- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 31 August 2015 18:01
- Hits: 1270
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ปรับขึ้นจากความหวังว่าจะฟื้น
คาด SET ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยวันนี้ จากปัจจัยภายในประเทศช่วยหนุนภาวะตลาดเชิงบวกท่ามกลางความลังเลในตลาดโลก ภายในประเทศ การจับกุมและดำเนินคดีจากเหตุการณ์วางระเบิดที่ศาลเอราวัณได้ช่วยคลายความกังวลของนักท่องเที่ยวและลดทอนความกลัวว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวจะชลอตัว ขณะที่ มาตรการสนับสนุนรากหญ้าของ สศค จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงที่เหลือของปี สำหรับตลาดโลก ความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยยังกดดันตลาดหุ้นโดยรวม แต่การฟื้นของราคาน้ำมันจะช่วยหนุน SET ในวันนี้เพิ่มเติม
หุ้นเด่นวันนี้ : PTTGC (ราคาปิด 57.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS ปี 58 71.60 บาท; ราคาเป้าหมาย ปี 58 Bloomberg 70.29 บาท)
ผลการดำเนินงานงวด 1H58 ของ PTTGC ออกมาโดดเด่นท่ามกลางสถานการณ์การฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบโลกกว่า 30% นับจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงแรงของราคาน้ำมันดิบในช่วง 3Q58 กว่า 20% ย่อมสร้างแรงกดดันต่อกำไรสุทธิในช่วงเวลาดังกล่าวของผู้ประกอบการเม็ดพลาสติก Polyethylene ขั้นปลายที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ รวมถึงธุรกิจโรงกลั่นเช่น PTTGC แต่ทั้งนี้เราเชื่อว่าผลประกอบการไตรมาสสามของ PTTGC น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปีและราคาหุ้นได้ตอบรับข่าวร้ายดังกล่าวไปแล้วระดับหนึ่ง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบพร้อมที่จะฟื้นตัวเป็นขาขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลดลงมาถึงระดับต่ำสุด เช่นเดียวกับการฟื้นตัวของผลประกอบการของ PTTGC ในระยะยาวนับจากนี้ไป วัฏจักรของธุรกิจ Olefins ยังคงเป็นขาขึ้นแม้จะมีความกังวลของเศรษฐกิจจีนเข้ามาเกี่ยวข้องก็ตาม
สะท้อนจากส่วนต่างราคา HDPE และ Naphtha ที่ถือว่าอยู่ในระดับสูงมาโดยตลอดซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้ขั้นพื้นฐานในภูมิภาคที่ยังคงแข็งแกร่ง เราประเมินการเติบโตของกำไรสุทธิปีนี้อยู่ที่ 101% YoY บนสมมติฐานว่าจะไม่มีการบันทึกกำไรและ/หรือขาดทุนจากสต็อก ก่อนที่กำไรจะเติบโตต่อเนื่องอีก 14% ในปี 2559 นอกจากนี้ล่าสุด PTTGC ประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 2% ของทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดตลอดช่วง 6 เดือนข้างหน้า หลังจากที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book Value) ต่อหุ้นของบริษัทฯ ที่ 52.06 บาท ซึ่งถือเป็นการสะท้อนถึงความเสี่ยงขาลงที่จำกัดอย่างมีนัยฯ และยังได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 1H58 ในอัตรา 1.50 บาท/หุ้น เทียบเท่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลต่อปีที่จูงใจถึง 5.3% โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 4 ก.ย. และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 ก.ย.
