- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 31 August 2015 17:50
- Hits: 839
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ต้องระวัง SET ผันผวน ดังนั้นทยอยขายบวกได้ แต่ไม่ซื้อบวก!!
กลยุทธ์ : หลัง SET บวกกลับขึ้นมาแรงพอควรแล้ว ทำให้มีสิทธิแกว่งผันผวนและย้อนลบได้ แต่กรอบลบช่วงนี้มีโอกาสที่จะยังจำกัดและลุ้นแกว่งบวกต่อได้อีก ดังนั้นสามารถรอทำกำไรช่วงบวกต่อ โดยยังไม่แนะนำให้ซื้อบวก เพราะความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังกดดัน
หุ้นเด่นทางเทคนิค : AAV, ROBINS, SF(short)
แนวโน้ม : สัปดาห์ที่แล้ว SET ดีดบวกขึ้นมาต่อเนื่องหลายวันและแรงพอควรแล้วด้วย ทำให้ในวันศุกร์ที่ผ่านมาแม้ว่าดัชนีจะยังเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยขยับบวกแรงได้ต่อในช่วงแรก แต่ก็เริ่มมีแรงขายออกมากดดันมากขึ้น ทำให้เริ่มมีจังหวะอ่อนตัวลงเหลือปิดเป็นบวกไม่มาก ขณะที่ในช่วงปลายสัปดาห์ตลาดหุ้นสหรัฐเองก็เริ่มมีจังหวะแกว่งผันผวนในด้านลบ เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ตลาดเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จึงเปิดเป็นลบ ทำให้ต้นสัปดาห์นี้ SET น่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมากดดันต่อเนื่อง และส่งผลให้ปรับย้อนลบลงอีกครั้งได้ อย่างไรก็ตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ก็ทำให้มีความคาดหวังเชิงบวกว่าผลประชุมเฟดกลางเดือน ก.ย.จะยังไม่มีการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะทำให้ยังมีแรงซื้อกลับในตลาดหุ้นไทยอยู่ รวมทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มพลิกกลับมาบวกแรงพอควร ก็น่าจะยังช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงานในบ้านเราได้ต่อ นอกจากนี้การใกล้วันประมูล 4G ก็มีสิทธิหนุนราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารได้ ดังนั้น FSS ยังคาดว่ากรอบลบช่วงนี้จะค่อนข้างจำกัด และ SET ยังมีลุ้นแกว่งบวกต่อเนื่องได้อีก จึงแนะนำถือรอขายช่วงบวกต่อ แต่ไม่แนะนำให้เข้าซื้อในจังหวะบวก
แนวรับ 1362-1358 , 1350-1340 จุด
แนวต้าน 1370-1374 , 1380-1388 จุด
Fund Flow วันศุกร์เงินทุนกลับมาไหลเข้าภูมิภาคในรอบกว่า 3 สัปดาห์ US$18ล้าน โดยไหลเข้าไต้หวัน US$119 ล้าน และเวียดนาม US$6 ล้าน แต่ยังคงไหลออกจากเกาหลีใต้ US$48 ล้าน และกลุ่ม TIP นำโดยไทย US$34 ล้าน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย US$15 ล้าน และ US$10 ล้าน ตามลำดับ รวมสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่นรวม US$3,162 ล้าน มากกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าจากความกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ลดความกังวลลงปลายสัปดาห์หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี แนวโน้มเงินทุนน่าจะยังไหลออกแต่เบาบางลงตลาดจับตาไปที่ท่าทีของ Fed ว่าจะตัดสินใจต่ออัตราดอกเบี้ยอย่างไร
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) สัปดาห์นี้ตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ควรติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตจีนเดือน ส.ค. (อังคาร) ตลาดคาด 49.7 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 50 จุด และการจ้างงานภาคเอกชน (พุธ) และนอกภาคเกษตร (ศุกร์) ของสหรัฐ เพื่อจับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed (เหลือการประชุมอีก 3 ครั้งในปีนี้คือเดือน ก.ย, ต.ค., ธ.ค.) ส่วนของไทย วันนี้มีรายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ค. ซึ่งน่าจะยังอยู่ในภาวะฟื้นตัวช้า และตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ส.ค. (อังคาร) คาดว่าน่าจะยังติดลบต่อเนื่อง (7M15 เงินเฟ้อทั่วไป -0.85%, เงินเฟ้อพื้นฐาน +1.18%) ขณะที่การประชุมที่ Jackson Hole ค่อนข้างเสียงแตกว่าจะขึ้นดอกเบี้ย ก.ย. นี้เลยหรือไม่
(0) จับตาประชุมครม.พรุ่งนี้ ดร.สมคิดเตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าครม.พรุ่งนี้โดยเน้นการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจของกลุ่มค้าปลีกที่เผชิญกับตัวเลขยอดขายสาขาเดิมติดลบมาหลายไตรมาส เราแนะนำ CPALL รวมถึงกลุ่มรับเหมาก็น่าจะได้ประโยชน์จากการเร่งลงทุนของภาครัฐ แนะนำ CK, STEC, ITD
