WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLS copyบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

รีบาวด์

     วันนี้ คาดดัชนีฯ Rang bound ในกรอบ แนวรับ 1,310 จุด แนวต้าน 1,338 จุด ปัจจัยหนุน เมื่อวานนี้ทางการจีนยังคงเดินหน้าสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจ ผ่านการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบธนาคารอีก 1.4 แสนล้านหยวน ด้วยดอกเบี้ยระยะสั้นต่ำเพียง 2.3%, แรงซื้อคืน Cover short หนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯบวกแรง ขณะที่เฟดสาขานิวยอร์คเผยโอกาสขึ้นดอกเบี้ยดอกเบี้ยในเดือน กย.มีน้อยลง (คาดตลาดซื้อคืนหุ้น เพื่อรอดู Jack Hole symposium ของเฟด คืนนี้-พรุ่งนี้)


    เล่นรอบ แนะนำซื้อเก็งกำไรเล่นสั้น คาดบริเวณแนวรับ 1,284 จุด ไม่หลุด จะมีรีบาวด์ ขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,340/1,350 จุด ก่อน / ส่วนใครที่ติดสูง แนะ รอรีบาวด์ ค่อยขาย เพื่อรอซื้อปรับต้นทุนเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวอีกครั้ง


      ปัจจัยหนุนหุ้นรายตัว ส่วนใหญ่มาจากหุ้นที่เชื่อมโยงกับงานภาครัฐฯที่เริ่มทยอยโชว์ผลงาน รับทีม ครม.ใหม่ อาทิ งานโซล่าร์ราชการและสหกรณ์ ระยะแรก 600 MW ยื่นขอได้ 1-7 พย. นี้, รถไฟฟ้า และ รถไฟรางคู่ 6 เส้นทาง เข้า ครม.ปีนี้, แผนกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากเข้า ครม.สัปดาห์หน้า


     ระยะเดือน (ครึ่งหลังเดือน สค.-ต้น กย.) หลังจากหุ้นไทยลงตามตลาดหุ้นโลก แนะแบ่งพอร์ตเริ่มซื้อคืน 20/30% เน้น แบงก์, ค้าปลีก, รับเหมา, โรงแรม และหุ้นที่ลงแรงก่อนหน้านี้
      หุ้นแนะนำ PTT (คาดมีแรงซื้อคืน Cover short หุ้นใหญ่ที่ลงไปแรงรอบนี้), กลุ่มพลังงานทดแทน กกพ.ออก PPA โซลาร์ฟาร์มหน่วยงานราชการฯ (IFEC ได้รับการเซ็นสัญญาแต่งตั้งอย่างเป็นทางการไปแล้วกับทางกองทัพเรือในการใช้พื้นที่ราชพัสดุในการทำโซลาร์ฟาร์ม เราคาดมีโอกาสได้พัฒนาโครงการให้ราว 100-150MW)

 

BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(+) เมื่อวานนี้ กกพ. ประกาศการรับซื้อไฟฟ้าโซล่าร์สหกรณ์/ราชการ รวม 800MW เร็วกว่าที่เราคาด (เดิมคาดชัดเจนปีหน้า) โดยจะประกาศผลการคัดเลือกในช่วงเดือน ธค. ปีนี้ คาดจะเป็นปัจจัยหนุนให้หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า (positive surprise) หลังจากที่ผิดหวังจากการล่าช้าในช่วงก่อนหน้านี้ ในหุ้นที่เรา cover อยู่นั้นเรามองว่า IFEC TSE BCP และ CKP มีศักยภาพที่จะเข้าร่วมในโครงการ ซึ่ง IFEC และ TSE จะได้ประประโยชน์มากสุดจากการเข้าร่วมครั้งนี้
(+) WORK เราปรับกำไรสุทธิปีนี้ขึ้น 14% เป็น 252 ล้านบาท จากคาดกำไร 3Q15 มีแนวโน้มจะดีกว่าคาด โดยคาดกำไร 3Q15 อยู่ที่ 110 ล้านบาท จากเดิมคาดราว 90 ล้านบาท จากอัตราค่าโฆษณาที่ดีกว่าคาดตามเรตติ้งคนดู เราคาดกำไรสุทธิปี 2016 ที่ 307 ล้านบาท ปรับขึ้น 19% ภายใต้สมมุติฐานค่าโฆษณา 5หมื่นบาท/นาที มีความเป็นไปได้มากขึ้นจากเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยล่าสุด อยู่ที่ 1.02 เพิ่มจากเดือน กค.ที่ 0.88 /เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 55 บาท (ปรับเพิ่ม 9%)
(+) AOT เรามองว่าราคาหุ้นลงสะท้อน Consensus ปรับลดกำไรลงไปเกือบหมดแล้ว โดยล่าสุดรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวไม่มีสัญญาณลดลงอย่างผิดปกติ เรามั่นใจว่ากำไรไม่น่าจะมี Downside ไปมากกว่านี้ เราคงคำแนะนำซื้อ ดัก High season ท่องเที่ยว ราคาเป้าหมายใหม่ปรับลงเหลือ 314 บาท (จาก 330) เพื่อสะท้อนความเสี่ยงระเบิดช่วงที่ผ่านมา

