- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 20 August 2015 18:02
- Hits: 1765
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ยังไปได้ไม่ไกล
เมื่อวานตลาดไทยเริ่มเห็นแรงซื้อกลับในกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิด อย่างเช่น แบงก์และสื่อสาร สำหรับวันนี้แนวโน้มตลาดยังคงอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากราคาน้ำมันดิบย่อลงแรงเมื่อคืนนี้ ต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง จากความกังวลเรื่องการเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC ประกอบกับนักลงทุนกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน แต่โดยรวมตลาดน่าจะทรงตัวเหนือ 1360 ในช่วงนี้ เนื่องจากความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้าเริ่มลดลงอย่างชัดเจนจากผลการประชุมเมื่อคืนที่ยืนยันว่าค่าเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเกินไปที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย เรายังคงแนะนำนักลงทุนเลือกซื้อเก็บหุ้นเป็นรายตัวบริเวณ 1350-1370 จุด
แนวรับ/แนวต้าน : 1350/1390 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
กลยุทธ์ : เริ่มเก็บหุ้นเมื่อดัชนีย่อลงแรง โดยเฉพาะเมื่อเข้าใกล้บริเวณ 1350 เน้นหุ้นที่จะรายงานงบปีนี้ออกมาแข็งแกร่ง และเน้นปันผลสูงกับ defensive เป็นหลัก
นักลงทุนระยะสั้น : KTB (21.50), NUSA(1.25)
KTB (21.50) ปันผลสูง พื้นฐานดี เป็นหนึ่งใน top pick ของกลุ่ม (พร้อมกับ KBANK) โดย KTB มีแผนเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมและปล่อยกู้ให้ภาคเอกชนและ SME มากขึ้น ซึ่งมี Margin สูงกว่าภาครัฐบาลประกอบกับ Q2 ก็ตั้งสำรองไปเยอะแล้วจึงมีความจำเป็นน้อยใน Q3 Q4 ที่ต้องตั้งสำรองเพื่อคุม NPL บวกกับการที่ภาครัฐถือหุ้น KTB อยู่ 55% ก็ทำให้มีโอกาสรับงานรัฐอีกมากในอนาคต
NUSA (1.25) เราคาดกำไรจะโตได้สูงปีนี้ ประกอบกับราคาปัจจุบันต่ำกว่าบุ๊ค คือแค่ 0.9 เท่า P/B แถมมี Land bank ซึ่งมีต้นทุนน้อยมาก บวกกับโครงการ NUSA ONE และอีกหลายโครงการในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทในระยะยาว และในครึ่งปีหลังนี้แนวโน้มการโอนโครงการจะมีเข้ามากกว่าครึ่งปีแรกอีกด้วย หลังจากครึ่งปีแรกคอนโดขายดีจนเกินเป้าแล้วครับผม
นักลงทุนระยะยาว : ADVANC (270), BDMS (25.50)
ADVANC (270) UOBKH เรามองประเด็นบวกจากการประมูล 4G เป็นปัจจัยบวกที่สำคัญ อย่างที่เราเคยเก็บข้อมูลการประมูล 3G ที่ผ่านมาก็ทำให้ Telco sector ขึ้นมา 40-50%เลย ภายใน 7 วันหลังจากประมูลเสร็จ โดยเราเชื่อว่า AIS จะได้ประโยชน์จากการประมูลนี้ที่สุด เพราะจะลดความกังวลเกี่ยวกับ การขาดเเคลน spectrum โดยคลื่น 900 MHz ของ AIS จะหมดอายุสัมปทานเดือน ก.ย.ปีนี้ ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการของ AIS ก็น่าจะทำสถิติใหม่ได้ใน Q3-Q4 เพราะไม่ต้องบันทึกค่าเสื่อมจากคลื่น 900MHz ที่ปกติจะบันทึกประมาณ 2,000 ล้านบาท/ไตรมาส ดังนั้น AIS เป็นหุ้น Top pick ของเรา Target price 270 บาท ปันผลก็สูงด้วยอยู่ที่ 5%
BDMS (25.50) ยังคงแนะนำซื้ออยู่ โดยขณะนี้ BDMS มี upside ที่สูงที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล ด้วย Target price ที่เราให้ไว้อยู่ที่ 25.50 ซึ่งให้ upside สูงกว่า 30% ปัจจัยบวก มีอยู่หลายประการนะครับ เช่น 1.)BDMS จะสร้างตึกเพิ่มอีก 6 ตึก แต่ละตึกมี 60 เตียง ลงทุน 6 พันล้านบาท และ 2 พันล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ โดยจะสร้างไว้รองรับผู้ป่วยต่างชาติจากการเปิด AEC และเราคาดว่าจะช่วยเพิ่ม capacity ได้ถึง 74% ภายในปี 2018 2.)BDMS มีแผนเปิดโรงพยาบาลเพิ่ม คือสมิทติเวช ชลบุรีในปีนี้ และเปาโลรังสิต และจอมเทียน Hospital ในปีหน้า และตั้งใจจะซื้อโรงพยาบาลเพิ่มอีก 7 โรงพยาบาลให้มีครบทั้งหมด 50 แห่ง 3.)อัตราส่วนของผู้ป่วยต่างชาติมีมากขึ้นเรื่อยๆ (30% เทียบกับ 25% เมื่อ 5 ปีก่อน) 4.)มีแผนขยายธุรกิจขายยาและเวชภัณฑ์ที่มี Margin สูงกว่าธุรกิจโรงพยาบาลทั่วไป สรุปคือ BDMS มี upside สูงและมีแผนขยายธุรกิจอย่างชัดเจน จัดเป็นหุ้น defensive ที่ต้านตลาดและเศรษฐกิจขาลงได้ดี