนะนำก่อนหน้า PTTEP ADVANC INTUCH IVL SCB KBANK MINT CENTEL
เทคนิค : แกว่งในกรอบ แนะนำพิจารณาขายเล่นรอบปลายสัปดาห์นี้
คาดดัชนีฯ ผันผวนสูง แนวต้านสำคัญ 1480 จุด (แนวต้านเดิม) และ 1497 จุด (Fibonanci) ส่วนแนวรับอยู่ที่และ 1450 จุด (SMA25วัน) โดยมีสัญญาณเตือนการปรับฐานรอบสั้นๆ อิง Stochastic, RSI ที่เริ่มเกิดสัญญาณ Overbought และอาจเปลี่ยนเป็น Sell Signal ดังนั้น นักลงทุนที่เน้นเล่นรอบ อาจพิจารณาขายลดพอร์ตในช่วงปลายสัปดาห์นี้ออกไปก่อน เพื่อรอซื้อคืนเมื่ออ่อนตัว
ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตานโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการรัฐขนาดใหญ่
ประเด็นการเมือง (Update):
"ประจิน"เผยรู้สึกกังวลบ้าง กรณีต่างชาติกดดันการทำงาน คสช.,เร่งทำความเข้าใจ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะ รองหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ยอมรับว่า มีความกังวลบ้างต่อปฏิกิริยากดดัน ของต่างประเทศที่มีต่อการทำงานของ คสช. แต่จะพยายามแก้ปัญหาให้ดีที่สุด โดยฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ กำลังหามาตรการแก้ไขปัญหา คาดว่าจะมีผลสรุปได้ในเร็วๆ นี้ รวมถึงการเร่งสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศให้มากขึ้น คสช.เชื่อต่างชาติไม่ให้'จารุพงศ์'เคลื่อนไหว ทีมโฆษก.ค.สช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ประกาศก่อตั้งเสรีไทยต่อต้านรัฐประหาร ว่า ในเรื่องนี้ไม่อยากให้สังคมไปให้น้ำหนักมากไป เพราะยังไม่อยู่ในระดับที่มีผลกระทบใดๆ
2. กกพ. ลุยอนุมัติโรงไฟฟ้า มิ.ย. 46 ราย แนะเก็งกำไรกลุ่มพลังงานทางเลือกต่อเนื่อง (GUNKUL SOLAR)
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความความคืบหน้าการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน หรือ ร.ง.4 ในส่วนของโครงการโซลาร์รูฟท็อฟ ในช่วงเดือน มิ.ย. กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้มีการส่งคำขอผลิตไฟฟ้าประเภทกิจการโรงงานมายังสำนักงาน กกพ. จำนวน 23 รายกำลังการผลิตรวม 757.71 เมกกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ จำนวน 4 ราย กำลังผลิต 378.49 เมกกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) จำนวน 6 ราย กำลังผลิต 55.04 เมกกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกอื่น (ลม ขยะชุมชน ชีวมวล และก๊าซชีวภาพ) อีกจำนวน 13 ราย กำลังผลิตรวม 324.18 เมกกะวัตต์ ซึ่งสำนักงาน กกพ. มั่นใจว่าจะสามารถพิจารณาอนุญาตให้แล้วเสร็จได้ภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน โดยที่ผ่านมา กกพ. ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการออกใบอนุญาต ร.ง.4 ไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 512 ราย รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 9,241.84 เมกกะวัตต์
3. กสทช.คาดแจกคูปอง Set Top Box ให้ปชช.ได้ ภายในก.ย. แนะเก็งกำไร AJD SAMART
กสทช.ระบุในเอกสารเผยแพร่ว่า จะมีการรับฟังความคิดเห็น ของประชาชนต่อเรื่องการให้คูปอง Set Top Box โดยใช้เวลา 15 วัน คาดแล้วเสร็จในวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 หลังจากนั้นจะเสนอ ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)พิจารณา โดยที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.มีมติเห็นชอบให้นำเรื่องการแจกคูปองดังกล่าว ไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ โดยประเด็นเกี่ยวกับ จำนวนครัวเรือน, ราคาคูปอง ว่าจะเป็นเริ่มต้นตามประกาศราคาขั้นต่ำ 690 บาทหรือสูงกว่านั้น, วงเงินที่จะใช้สนับสนุน ทั้งหมด, คูปองจะสามารถแลกอะไรได้บ้าง
4. ผลกระทบด้านราคาน้ำมันต่อประเทศในเอเชีย ไทยได้รับผลกระทบสูงกว่าเพื่อนบ้าน เนื่องจากนำเข้าน้ำมันสุทธิในระดับสูงเทียบจีดีพี เพิ่มแรงกดดันการตรึงราคาน้ำมันในประเทศและสถานะกองทุนน้ำมัน
5.รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ : จับตา USA 1Q57F GDP ครั้งสุดท้าย (พุธ) ประชุมสภาอียูเลือกตั้งประธาน (พฤหัสฯ-ศุกร์) ผลผลิตภาคอุตฯไทย พ.ค. (ศุกร์)
วันพฤหัสบดี : EU ประชุมสภายุโรปเพื่อเลือกประธานคนใหม่ USA การใช้จ่ายส่วนบุคคล พ.ค. คาดคงที่ +0.2%m-m รายได้ส่วนบุคคล พ.ค. คาดคงที่ +0.3%m-m Taiwan: ผลประชุมธนาคารกลาง คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.875%
วันศุกร์: USA ดัชนีวัดความเชื่อมั่นของม.มิชิแกน เดือน มิ.ย. คาด 82.3 (Vs 81.2) Japan: ยอดค้าปลีก พ.ค. คาด -1.9%y-y (Vs -4.3%) Thai: Mfg Production พ.ค. คาด -3.3%y-y (Vs -3.9%)
