- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 28 August 2015 17:01
- Hits: 1179
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Break 1360
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ผลักดันด้วยกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมายืนเหนือ US$40 รวมถึงกลุ่มธนาคารที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ขานรับนโยบายเศรษฐกิจของทีมเศรษฐกิจ ดร.สมคิด อีกทั้งบรรยากาศรอบเอเชียและยุโรป ฟื้นตัวเด่น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 37.95 จุดหรือ 2.87% มาอยู่ที่ 1,358.03 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 52,392 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนในไทยต่อเนื่อง แต่เป็นการชะลอแรงขาย ด้วยการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 เหลือ 1,745 ล้านบาท ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 6 เพียง 1,301 ล้านบาท และปิดสถานะ Short ด้วยการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 5,568 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
การส่งออกเดือนก.ค.ของไทยหดตัว 3.5% yoy ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด -3.8%
ราคาน้ำมัน WTI ปิดบวก 10.3% เป็น US$42.56 เป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานอย่างโดดเด่น
ติดตามการประชุมที่ Jackson Hole โดยประธานเฟด อาจให้ความเห็นต่อสถานการณ์ ปัจจุบัน และท่าทีของนโยบายการเงินของเฟด
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ เดือนก.ค.ของไทย ธปท. รายงานวันที่ 31 ส.ค.
ติดตามการประชุม ครม. วันที่ 1 ก.ย. กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอแผนอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินระยะสั้น
ติดตามการประชุม ECB วันที่ 3 ก.ย. อาจส่งสัญญาณพร้อมผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่ม
ติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิต - บริการของจีน วันที่ 1 ก.ย.
มุมมองต่อตลาด
มุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในวันนี้ เรายังคง "เป็นกลาง" วันที่ 8 และประเมินด่านสำคัญ 1,360 จุด อาจผ่านระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในวันนี้เท่านั้น เพราะวันนี้เป็นการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ อีกทั้ง SET INDEX ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดรอบนี้บริเวณ 1,290-1,295 จุด สู่กรอบ 1,360 จุด มากถึง 65-70 จุด ภายในเวลา 3 วันทำการเท่านั้น อย่างไรก็ตาม SET INDEX ยังมีโมเมนตัมเชิงบวกต่อการเก็งกำไรในช่วงสั้น สู่ด่าน 1,370 จุดในสัปดาห์หน้าก็ตาม
ทั้งนี้ เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อประเมินท่าทีของนักลงทุนต่างชาติ เพราะมีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนกลุ่มนี้อาจกลับมาซื้อหุ้นหลักในตลาดหุ้นไทยคืน เพื่อ Covered short หรือ เริ่มเห็นโอกาสของการลงทุนจาก Valuation หุ้นรายตัวที่อยู่ในระดับต่ำจนน่าสนใจ หรืออาจเป็นผลจากความเชื่อมั่นต่อทิศทางเศรษฐกิจของไทย หลังหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ดร. สมคิด เดินสาย เรียกความเชื่อมั่นจากภาคเอกชน และสถาบันการเงิน พร้อมให้แนวทางการเร่งดำเนินการนโยบายเศรษฐกิจทั้งระยะสั้น - กลาง - ยาว ขณะที่แรงขายจากต่างชาติเริ่มชะลอตัวในตลาดหุ้น ขณะที่เร่งทยอยปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Futures เช่นกัน
รวมถึง ติดตามการประชุม ครม. ทุกวันอังคาร เชื่อว่าจะมีความคืบหน้าต่อการพิจารณาและอนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่รอเข้าเสนออย่างต่อเนื่อง รวมถึงหน่วยงานราชการที่ได้รับการอนุมัติโครงการลงทุนไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานในกระทรวงคมนาคม ซึ่งได้รับการอนุมัติโครงการมอเตอร์เวย์ 3 สาย / รถไฟรางคู่ 4 เส้นทาง ไปก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับสัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอแผนอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินสู่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ต่อครม.เพื่อพิจารณาและอนุมัติ เป็นมาตรการระยะสั้น เพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ผ่านธนาคารของรัฐ
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ทรงตัว เพื่อรอดูท่าทีของประธานเฟด ต่อทิศทางนโยบายการเงิน หลังสถานการณ์ในตลาดเงิน ตลาดทุน อัตราแลกเปลี่ยน เกิดความผันผวนสูงในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าประธานเฟดที่เข้าร่วมงานประชุมที่ Jackson Hole จะออกมาให้ความเห็นในคืนนี้ ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก ในต้นสัปดาห์หน้า
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่เก็งกำไรไปก่อนหน้านี้ อาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วน" เพื่อรอสะสมหุ้นเป้าหมายกลับ หากเกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แน่นอนว่า กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Domestic Play จะยังเป็นเป้าหมายของการเก็งกำไรในรอบนี้
