- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 27 August 2015 16:57
- Hits: 879
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ "แดงท้ายตลาด "
SET ปิดปรับตัวลดลงหลังจากแกว่งตัวในแดนบวกเกือบทั้งวัน โดยนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นจากจีน แต่ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกยังกดดัน SET INDEX ปิดที่ 1,320.08 จุด ลดลง 3.80 จุด Vol. 4.5 พันล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+)ได้โมเมนตัมบวกจากการรีบาวด์ของตลาดหุ้นสหรัฐ ลดความตึงเครียดจากมุมมองแนวโน้มขาลงของตลาดหุ้นโลก วานนี้หุ้นกลุ่ม IT ปรับตัวขึ้นแรงหลังนักวิเคราะห์ปรับคำแนะนำ ( Apple,Amazon,Google)
(+) ตลาดมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มการคงดอกเบี้ยในระดับต่ำของ FED ต่อในการประชุมเดือน ก.ย. จากการตอบคำถามของประธานเฟดสาขานิวยอร์ก
(+) ยอดสินค้าคงทนสหรัฐ ก.ค. เพิ่มขึ้น 2% สูงกว่าตลาดคาดที่หดตัว 4%
(+) รมต.คลังคนใหม่เผยเตรียมปล่อยกองทุนหมู่บ้านปล่อยกู้แบบไม่คิดดอกเบี้ยให้กับสมาชิกกองทุน กระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า
(+) PBOC ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.25% มาอยู่ที่ 4.6% และปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลง 0.50%
(+) ความคาดหวังการอนุมัติ Treasury Stock ในหุ้น BIG CAP ซึ่งปรับลงแรง หลังการอนุมัติของ PTTGC และ CPF
(-) Fund Flow ต่างชาติไหลออก โดยมี Net Sell 4.4 พันล้านบาท รวมยอดสะสม Net Sell 7 วัน ที่ระดับ 3 หมื่นล้านบาท
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวลดลง 71 เซนต์ ปิดที่ 38.6 ดอลลาร์/บาร์เรล
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* การกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ หลังจากมีการปรับเปลี่ยนครม.
* ประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เมืองแจ๊กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ระหว่างวันที่ 27-28 ส.ค.
* การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนและลดความเสี่ยงจากปัญหาฟองสบู่
กลยุทธ์การลงทุน " เก็งอสังหา "
คาดหมายการปรับตัวขึ้นของดัชนี ประเมินแนวต้านที่ระดับ 1,358 จุดสำหรับการรีบาวด์ในรอบสั้น มองประเด็นบวกหลักมาจากการรีบาวด์ขึ้นของตลาดสหรัฐ ลดความกังวลต่อการลดน้ำหนักในตลาดทุน โดยเรามองกลุ่มที่เป็นเป้าหมายของการเล่นรีบาวด์ คือกลุ่มธนาคารและกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากที่ธนาคารปรับตัวลงแรงนำตลาด YTD และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีประเด็นโครงการลงทุนของภาครัฐ สำหรับนักลงทุนระยะกลางเรายังชื่นชอบกลุ่มส่งออกและอิเล็กทรอนิกส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเทียบ USD จากสิ้น2Q58 ราว 1.8 บาท
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CK เก็งกำไร
* Backlog ปัจจุบันกว่า 80,000 ล้านบาทรองรับรายได้ปีนี้และปีหน้าอย่างน้อย 34,000 ล้านบาท
* ยังมีงานรอเซ็นสัญญาอีกกว่า 20,000 ล้านบาท
* มีความพร้อมในการเข้าประมูลโครงการต่างๆที่ภาครัฐเตรียมผลักดันออกมา
QH เก็งกำไร
* Value แฝงอยู่ในบริษัทลูกที่ถือหุ้นอยู่ ได้แก่ HMPRO และLHBANK คิดเป็นมูลค่าต่อหุ้นสูงถึง 2.08 บาท/หุ้น หรือราว 96% ของราคาหุ้น QH นอกจากนี้ มีมูลค่า BV ณ. 2Q58 (ไม่รวมมูลค่า เงินลงทุนHMPRO+LHBANK) เหลืออีก 1.22 บาท
* เป้ารายได้ปี 58 ผู้บริหารคงไว้ที่ 2.2 หมื่นลบ. 7M58 ทำได้แล้ว 45%
* ซื้อขายที่ระดับ PER 7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ในอดีตที่ 10.5 เท่า
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