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีพุ่งนิวไฮ 7 ปีครึ่งรับอีซีบีลดดบ. จีเอฟเค ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาด เปิดเผยในวันนี้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคล่วงหน้าที่อิงจากผลสำรวจประชาชนราว 2,000 คนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 8.9 ในเดือน ก.ค.หลังจากอยู่ที่ระดับ 8.6 ในเดือน มิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2006 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในผลสำรวจของรอยเตอร์ที่ 8.5 รวมทั้งสูงกว่าตัวเลขประมาณการสูงสุดที่ระดับ 8.8
สหรัฐ เผยจีดีพี Q1 หดตัว 2.9% กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/2014 หดตัวลงมากเกินคาด 2.9% ซึ่งเป็นการหดตัวลงมากที่สุดในรอบ 5 ปี นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า จีดีพีสหรัฐ จะติดลบ 1.7% ในไตรมาส 1/2014 หลังติดลบ 1.0% ในการประมาณการก่อนหน้านี้
มาร์กิต เผย PMI ภาคบริการสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน มิ.ย. บริษัทมาร์กิตเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 61.2 ในเดือน มิ.ย. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนี PMI ภาคการบริการจะอยู่ที่ระดับ 58.0 ในเดือน มิ.ย. ลดลงจากระดับ 58.1 ในเดือน พ.ค.
สหรัฐ เผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงร่วงลงเกินคาดในเดือน พ.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนร่วงลงเกินคาด 1.0% ในเดือน พ.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนจะทรงตัวในเดือน พ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือน เม.ย.
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
+ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น แม้จีดีพีสหรัฐร่วงหนัก
วันทำการที่ผ่านมา ดัชนี DJIA ปิดบวก 49.38 จุด หรือ 0.29% สู่ระดับ 16,867.51 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่ม 9.55 จุด หรือ 0.49% สู่ระดับ 1,959.53 จุด และ Nasdaq ปิดพุ่งขึ้น 29.40 จุด หรือ 0.68% สู่ระดับ 4,379.76 จุด ถึงแม้ว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/57 หดตัวลงมากกว่าคาด 2.9% ซึ่งเป็นหดตัวมากสุดในรอบ 5 ปี รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับลดลง 1.0% ในเดือน พ.ค. เป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
-ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงกันทั่วหน้า
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้น FTSE ปิดลบ 53.45 จุด หรือ 0.79% สู่ 6,733.62 จุด ดัชนี CAC40 ปิดปรับลง 57.74 จุด หรือ 1.28% สู่ 4,460.60 จุด และ DAX ปิดร่วงลง 70.33 จุด หรือ 0.71% สู่ 9,867.75 จุด โดยมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิรักอาจทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และนักลงทุนขายทำกำไรหุ้นที่พุ่งขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวฉุดให้ดัชนีหุ้นยุโรปหลักๆ ปิดในแดนลบ
+ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นเล็กน้อย
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดร่วงลง 0.46 ดอลลาร์ สู่ 114.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ส.ค. ปรับเพิ่มเล็กน้อย 0.47 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 106.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐอนุมัติการส่งออกน้ำมันคอนเดนเสท (condensate) ซึ่งเป็นน้ำมันที่มีความหนาแน่นต่ำมาก รวมถึง EIA เผยตัวเลขสต๊อคน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 มิ.ย. ระบุว่ามีสต๊อคน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ 388.1 ล้านบาร์เรล, สต๊อคน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ 120.6 ล้านบาร์เรล, สต๊อคน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 7.1 แสนบาร์เรล สู่ 215.0 ล้านบาร์เรล
+ราคาทองคำปรับเพิ่ม
วันทำการที่ผ่านมา ราคาสัญญาทองเดือน ส.ค. ปิดตลาดปรับขึ้น 0.1% สู่ 1,322.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังจากสหรัฐเผยตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด และตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่ก็มีนักลงทุนบางรายที่ขายทำกำไร หลังจากราคาทองขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 2 เดือนที่ 1,325.90 ดอลลาร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
-ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดร่วงลง
วันทำการที่ผ่านมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดร่วงลง 21 จุด หรือ 2.42% มาที่ระดับ 846 จุด เป็นระดับต่ำสุดครั้งใหม่ของปีนี้
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 [email protected] 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 [email protected] 02-624-6270