- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 27 August 2015 16:44
- Hits: 802
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Rebound
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ยังคงมีความผันผวน จากความเปราะบางของการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก เพียงแต่นโยบายด้านเศรษฐกิจภายใต้การนำทีม ดร. สมคิด ที่มีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Domestic Play ฟื้นตัวแข็งแกร่งต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เกิดแรงขายช่วงท้ายตลาด เพื่อปิดความเสี่ยงหลังตลาดยุโรป ปรับตัวลงกว่า 1% ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 3.80 จุด มาอยู่ที่ 1,320.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,889 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติยังคงลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีก 4,443 ล้านบาท ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 อีก 2,898 ล้านบาท และปิดสถานะ Short ด้วยการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 2,784 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กพช.วางกรอบยื่นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ หน่วยงานราชการและสหกรณ์ รอบแรก 600 เมกกะวัตต์
รมว. ICT ยืนยัน เดินหน้าประมูลคลื่น 4จี ตามแผนเดิม และเดินหน้า Digital Economy
iShare MSCI Thailand ETF ที่นิวยอร์ควานนี้ ปิดบวก 4.56% dod
ช่วงสายวันนี้ติดตามตัวเลขการส่งออกเดือนก.ค. ของไทย Bloomberg consensus คาด -3.8% yoy ส่วนการนำเข้าคาด -12.0% yoy
มุมมองต่อตลาด
มุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในวันนี้ เรายังคง "เป็นกลาง" วันที่ 7 พร้อมกรอบแกว่ง 1,315-1,335 จุด หุ้นหลักในกลุ่ม Domestic Play ยังคงแข็งแกร่งกว่าภาพรวมของ SET INDEX ที่ยังมีความผันผวนจากผลของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังเปราะบาง กดดันการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มพลังงาน เพียงแต่แรงกดดันดังกล่าวเป็นไปอย่างจำกัด เมื่อเทียบกับช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่ การทยอยแถลงแนวนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหลัก ของเศรษฐกิจ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนภายในประเทศเป็นสำคัญ จับตาการเสนอแผนช่วยเหลือสภาพคล่องทางการเงินของประชาชนในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า รวมถึงการเดินหน้าเปิดประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ทั้ง มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง / รถไฟรางคู่ 2 เส้นทาง / รถไฟฟ้า 3 เส้นภายจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี เราเชื่อว่าจะเรียกความเชื่อมั่นได้อย่างมีนัยยะสำคัญ หากเดินหน้าเปิดประมูลโครงการได้ตามที่ รัฐมนตรีคมนาคม / รัฐมนตรีคลัง ให้ความเห็นในวานนี้ ซึ่งกลุ่ม Domestic Play อย่างกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร / กลุ่ม ICT ทรงตัวถึงฟื้นตัว ได้ดีกว่าภาพรวมของ SET INDEX
ด้านปัจจัยต่างประเทศ ยังคงมีความเปราะบาง จากความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจที่จะเติบโตต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะจีน และ สหรัฐฯ เราให้น้ำหนักกับการประชุม Jackson Hole คืนวันศุกร์ที่ 28 ส.ค.นี้ ประธานเฟด จะเข้าร่วมงานดังกล่าวพร้อมให้ความเห็นต่อทิศทางนโยบายการเงินของเฟดจากนี้ไป ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญจาก ณ ปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจจีน และสหรัฐฯ ที่ส่อเค้าเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เฟดจะให้น้ำหนักในส่วนนี้ เพื่อส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกในส่วนของเงินทุนเคลื่อนย้าย และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนเลือกเก็งกำไรในหุ้น / กลุ่ม Domestic Play เป็นสำคัญ" จากการคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่คาดว่าจะออกมาเป็นรูปธรรมเร็วๆ นี้
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Accumulative Buy: ITD / WHA
