- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 21 August 2015 17:26
- Hits: 3164
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Daily Strategy
ตลาดหุ้นวานนี้: SET ปรับลง -6.59 จุด มาอยู่ที่ 1,372.53 จุด แรงขายอย่างหนักในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีกดดันตลาดตลอดช่วงการซื้อขาย นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,714 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และกลับมาขายในตลาดพันธบัตร 984 ล้านบาท และ Net short TFEX 467 สัญญา เป็นวันที่ 5
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: Sideway down ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ
กลยุทธ์วันนี้: ได้เวลาปรับพอรต์รอบใหม่ ภายใต้ตลาดขาลง โดยลดการถือครองหุ้นขนาดใหญ่ โยกเข้าหุ้น Defensive อย่างกลุ่มสื่อสาร และ High Div. รวมไปถึงหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนตามที่เราแนะนำด้านล่างนี้ นอกจากนี้เชื่อว่าครม. ชุดใหม่จะออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งกลุ่มที่จะได้ประโยชน์ได้แก่ หุ้นกลุ่มก่อสร้างและการปริโภคภายในประเทศ หุ้นพื้นฐานดีในกลุ่มเหล่านี้ CPALL HMPRO SAWAD CPN KTC CK
Trading วานนี้ : พลังงานทดแทนอย่าง GUNKUL EA และ TPCH Accumulative BUY: EPG SCN GUNKUL EA และ TPCH
กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มดี: พลังงานทดแทนและสื่อสาร
High Div. Stock: ADVANC, TVO, INTUCH, BTS, BJCHI
KSS report วันนี้: SAT (Neutral/เป้า 18 บาท) CK (Outperform/เป้า 30 บาท)
หุ้น/ข่าว/ประเด็นสำคัญวันนี้:
(-) เมื่อคืนดาวโจนส์ร่วง 358 จุด เพราะ
1) กังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่อาจชะลอตัวมากกว่าคาดและการปรับลดค่าเงินหยวนทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะเกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจในอีก 1 ปีข้างหน้า และค่าเงินของประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศมีปัญหาค่าเงิน เช่น ค่าเงินของ Barzil และ Russia อ่อนค่ากว่า 20% และ 40% ตามลำดับ ดังนั้นจีดีพีโลกมีโอกาสถูกปรับลดประมาณการลงในช่วงที่เหลือของปีนี้
2) ความไม่แน่นอนของเฟดในการปรับขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากตัวเลขเศษฐกิจสหัฐออกมา Mix
3) ราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ปรับลงต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบปรับลงต่ำสุดในรอบ 6 ปี ครึ่ง เพราะไม่เพียงแต่ภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ถูกกดดันต่อเนื่อง
4) หุ้นกลุ่ม Media ในสหรัฐปรับลงแรงหลังผลกำไร 2Q15 ไม่ได้ดีเท่าราคาหุ้นที่ปรับขึ้นแรงก่อนหน้านี้
(-) หุ้นกลุ่มน้ำมันร่วงลึกจนน่าสนใจลงทุนได้แล้วหรือยัง? คำตอบคือ “ยัง”: หุ้น PTT ร่วงจากจุดสูงสุดที่ผ่านมา 31% มาอยู่ที่ 258 บาท/หุ้น สาเหตุหลักเชื่อว่ามาจาก 1) ราคาน้ำมันดิบปรับลงกว่า 31% จะทำให้บริษัทในกลุ่มปตท. กลับมามีผลขาดทุนจากสต๊อกใน 3Q15 2) ค่าเงินบาทอ่อนจะทำให้กลุ่มปตท. ที่มีเงินกู้ต่างประเทศขาดทุนจาก FX และ 3) ในระยะยาวความต้องการใช้ก๊าซฯ จะลดลง เนื่องจากความต้องการไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิงจะลดลง ตามแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติ (PDP 2015) ซึ่งธุรกิจก๊าซถือเป็นหัวใจหลักของปตท. ดังนั้นหากโครงสร้างตลาดพลังงานของไทยเปลี่ยนก็จะทำให้แนวโน้มเติบโตของปตท. ลดลง ทำให้นักวิเคราะห์อาจปรับลดเกรดการลงทุน อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลข้อที่ 3 นี้ เชื่อว่าจะยังทำให้เกิดการปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบันและต่างชาติต่อเนื่อง เพราะมีสัดส่วนหุ้นปตท. อยู่ในพอรต์มาก สำหรับนักลงทุนรายย่อยแนะนำให้ปรับพอรต์การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานใหม่ โดยอาจต้อง Switch ไปกลุ่มอื่น เช่น กลุ่มสื่อสารที่มีปันผลสูงอย่าง ADVANC และพลังงานทดแทนที่รัฐให้การส่งเสริมอย่าง GUNKUL EA และ TPCH
(-) Foreign Fund Flow ไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่อง : วานนี้ Flow ต่างชาติยังคงไหลออกจากตลาดหุ้นในภูมิภาคสูงถึง US$741 ล้าน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 และเป็นการขายมากที่สุดในรอบ 2 เดือน ซึ่งเป็นผลจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจและค่าเงินหยวนที่อ่อนค่า
(0) กรณียิงตอบโต้กันระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ ยังอยู่ในวงจำกัด ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้น
(+) ครม.ชุดใหม่ เป็นไปตามโผ เป็นบวกต่อตลาดจากแผนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทีมเศรษฐกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนโยบายการคลัง ดังนั้นกลุ่มก่อสร้าง และการบริโภคภายในจะได้ประโยขน์อย่าง CPALL HMPRO CPN SAWAD และ KTC