 

หุ้นมีข่าว
(+/-) AQ ชี้แจงข่าวผ่าน ตลท.ต่อกรณีคำพิพากษาให้ทางบริษัทฯร่วมคืนเงิน 1 หมื่นล้านบาท แก่ KTB โดยคดีนี้ผู้กู้คิอ บริษัทฯโกลเด้น อินดัสเทรียล พาร์ค โดยใช้ที่ดินจดจำนองมูลค่าตลาดที่ประเมินเมื่อ 2 กพ. 2555 อยู่ที่ราว 1.2 หมื่นล้านบาท ค้ำประกัน ซึ่งทางบริษัทฯ AQ คาดว่ามูลค่าหลักประกันเพียงพอที่จะถูกขายเพื่อชำระหนี้ (ที่มา ตลท.)
(+) SUPER (ที่มาทันหุ้น) เดินหน้าขายไฟ COD คาดสิ้นเดือน ตค.นี้ อยู่ที่ 139.6MW จากกำลังผลิตไฟที่รอขายไฟเชิงพาณิชย์ COD ที่ 500MW ภายในปีนี้
(+) กลุ่มรับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้าง (UNIQ STEC CK ITD) รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังจากเข้าทำงานในกระทรวงฯ วันแรกว่า ในปีงบประมาณ 2558-2559 จะเร่งเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่(เมกะโปรเจคท์) 17 โครงการ มูลค่ารวม 1.66 ล้านล้านบาท โดยการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ดังกล่าว ถือเป็น 1 ใน 5 เรื่องเร่งด่วน ที่กระทรวงคมนาคมจะเร่งดำเนินการ โดยในปีนี้จะมีการเปิดประมูลมอเตอร์เวย์ เส้นทางพัทยา-มาบตาพุด ขณะที่จะพยายามเสนอเรื่องการประมูลรถไฟฟ้า สายสีม่วงใต้, สายสีส้ม, สายสีชมพู และสายสีเหลือง เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในปีนี้ นอกจากนี้ จะพยายามเปิดประมูลรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง ให้ได้ในปีนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เชื่อว่าแผนการลงทุนโครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคม จะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ให้เติบโตเพิ่มอีก 1% "จากงบประมาณซ่อมถนน 4 หมื่นล้านบาท และงบประมาณปี 2558 รวมถึง งบปี 2559 ที่จะเริ่มใช้ในไตรมาส 4(ปี 58) จะผลักดันให้เศรษฐกิจโตเพิ่มขึ้นอีก 1%"