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 7.35 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และคาดว่าจะเคลื่อนไหว Outperform ตลาด เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากการประมูลงานขนาดใหญ่ของภาครัฐ เป็นจำนวนมากใน 2H58 และเป็นภารกิจเร่งด่วนของ ครม.ชุดใหม่จะใช้เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
b) ปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่คือการประมูลงานรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย - จีน ในเดือน ก.ย. - ต.ค. มูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท
c) ITD มีความพร้อมสูงสุดในการประมูลงานก่อสร้างระบบรางรถไฟ เนื่องจากมีโรงงานทำไม้หมอนคอนกรีตรถไฟ, โรงงานปูนซีเมนต์, โรงเหล็กเส้น และสามารถทำระบบ Switching ของรถไฟได้เอง จึงมีข้อได้เปรียบมากด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันรายอื่น
d) มี Upside Risk ที่มีนัยสำคัญ จากโครงการเหมืองแร่โปแตซที่ จ.อุดรธานี หลังคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ ได้อนุมัติแผนพัฒนาแร่โปรแตซปี 2558-2564 เพื่อพัฒนาให้เป็นอุตสาหกรรมใหม่ เนื่องจากไทยมีปริมาณสำรองแร่โปรแตซสูงถึง 4 แสนตัน
2. WHA : ราคาปิด 3.22 บาท ราคาเหมาะสม 5.00 บาท
a) ราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวลง 8% คาดว่าเกิดจากปัจจัยลบทางเทคนิคหลังหลุดแนวรับบริเวณ 3.50 บาท
b) MBKET ประเมินว่าเป็นโอกาสในการทยอยสะสม และคงมุมมองเชิงบวกต่อ WHA ที่คาดว่าผลประกอบการ 2H58 จะเติบโตสูงจาก 1H58 เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการจัดตั้งกองทุน REIT อาคารสำนักงาน 2 แห่ง คือ อาคาร SJ Infinite Business Center และ อาคาร Bangna Business Complex
c) คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +298.2% yoy เป็น 5.33 พันล้านบาท และมี Upside Risk ต่อประมาณการกำไรปี 2559 จากธุรกิจ Data Center ภาครัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการออกร่าง TOR ซึ่งยังไม่รวมไว้ในประมาณการปี 2559 ของเรา
d) จะขึ้น XW สัดส่วน 10 หุ้นต่อ 1 Warrant ในวันที่ 7 ก.ย. โดยเป็นการออก Warrant ระยะสั้นอายุ 3 เดือน เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการทำคำเสนอซื้อหุ้น HEMRAJ ในส่วนที่เหลือ จากปัจจุบันที่ถือหุ้นใน HEMRAJ แล้ว 93%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิอีก US$524 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$63 ล้าน กลับมาขายสุทธิทุกตลาดอีกครั้ง
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงทยอยลดน้ำหนักการลงทุนในไทย
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีก 4,443 ล้านบาท รวม 7 วันทำการ ขายสุทธิ 31,325 ล้านบาท และ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิทะลุ 8 หมื่นล้านบาท เป็น 83,810 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 2,784 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 19,409 สัญญา น่าจะเป็นการปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้า แต่ S50U15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 9.54 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เพียง 4.33 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 51,038 สัญญา
ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 5 ชะลอเหลือ 2,898 ล้านบาท รวม 5 วันทำการ ขายสุทธิ 19,930 ล้านบาท โดยที่ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงเป็นวันที่ 4 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 อีกเล็กน้อย 1.09bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นมากถึง 9.55bps ปิดที่ 2.826%
และนักลงทุนกลุ่มนี้กลับมามีสถานะ Long ใน Metal Futures อีกครั้ง แต่ก็เพียง 86 สัญญา คาดว่าจะเป็นการเปิดสถานะ Long อีกครั้ง เมื่อราคาทองคำในตลาดลอนดอนปรับฐานลงไม่หลุดแนว US$1,130 ขณะที่ค่าเงินบาททรงตัว 35.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิใน Metal Futures เพียงเล็กน้อย
