- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 31 August 2015 17:44
- Hits: 909
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ชะลอความร้อนแรงลง
SET View
แนวโน้ม วันนี้ คาด SET แกว่งตัวออกข้าง แม้ในเชิงเทคนิค มีสัญญาณบวกจากการยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน (บริเวณ 1357 จุด) เมื่อวันศุกร์ แต่ถูกหักลบด้วย แรงขายที่เข้ามามากกดดันให้ SET ไม่ผ่านแนวต้าน 1380 จุด ประเมินกรอบ SET วันนี้ 1355-1375 จุด แนวโน้มระยะกลาง คาดว่า SET จะแกว่งตัวสร้างฐานราว 3-5 วันบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน (1350-1370 จุด)
สัญญาณบวกที่เราเห็นเพิ่มเติม คือ แรงขายของนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอลง กล่าวคือ ค่าเฉลี่ยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเท่ากับ -3.1 พันล้านบาท แต่เมื่อวันศุกร์ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเพียง 1.2 พันล้านบาท
ข่าว/ดัชนีเศรษฐกิจ
• รองประธาน Fed แสดงความเห็นในงานประชุมด้านนโยบายเศรษฐกิจประจำปีที่ Jackson Hole ว่า เงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป และ Fed มีโอกาสเริ่มใช้นโยบายการเงินตึงตัว คือการขึ้นดอกเบี้ย อย่างค่อยเป็นค่อยไป
• เวเนซุเอล่า เป็นอีกหนึ่งประเทศ นอกจากแอลจีเรียและอิหร่าน ที่ออกมาสนับสนุนให้ OPEC จัดประชุมฉุกเฉินก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการ 4 ธ.ค. โดยคาดหวังว่า การประชุมจะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันได้ หลังจากราคาตกต่ำอย่างมากในช่วง 2 เดือนหลังสุด ส่งผลให้ราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัวกลับมาเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน โดยเมื่อวันศุกร์ Brent +5.2% และ WTI +6.3%
กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรระยะสั้นหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งได้รับผลบวกระยะสั้นจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน และหุ้นที่มี Valuation ถูก
Top Daily Pick : PTT (มูลค่าเหมาะสม 363 บาท) เชิงเทคนิคราคาหุ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน (ที่ระดับ 264 บาท) มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ, ได้รับ sentiment บวกจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันและข่าวการปรับเพิ่มราคา NGV และ SPALI (มูลค่าเหมาะสม 27 บาท) Valuation ถูกมาก ซื้อขายที่ P/E ต่ำเพียง 6.1 เท่า คาดการณ์ Dividend yield 6% สำหรับปีนี้ (คาดจ่ายอีก 0.50 บาทจากผลประกอบการ 2H58)
Technical Pick : GENCO JAS CPN AP PTTEP (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)
Theme Plays : หุ้นปันผลเด่น (INTUCH, EGCO) / หุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (KCE, SVI, SAPPE)
Strategy Talk
นโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน กระตุ้นกำลังซื้อชาวรากหญ้า
ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ธนาคารเกียรตินาคิน (Kiatnakin Intelligence หรือ KKI) สรุปนโยบายด้านเศรษฐกิจของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แบ่งออกเป็น 2 ภารกิจสำคัญ ได้แก่
• ภารกิจระยะสั้นและเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร, ผู้มีรายได้น้อย, SME โดยใช้นโยบายกองทุนหมู่บ้าน, โครงการลงทุนขนาดเล็ก วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท, ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) แก่ SME ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFI)
• ภารกิจระยะยาว เน้นสร้างความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ หนุนการเติบโตธุรกิจท้องถิ่น, พัฒนาคลัสเตอร์, สนับสนุนธุรกิจเกิดใหม่หรือ Startup (โครงการนักรบเศรษฐกิจ), เร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน, และปฏิรูปรัฐวิสสาหกิจ
ทั้งนี้ KKI และ kktrade มองว่า นโยบายที่เป็นรูปธรรมและจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจและบริษัทจดทะเบียนได้เร็วสุด คือ กองทุนหมู่บ้าน เพราะเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินโดยตรง สำหรับนโยบายกองทุนหมู่บ้าน เคยนำมาใช้ในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ปี 2544 อย่างไรก็ดี ตอนนั้น วงเงินรวมสูงถึง 7 หมื่นล้านบาท (7 หมื่นหมู่บ้านทั่วประเทศ ได้รับเงิน 1 ล้านบาทต่อหมู่บ้าน) เทียบกับครั้งนี้ที่ตั้งงบประมาณไว้เพียง 4 หมื่นล้านบาท
คาดว่า มาตรการกระตุ้นนี้ จะช่วยให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้นและเม็ดเงินจะถูกนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่กำลังซื้ออ่อนแอในช่วงก่อนหน้านี้เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยกลุ่มธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับประชาชนรากหญ้าและมีฐานลูกค้าในต่างจังหวัดเป็นหลัก จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายกองทุนหมู่บ้าน ได้แก่
• ลีสซิ่ง ได้แก่ GL (สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์), GCAP (สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร โดยเฉพาะรถเกี่ยวข้าว คิดเป็น 80% ของรายได้รวม), THANI (สินเชื่อรถบรรทุก คิดเป็น 74% ของยอดสินเชื่อรวม), TK (สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์)
• ค้าปลีกที่เน้นต่างจังหวัด ได้แก่ GLOBAL (สาขาอยู่ในต่างจังหวัดทั้งหมด, ฝ่ายวิจัยภัทร ประเมินมูลค่าเหมาะสม 9.90 บาท), MC (จำนวนสาขาในต่างจังหวัดคิดเป็น 70% ของจำนวนสาขาทั้งหมด, มูลค่าเหมาะสม 15.70 บาท)
• วัสดุก่อสร้าง ได้แก่ DRT (ลูกค้าหลักอยู่ในต่างจังหวัดด้วยการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายและร้านโมเดิร์นเทรด), DCC (ยอดขายมาจากต่างจังหวัดราว 75% ของยอดขายรวม)
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.38
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.76
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.75
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.54
หุ้นในพอร์ตที่จะมีการจ่ายปันผล ได้แก่
EGCO 01/09/2015 3.00 Baht per share
WORK 02/09/2015 0.19 Baht per share
SCB 04/09/2015 1.50 Baht per share