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) เมื่อวาน US durable goods (กค.) +2% ดีกว่าคาด -0.4% จาก +3.4% m-m
(+) พฤหัส US GDP 2Q15 2nd คาด +3.2% จาก +2.3% q-q ar. และที่สำคัญจับตาถ้อยแถลง ประธานเฟด ใน Jackson Hole symposium เริ่มวันพฤหัส, EU area M3 money supply (Jul) คาด +4.8% y-y จาก +5%, ฟิลิปปินส์ GDP 2Q15 คาด +5.7% จาก +5.2% y-y
(-) ศุกร์ US PCE (เงินเฟ้อ) กค.คาด +0.1% จาก +0.2% m-m , เยอรมนี HICP inflation (Aug) คาด 0.1% คงที่, UK GDP 2Q15 คาด +0.7% คงที่
(+) กระทรวงการคลัง ออสเตรเลีย ชี้แจงพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่งพร้อมรับสถานการณ์ทุบหุ้น ยืนยันข่าวลือ จะเกิดวิกฤตการเงินโลกครั้งใหญ่ ในโซเชียลมีเดียนั้นไม่ได้อิงกับความรู้จากข้อมูลพื้นฐาน
(+) รมว.คลังอภิศักดิ์ มองพื้นฐานหุ้นไทยยังแข็งแกร่ง เชื่อตลาดหุ้นไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแน่นอน ส่วน ผจก.ตลาดฯ ให้ความเห็นหุ้นไทย ตกตามหุ้นโลก เป็นเพียงแรงขายระยะสั้น ส่วนพื้นฐานหุ้นไทย นั้นยังแข็งแกร่งกว่าตลาดภูมิภาค
(+) เลขา รมต. ญี่ปุ่น แถลงการณ์ร่วมกับ กลุ่ม G7 พร้อมรับมือความกังวลในตลาดหุ้นที่ปรับลงแรงช่วงนี้ ย้ำจะใช้นโยบายที่จำเป็นร่วมกับกลุ่ม G7 (ยับยั้งแรงขายที่ผิดปกติ) พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ ตลาดหุ้นที่ตกแรง ไม่ได้หมายความว่าพื้นฐานเศรษฐกิจโลกแย่ ย้ำไม่ควรตื่นตระหนก

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด

ข่าวเด่นเศรษฐกิจ

รองประธานเฟดสหรัฐชี้การปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในเดือนก.ยน้อยลง
      ประธานเฟดมณรัฐ New York นาย William Dudley ชี้ความเสี่ยงเศรษฐกิจ จีน และโลกชะลอ ตลาดทุนการเงินผันผวน ทำให้การประชุมบอร์ด FOMC ที่จะมีขึ้นเดือนก.ยอาจมีการเลื่อนพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป แต่ก็ยังคาดว่าเฟดสหรัฐจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2015 นี้ (Reuters)

 

'ซีพีเอฟ' ทุ่มหมื่นล.ลุยซื้อหุ้นคืน ชี้ผู้ถือหุ้นรับประโยชน์ปันผลเพิ่ม
"ซีพีเอฟ" เตรียมงบ 10,000 ล้าน ซื้อหุ้นคืน 400 ล้านหุ้น หรือ 5.17% ของหุ้นทั้งหมด หลังราคาหุ้นปรับตัวลงแตะ 16.90 บาท ใกล้มูลค่าทางบัญชี 15.34 บาท ชี้ผู้ถือหุ้นรับประโยชน์จากเงินปันผล-ผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่ม เหตุหุ้นที่ซื้อคืนไม่ได้รับสิทธิปันผล กำหนดช่วงซื้อหุ้นคืนระหว่างวันที่ 10 ก.ย.2558 ถึง 9 มี.ค.2559 "โบรกเกอร์" ชี้ช่วยเรียกความเชื่อมั่นทางอ้อม (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

 

'กรุงไทย' คุมเข้มลูกค้าอาชีพอิสระ เสี่ยงดันเอ็นพีแอลไตรมาส 3 พุ่ง
       "กรุงไทย" จับสัญญาณกลุ่มอาชีพอิสระ ส่อดันหนี้เสียสินเชื่อเอสเอ็มอีรายย่อยไตรมาส 3 พุ่ง หลังเศรษฐกิจชะลอตัวตั้งทีมสกัดเข้มอนุมัติสินเชื่อ คุมหนี้เสียทั้งปีนี้ไม่เกิน 2.8% จาก 2.67% พร้อมปรับลดเป้าสินเชื่อรายย่อยโต 6-9% มุ่งขยายฐานสินเชื่อกลุ่ม "พนักงาน-ข้าราชการ-รสก." เพิ่ม ล่าสุดต่อยอดบริการเศรษฐี เปิดห้องรับรองพิเศษให้คำปรึกษาการเงิน ดันรายได้ค่าธรรมเนียมปีนี้โตต่อเนื่อง 15% (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

 

ลดภาษีนำเข้าเครื่องจักรกระตุ้นโรงงานที่ได้บีโอไอลงทุนคลังเสนอครม.เร่งโครงการเล็ก
      นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะเร่งการลงทุนภาคเอกชนโดยจะให้แรงจูงใจพิเศษเพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมานักลงทุนที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ยังไม่ลงทุนทันที เนื่องจากรอเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวชัดเจนมากกว่านี้ เบื้องต้นรัฐบาลจึงมีแผนจะให้ผู้ประกอบการสามารถหักลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้กรณีที่ลงทุนซื้อเครื่องจักรนำเข้า แต่จะลดหย่อนได้เท่าใดนั้นยังอยู่ระหว่างให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณา ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ต้องใช้งบภาครัฐไม่เป็นภาระกับงบประมาณ (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