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเหลือ 844 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,519 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิอีกครั้ง เน้นลดน้ำหนักกลุ่มพลังงาน
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิอีกครั้ง 401 ล้านบาท ขณะที่วันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 512 ล้านบาท โดยเป็นการปรับลดน้ำหนักกลุ่มพลังงาน และสะสมกลุ่มธนาคาร เป็นหลัก สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคารซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 341 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 961 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 144 ล้านบาท และกลุ่มโรงพยาบาล ซื้อสุทธิ 66 ล้านบาท
2. แต่กลุ่มพลังงาน ถูกขายสุทธิสูงสุด 332 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขายสุทธิ 189 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 200 ล้านบาท และกลุ่มขนส่งขายสุทธิ 142 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 99 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค ประเมินขึ้นดอกเบี้ยเดือนก.ย.โอกาสลดลง: ประเมินจากสถานการณ์ ปัจจุบัน การที่เฟดจะเริ่มปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ระดับปกติ เป็นไปได้ยากขึ้น เมื่อเทียบกับ 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้า การปรับนโยบายควรจะต้องรอดูข้อมูลเพิ่มเติม ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวอย่างไร รวมถึงภาพรวมต่างประเทศ และตลาดการเงิน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นบวก
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.0% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาดว่าจะหดตัว 0.4% mom แต่ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 4.1% mom โดยคำสั่งซื้อใหม่ที่ไม่รวมยานยนต์ เพิ่มขึ้น 0.6% mom
ยุโรป
ECB ส่งสัญญาณพร้อมขยาย QE หากมีความจำเป็น: สมาชิก Executive Board ECB นาย Peter ให้ความเห็นว่า ECB พร้อมที่จะขยาย หรือ ยืดโครงการรับซื้อสินทรัพย์ออกไป หากมีความจำเป็น จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง และความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกที่กลายเป็นแรงกดดันต่อเศรษฐกิจในอียู และอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2.0%
จีน
ธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ: ผ่านโครงการ S-T Liquidity Operations (SLOs) มูลค่า 1.40 แสนล้านหยวน อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.3% อายุ 6 วัน ซึ่งโครงกา SLOs มักจะเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินระยะสั้นมาก 1 - 3 วัน
เอเชียแปซิฟิก
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์หดตัวยาวนานสุดในรอบ 14 ปี: หดตัวเป็นเดือนที่ 6 อีก 6.1% yoy ในเดือน ก.ค. ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า -4.0% yoy ซึ่งเป็นการหดตัวนานสุดนับตั้งแต่ปี 2544 และเป็นการหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด -4.0% yoy นำโดยการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์และเวชภัณฑ์ที่หดตัว 5.8% yoy และ 18.1% yoy ตามลำดับ
ไทย
รมว. ICT ยืนยันเดินตาม Digital Economy ขอเวลา 1 เดือน: นายอุตตม สาวนายน รมว. ICT กล่าวว่า นโยบาย Digital Economy เป็นนโนบายที่รัฐบาลประกาศไว้ตั้งแต่ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาทุกๆ ภาคส่วนของประเทศ ดังนั้นกระทรวงในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงก็ต้องสานต่อเรื่องนี้ต่อไป แต่ทั้งนี้ต้องขอเวลา 1 เดือนในการทบทวนรายชื่อของคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ เพื่อคัดสรรบุคลากรให้เหมาะสมตามพันธกิจ และเป้าหมายที่วางไว้ ด้านปัญหาของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ตนเองได้ย้ำให้ไปเดินหน้าแผนฟื้นฟูองค์กรให้มีความชัดเจนเพิ่มขึ้นอีกในช่วงปีนี้ ที่สำคัญคือประเด็นข้อพิพาทที่มีกับเอกชน ก็ขอให้มีข้อยุติ และมีความคืบหน้าที่ชัดเจนให้ได้ เพราะแผนฟื้นฟู จะเดินหน้าได้ เรื่องเหล่านี้ต้องมีข้อยุติ
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530