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
เจอตัวผู้ต้องสงสัยสำคัญคดีวางระเบิดแล้ว ในคืนวันเสาร์ เจ้าหน้าที่รัฐบุกเข้าจับกุมตัวชายต่างชาติได้ในอพาร์ตเมนต์ย่านหนองจอกพร้อมอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมาก ตำรวจและทหารได้สนธิกำลังเพื่อหาผู้ต้องสงสัยอีกรายซึ่งเป็นหญิงชาวได้ซึ่งเชื่อว่าน่าจะช่วยเหลือผู้ต้องสงสัยและผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่น (Bangkok Post)
ปรับกฎหมายภาษีอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเลี่ยงช่องว่างเอื้อให้มีการเลี่ยงภาษีกรมสรรพากรได้แก้กฎหมายเพื่ออนุญาตให้ใช้ราคาตลาดแทนราคาประเมินในการประเมินการจ่ายภาษีเงินได้ (Bangkok Post)
ธุรกิจเจ็ดกลุ่มได้รับสิทธิประโยชน์ รองนายกสมคิด ล่าสุดได้กล่าวแก่บีโอไอและ รมว. กระทรวงอุตสาหกรรมให้เร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมแต่นักลงทุนในเจ็ดกลุ่มธุรกิจที่เขตส่งเสริมการลงทุน ได้แก่ กลุ่มผลิตอาหาร ยานยนต์และชิ้นส่วน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน ปิโตรเคมี เทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร ยางและผ้าทอ (Bangkok Post)
สำนักงานเศรษฐกิจการคลังสนับสนุนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า โดยการใช้จ่ายภาครัฐควรจะถูกใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพราะเสถียรภาพทางการเงินของประเทศยังแข็งแกร่งจากวินัยทางการคลังที่ดีในอดีต อัตราการว่างงานที่ต่ำ และสัดส่วนหนี้สาธารณะคิดเป็นเพียง 42% ของจีดีพี (The Nation)
ต่างประเทศ :
มีสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยจากเฟด เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายคนเปิดโอกาสในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน รองประธานเฟด นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ กล่าวในการประชุมเฟดที่รัฐไวโอมิงว่าความผันผวนในตลาดทั่วโลกจะผ่อนคลายลงและเป็นโอกาสในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ประธานเฟดรัฐเซนต์หลุยส์ นายเจมส์ บุลลาร์ดกล่าวว่าเขาเห็นด้วยต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า (Reuters)
ข้อมูลสำคัญที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ นักลงทุนในตลาดทั่วโลกกำลังรอดูตัวเลขผลสำรวจกิจกรรมทางภาคผลิตและบริการของจีนที่จะประกาศในวันอังคารและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ เจ้าหน้าที่เฟดอาจจะลังเลใจที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากตลาดทั่วโลกยังคงผันผวนไปจนถึงกลางเดือนกันยายน (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีในตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงพอสมควรเมื่อวันศุกร์ หลังจากรองประธานเฟด นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ได้บอกกับซีเอ็นบีซีในระหว่างการประชุมเฟดที่แจ็คสัน โฮลว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนมีความเป็นไปได้มากกว่าที่นักลงทุนคาดไว้(Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปปิดสัปดาห์แห่งความผันผวนด้วยการปรับขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ แม้ว่าดัชนีหุ้นของภูมิภาคมีสถิติเป็นเดือนที่แย่ที่สุดในรอบสี่ปีจากความกังวลที่มีต่อจีน (Reuters)
เอเชีย :
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นร่วงลงผิดคาด 0.6% MoM ในเดือนก.ค. ด้วยอุปสงค์อ่อนแอจากต่างประเทศ ทำให้มีสินค้าคงคลังเหลือมากจนต้องชะลอการผลิตใหม่ นักเศรษฐศาสตร์คาดตัวเลขดังกล่าวจะขยายตัว 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเดือนมิ.ย. การสำรวจความคิดเห็นสำหรับเดือนส.ค. นักธุรกิจคาดผลผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นดังกล่าวจะขยายตัว 2.8% ก่อนที่จะชะลอ 1.7% ในเดือนก.ย. (Reuters)
เศรษฐกิจชะลอกดดันภาคอุตสาหกรรมในจีน ผู้ผลิตเครื่องจักรกลที่ใช้ในการก่อสร้างชั้นนำ Zoomlian Heavy Industry Science and Technology รายงานผลขาดทุน 309.8 ล้านหยวนในครึ่งแรกของปี 2015 ในขณะที่ Sany Heavy Industry รายงานกำไร 334.8 ล้านหยวนในครึ่งปีแรกลดลง 75.6% (Reuters)
ข่าวดีจากอินเดีย อินเดียจะประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2 วันนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดเศรษฐกิจอินเดียขยายตัว 7.4% ชะลอจาก 7.5% ในไตรมาส 1 ถือว่าเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงที่สุดในเศรษฐกิจสำคัญของโลก (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ทองขึ้นจากเทคนิคและท่าทีการคงดอกเบี้ยต่ำของ Fed ทองคำตลาดจรปรับขึ้น 8.25 ดอลลาร์แตะ 1,133.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากการพิจารณาทางเทคนิคและท่าทีการคงดอกเบี้ยต่ำของ Fed ที่ Stanley Fisher รองประธาน Fed และเจ้าหน้าที่ Fed อื่นๆ ยอมรับว่าการเทขายหุ้นทั่วโลกกระทบกับช่วงเวลาที่จะขึ้นดอกเบี้ย (Reuters)
ราคาน้ำมันดิบหนุนโดยปัจจัยหลายประการ น้ำมันปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันศุกร์ หนุนโดยการปิดสถานะชอร์ต ความขัดแย้งในเยเมนและเฮอริเคนในสหรัฐ รวมถึงโรงกลั่นที่ปิดซ่อมบำรุง ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 2.66 ดอลลาร์หรือ 6.3% สู่ระดับ 45.22 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 2.49 ดอลลาร์หรือ 5% มาอยู่ที่ 50.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094