(+) THCOM เรามองว่าการลาออกของคุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ซึ่งเป็น CEO มีผล 1 ต.ค. นี้ไม่กระทบผลการดำเนินงานของ THCOM ซึ่งมีการทำงานเป็นระบบ ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ ส่วนคุณไพบูลย์ ภานุวัฒนวงศ์ที่ถูกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง CEO แทน ทำงานอยู่กับบริษัทมาตั้งแต่ก่อตั้ง 23 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคนิค (CTO) ซึ่งมีความรู้และเชี่ยวชาญในธุรกิจดาวเทียม และเป็นผู้คิดดาวเทียม IPSTAR ซึ่งเป็นดาวเทียม Broadband ดวงแรกของโลก ราคาหุ้นที่ปรับลงเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อ เรายังคงราคาเป้าหมาย 50 บาท
(-) HANA ผลประกอบการที่น่าผิดหวังใน 1H15 เกิดจากการลดลงของคำสั่งซื้อสินค้า Computer ส่วนเศรษฐกิจจีนที่ชะลอกระทบรายได้กลุ่ม Automotive และ Telecom ซึ่งมีฐานการผลิตที่จีน และยังต้องเผชิญกับต้นทุนและค่าใช้จ่ายจาก 3 โรงงานใหม่ซึ่งเราคาดว่าจะขาดทุนต่อเนื่องไปในปีหน้า เราปรับลดกำไรปกติปีนี้ลง 31% หดตัวจากปีก่อน 17% Y-Y จากเดิมคาดโต 20% Y-Y และคาดปี 2016 จะกลับมาโต 15% Y-Y จากฐานต่ำ ปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 28 บาทจาก 46 บาท แต่ราคาหุ้นที่ปรับลงมา 38% ในช่วง 2 เดือน จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ถือ จากเดิม หลีกเลี่ยง
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดทรงตัวท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากพุ่งขึ้นแรง 2 วันก่อนหนาจากตัวเลข GDP ออกมาแข็งแกร่ง
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดผสมโดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหลังจากภาวะตลาดผันผวนแรงทั้งสัปดาห์
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวค่อนมาในแดนลบโดยตลาดยังคงจับตาดูแนวโน้มเศรษฐกิจจีนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงท่าทีของ FED ในการขึ้นดอกเบี้ย
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกด้านข้างหลังอ่อนค่าแรงช่วงปลายสัปดาห์ ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.78-35.90 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดที่ 45.22 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ฟื้นตัวรวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง ขณะที่มีข่าวว่าอุปทานจากไนจีเรียลดลง
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 1,134.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ของตลาดที่ว่า FED อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยจากเดิมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. รวมถึงการรีบาวด์ตามสัญญาณทางเทคนิค
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
31-ส.ค. - ไทย: ธปท.รานงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ค.
- ตลาดหุ้นฟิลลิปปินส์และมาเลเซียปิดทำการ
- อินเดีย: 2Q15 GDP (ตลาดคาด +7.4% Y-Y ใกล้เคียงไตรมาสก่อน)
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
1-ก.ย. - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- จีน: Manufacturing and Non-manufacturing PMI (ส.ค.)
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA)ประชุม
- สหรัฐ: ISM Manufacturing (ส.ค.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Manufacturing PMI (ส.ค.)
2-ก.ย. - ออสเตรเลีย: 2Q15 GDP
- เกาหลีใต้: 2Q15 GDP
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ADP Report) (ส.ค.)
3-ก.ย. - ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปิดทำการ
- สหรัฐ: Fed Beige Book
4-ก.ย. - สหรัฐ:การจ้างงานนอกภาคเกษตร (ตลาดคาด +2.18 แสนราย ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ +2.10 แสนราย)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research