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 7.65 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และคาดว่าจะเคลื่อนไหว Outperform ตลาด เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากการประมูลงานขนาดใหญ่ของภาครัฐ เป็นจำนวนมากใน 2H58 และเป็นภารกิจเร่งด่วนของ ครม.ชุดใหม่จะใช้เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
b) ปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่คือการประมูลงานรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย - จีน ในเดือน ก.ย. - ต.ค. มูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท
c) ITD มีความพร้อมสูงสุดในการประมูลงานก่อสร้างระบบรางรถไฟ เนื่องจากมีโรงงานทำไม้หมอนคอนกรีตรถไฟ, โรงงานปูนซีเมนต์, โรงเหล็กเส้น และสามารถทำระบบ Switching ของรถไฟได้เอง จึงมีข้อได้เปรียบมากด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันรายอื่น
d) มี Upside Risk ที่มีนัยสำคัญ จากโครงการเหมืองแร่โปแตซที่ จ.อุดรธานี หลังคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ ได้อนุมัติแผนพัฒนาแร่โปรแตซปี 2558-2564 เพื่อพัฒนาให้เป็นอุตสาหกรรมใหม่ เนื่องจากไทยมีปริมาณสำรองแร่โปรแตซสูงถึง 4 แสนตัน
และ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
2. IRPC : ราคาปิด 3.68 บาท ราคาเหมาะสม 4.30 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะปรับตัว Outperform ตลาดในวันนี้ จาก Sentiment บวกหลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ BRENT เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นถึง +10% dod
b) ดังนั้น คาดว่าจะเห็นการเกิด Short Covering ในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ปรับตัวลงแรงถึง -7.5% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
c) ราคาหุ้น IRPC วานนี้ ปรับตัวขึ้น +0.5% dod ยัง Laggard หุ้นในกลุ่ม เช่น PTT +4.0%, PTTEP +9.5%, IVL +6.3%, PTTGC +5.2%
d) คาดผลประกอบการปี 2558 พลิกกลับเป็นกำไรสุทธิ 6,556 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 9,374 ล้านบาท ในปี 2557 และเติบโต +23% qoq เป็น 8,078 ล้านบาท จากแรงหนุนของโครงการ Phoenix ที่จะเริ่ม CDO ในช่วงปลายปี 2558
e) Valuation น่าสนใจ โดยซื้อขายระดับ PER 2558 เพียง 7.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มพลังงานที่ 14.2 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเร่งขึ้นเป็น US$637 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$524 ล้าน
ขายสุทธิหนาแน่นในเอเชียเหนือ
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงทยอยลดน้ำหนักการลงทุนในไทย แต่ชะลอตัว
ด้าน Metal Futures ชะลอตัวชัดเจน
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 แต่ชะลอตัวเหลือ 1,745 ล้านบาท รวม 8 วันทำการ ขายสุทธิ 33,070 ล้านบาท และ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิทะลุ 8 หมื่นล้านบาท เป็น 85,555 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 5,568 สัญญา รวม 3 วันทำการ Long สุทธิ 24,977 สัญญา น่าจะเป็นการปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง ขณะที่ S50U15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เท่ากับ 9.72 จุด ใกล้เคียงวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 9.54 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิลดลงเหลือ 45,470 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 6 เหลือ 1,301 ล้านบาท รวม 6 วันทำการขายสุทธิ 21,294 ล้านบาท โดยที่ราคาพันธบัตรไทยกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 2.67bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.09bps ปิดที่ 2.799%
ขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้เริ่มชะลอการลงทุนใน Metal Futures แม้ว่าจะยังคงสถานะ Long ใน Metal Futures เป็นวันที่ 2 แต่ลดลงเหลือ 66 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิเพียง 152 สัญญา น่าจะเป็นการเปิดสถานะ Long เมื่อราคาทองคำในตลาดลอนดอนปรับฐานลงสู่แนว US$1,120 ขณะที่ค่าเงินบาททรงตัว 35.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิใน Metal Futures เพียงเล็กน้อย
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็น 739 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 844 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง เน้นกลุ่มธนาคารเป็นวันที่ 4
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิ 542 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 401 ล้านบาท โดยยังคงเน้นสะสมกลุ่มธนาคารอย่างต่อเนื่อง สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคารซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 4 เร่งขึ้นเป็น 533 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 341 ล้านบาท ตามาด้วยกลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 207 ล้านบาท และกลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 122 ล้านบาท
2. กลุ่ม ICT ขายสุทธิสูงสุด 323 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 164 ล้านบาท และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 84 ล้านบาท
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Accumulative Buy: ITD
Speculative Buy: IRPC
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530