SCB แนะนำส่งออกรับมือค้าโลกซบยาว


       น.ส.ธีรินทร์ รัตนภิญโญวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสกลยุทธ์ธุรกิจและอุตสาหกรรม และรักษาการคลัสเตอร์ธุรกิจ ส่งออก ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า โจทย์ใหญ่สำหรับภาคการส่งออกไทยคือ ต้องสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งในเวทีการค้าโลก เพราะกว่าที่แนวโน้มการค้าโลกจะกลับมาเติบโตอีก ครั้งก็ในอีก 5 ปีข้างหน้า หลังจากมีการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2551 ในระยะสั้นจึงแนะนำให้ผู้ประกอบการ มองหาตลาดใหม่ที่กำลังเติบโต เช่น CLMV แอฟริกาและตะวันออกกลาง (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

อัดแสนล้านช่วยรากหญ้า


       นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าคลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท โดยมีหลายมาตรการ เช่น ผ่านกองทุนหมู่บ้าน เริ่มได้ภายใน 1 เดือน การเบิกจ่ายงบลงทุนขนาดเล็กให้ได้ภายใน 3-4 เดือน และมาตรการที่เสนอโดยกระทรวงมหาดไทย เชื่อมั่นว่าจะเห็นผลต่อระบบเศรษฐกิจภายใน 3 เดือน (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

 

'โตโยต้า' ลั่น 18 ก.ย.นี้หยุดผลิตพรีอุสในไทย
      จากรายงานของสำนักข่าว เกียวโด ระบุว่า โตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ประเทศ ญี่ปุ่น ประกาศจะหยุดการผลิตรถยนต์รุ่นพรีอุส ไฮบริดในไทยอย่างไม่มีกำหนดในเดือน ก.ย.นี้ เนื่อง จากยอดขายในประเทศลดลงต่ำ รวมทั้งขัดแย้งทางภาษีกับรัฐบาลไทย แหล่งข่าวบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้ตัดสินใจหยุดเดินสายพานผลิตรถพรีอุส เพราะพิพาทการสำแดงภาษีนำเข้า ที่ขณะนี้เรื่องอยู่ใน ชั้นศาล รวมถึงคำสั่งซื้อที่ต่ำ (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

รายงานวันนี้

หุ้น: AOT คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 330.00
- เราคิดว่าราคาหุ้น AOT ที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนปัจจัยลบต่างๆไปแล้ว และเป็นโอกาสที่จะซื้อสะสมก่อนจะเข้าช่วงไฮซีซั่นในเดือน ต.ค.
- สถิติการจราจรทางอากาศของ AOT ยังคงเติบโตแข็งแกร่งในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ต.ค. 57 - ก.ค. 58)
- ถึงแม้ว่าจำนวนผู้โดยสารจะลดลงบ้างหลังจากเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ แต่ยังคงเติบโตถึง 25.8% YoY
- เราคาดว่าเหตุระเบิดจะมีผลกระทบเพียงระยะสั้นต่อจำนวนผู้โดยสารและราคาหุ้น AOT เท่านั้น

นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

กลุ่ม: พลังงาน คำแนะนำ: NEUTRAL ราคาเป้าหมาย (บาท): -
- กกพ. ประกาศการรับซื้อไฟฟ้า โซลาร์ฟาร์มราชการฯ/สหกรณ์ 800MW เร็วกว่าที่เราคาด ซึ่งประกอบไปด้วย โซลาร์ฟาร์มสำหรับราชการฯ 400 MW และ หน่วยงานสหกรณ์ 400MW
- เรามองว่า IFEC TSE BCP และ CKP มีศักยภาพที่จะเข้าร่วมในโครงการนี้ แต่ IFEC และ TSE จะได้ประประโยชน์มากสุด
- ส่วนในหุ้นที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของเรามี GUNKUL SOLAR SPCG ที่มีศักยภาพเช่นกัน

นักวิเคราะห์: วิกิจ ถิรวรรณรัตน์, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
นักวิเคราะห์: ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: จิรเมธ รตะพิพัฒน์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!