- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 21 August 2015 17:30
- Hits: 8306
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"เน้นซื้ออ่อนตัว"
Stock Picks-Aug 2015 : Fundamental : INTUCH, KBANK, QH, RATCH, SCC ส่วน Dark Horse คือ CK, GL
Fundamental Pick -Today: -
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, QH, SPALI, SRICHA, SNC, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, JASIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : ESSO 41%, LPN 36%,THAI 18%, CBG 17%, AIT 14%
Technical View ภาพตลาดเป็นลบ
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1380-1390 ค่าลบ
SET50 ซื้อค่าบวก 900-910 ค่าลบ
Technical Picks- Today : SEAFCO, KTB, TRUE, KTC, GLOBAL, TVO, APCS, HMPRO
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ลดลง 6.59 จุดปิดที่ 1372.53 นำโดยแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ตอบรับการลดลงของราคาน้ำมันดิบและการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าราคาน้ำมันดิบมีโอกาสลดลงไปที่ 30-35 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วง 2 ไตรมาสข้างหน้า อย่างไรก็ตาม มีการเลือกซื้อหุ้นที่อิงกับอุปสงค์ในประเทศบางตัวที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์หลังการปรับคณะรัฐมนตรี เช่น กลุ่มแบงค์ (นำโดย KTB ซึ่งเป็นแบงค์รัฐและผู้บริหารระดับสูงไปเป็นรมว.คลัง), กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (ที่คาดว่าโครงการใหญ่จะเดินหน้าได้เร็วขึ้น), กลุ่มพาณิชย์ (เติบโตตามการขยายสาขา), กลุ่มขนส่ง (ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันลดลง) เป็นต้น นักลงทุนสถาบันในประเทศและรายย่อยซื้อสุทธิกลุ่มละ 2 พันกว่าล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิต่อ 4.7 พันล้านบาท
วันนี้ Sentiment เป็นลบจากต่างประเทศ ความวิตกกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้าฉุดตลาดหุ้นลงแรงทั่วโลก ทั้งตลาดหุ้นจีน, ยุโรป, สหรัฐ ฯลฯ นักลงทุนโยกเงินลงทุนบางส่วนเข้าไปในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ ในยามที่มีความเสี่ยง/ความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น ประกอบกับกระแสคาดการณ์โอกาสเฟดเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือนก.ย.ลดลงก็เป็นอีกปัจจัยหนุนราคาทองคำในช่วงนี้ สำหรับปัจจัยภายใน การปรับครม.แล้วเสร็จและรายชื่อเป็นไปตามโผที่ออกมา จากนี้ก็รอดูผลงานของรัฐบาลต่อไป กลยุทธ์ : ระยะสั้นมากเน้นซื้ออ่อนตัว
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบ แต่การซื้อใหม่ให้เน้นตามด้วยค่าบวก เพราะค่าลบของดัชนีและหุ้นจะดูไม่ดี โดยมีสิทธิลงไปที่แนวรับ 1360-1350 จุด ส่วนการรีบาวด์มีแนวต้านระยะสั้น 1380-1390 จุด สำหรับการ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดี น่าสนใจซื้อเก็งกำไรระยะสั้นพบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น BJCHI, STEC, WORK, KTC, GLOBAL หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ WIIK, BBL, KBANK, SCB ส่วนหุ้นที่หลุด List คือ SYNEX และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ M, TVO
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ สหรัฐ : ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 ปี สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 2% สู่ระดับ 5.59 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับในรอบกว่า 8 ปี
+ สหรัฐ : จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้นเพียง 4,000 ราย สู่ระดับ 277,000 ราย และยังต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 21 ติดต่อกัน
- ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งแรง...วิตกเศรษฐกิจชะลอตัว โดยดัชนี DJIA ปิดลดลง 358.04 จุด (-2.06%) ดัชนี NASDAQ ดิ่งลง 141.56 จุด (-2.82%) ดัชนี S&P500 ลดลง 43.88 จุด (-2.11%) โดยความวิตกเศรษฐกิจจีนชะลอตัวและเศรษฐกิจสหรัฐ & โลกฟื้นตัวช้าลงได้ฉุดตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงทั้งตลาดหุ้นยุโรป ตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นสหรัฐ
- ตลาดหุ้นจีนร่วงลงต่ออีก 3.4% เมื่อวานนี้ แม้ว่าใช้มาตรการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบของธนาคารกลางจีนแล้วก็ตาม ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการเงินภายในประเทศมูลค่า 1.20 แสนล้านหยวน หรือราว 1.877 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ผ่านทางข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) ซึ่งนับเป็นวงเงินสูงสุดในรอบเกือบ 19 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.57
- ตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดทำการซื้อขายเช้าวันนี้อ่อนตัวลง 1-2% โดยเป็นผลจากการลดลงแรงของตลาดหุ้นสหรัฐ, ยุโรป อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สขยับบวกเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงกับมีนัยสำคัญ โดยรวม Sentiment การลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะสั้นเป็นลบ แต่เมื่อเทียบกับตลาดเงินแล้ว เห็นว่าตลาดทุนยังน่าสนใจมากกว่าเพียงแต่การลงทุนใน Equity เน้นไปยังหมวดหุ้น Defensive & ปันผลสูงมากขึ้นในยามที่ตลาดมีความเสี่ยง/ความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันแกว่งในกรอบแคบหลังอ่อนตัวมาต่อเนื่อง โดยสัญญา WTI ส่งมอบเดือนก.ย. +34 เซนต์ ปิดที่ 41.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT -54 เซนต์ ปิดที่ 46.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
+ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบธ.ค.เพิ่มขึ้น 25.3 ดอลลาร์ หรือ +2.24% ปิดที่ 1,153.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งมาจากการคาดการณ์โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้มีน้อยลง และความไม่แน่นอนมีมากขึ้น ตลาดเงินและตลาดทุนผันผวนหลังจากจีนประกาศลดค่าเงินหยวน ทำให้นักลงทุนโยกการลงทุนบางส่วนเข้ามาในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย เช่น ทองคำ
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
-/ ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานลดลงแรงรับกระแสคาดการณ์ราคาน้ำมันว่าจะอ่อนตัวลงได้อีก โดยราคาหุ้น PTT, PTTEP, PTTGC ลดลงมาอย่างมีนัยสำคัญ -32%, -39% และ -22% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดของปีนี้ ขณะที่ SET และ SET-Energy ลดลง -15% และ -23% ตามลำดับ ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงกดดันผลประกอบการในระยะสั้นและระยะยาวของหุ้นในกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี
เราประเมินว่าราคาหุ้น PTT และ PTTEP ในระดับปัจจุบันที่ 258 บาทและ 77.25 บาท ได้สะท้อนระดับสมมติฐานราคาน้ำมันระยะยาว (LT) ในระดับต่ำ 40-50 ดอลลาร์/บาร์เรลแล้ว ขณะที่คาดว่าราคาน้ำมันดิบระยะยาว คือ ตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไปจะอยู่สูงกว่านี้ ดังนั้นการอ่อนตัวลงของราคาหุ้นเพราะความกังวลกับราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวและภาวะตลาดที่ซบเซาเป็นจังหวะในการทยอยซื้อลงทุนระยะยาว
+ กลุ่ม Domestic Play & Defensive ปันผลสูงดูน่าสนใจมากกว่ากลุ่มโภคภัณฑ์ จากสถานการณ์เศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลกที่ไม่ดีทำให้หุ้นในกลุ่มโภคภัณฑ์จะยังซบเซา เพราะจีนเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภครายใหญ่ของโลก เราจึงแนะนำให้พิจารณาการลงทุนหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น ทั้งนี้คาดว่าโครงการลงทุนภาครัฐและเอกชนที่ชะลอตัว / ล่าช้าในช่วงที่ผ่านมาจะมีความคืบหน้ามากขึ้นในระยะ 1-2 ไตรมาสข้างหน้า ขณะเดียวกันราคาโภคภัณฑ์ (ราคาพลังงาน, เหล็ก) ที่ต่ำลงก็ช่วยให้ต้นทุนค่าก่อสร้างลดลงไปด้วย กลุ่มที่พักอาศัยและกลุ่มค้าปลีก ก็ยังประคองตัวไปได้ แม้ว่าจะไม่เติบโตหวือหวามาก แต่ก็ยังขยายตัวตัวจากการเปิดขายโครงการใหม่และการขยายสาขา กลุ่มขนส่ง & การบินได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลงแต่ต้องดูผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและเหตุการณ์ระเบิดว่าส่งผลกระทบมากหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่าผลกระทบจำกัดเพราะธุรกิจท่องเที่ยวมีความยืดหยุ่นในการจัดแพจเกจและโปรโมชั่นมาก กลุ่มสื่อสารและวางระบบก็มี Catalyst จากการประมูล 4G ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.นี้ หุ้นเด่นในกลุ่มต่างๆ เป็นดังนี้
# กลุ่มแบงค์ : KBANK, KTB # กลุ่มไฟแนนซ์ : GL
# กลุ่มสาธารณูปโภค : TTW # กลุ่มก่อสร้าง : CK, SEAFCO
# กลุ่มวัสดุก่อสร้าง : SCC,TMT # กลุ่มสื่อสาร : INTUCH
# กลุ่มขนส่ง : AOT, AAV # กลุ่มโรงแรม & อาหาร : CENTEL
# กลุ่มที่พักอาศัย : QH # กลุ่มพาณิชย์ : CPALL
# กลุ่ม Prop Fund & REIT : CPNRF, SPF, TRUEIF
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829
[email protected]