- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 20 August 2015 17:58
- Hits: 1059
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index : รอการฟื้นตัวเหนือระดับ 1384
SET Index : 1371.12 ปรับตัวลดลงตามแรงกดดันของทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศจากแรงกดดันของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีนที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของสหัฐฯ ทำให้ SET Index ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1380 จุดต่อเนื่อง และมีแนวต้านสำคัญในระยะสั้นที่ 1384 จุด ถ้าสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดนอบแนวต้านถัดไปที่ 1400 จุดตามกรอบแนวโน้มขาลง ในขณะที่เครื่องมือทางเทคนิคยังคงให้สัญญาณในเชิงบวก จึงทำให้การปรับตัวลดลงน่าจะอยู่ในกรอบที่จำกัด โดยมีแนวรับที่ 1362-1365 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1350 จุด ถ้าหากมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
แนวต้าน : 1380 และ 1384
แนวรับ : 1370 และ 1365
PTT = 260 / 264, AOT = 265 / 270, JAS = 5.00 / 5.10, KTB = 17.50 / 17.80, KBANK= 171 / 173
TTCL (TTCL TB; THB 24.50) – ซื้อ
แนวต้าน : 26.50 และ 28.00
แนวรับ : 24.50 และ 24.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง และจุดต่ำสุดเดิม ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 20
แนะนำซื้อ TTCL โดยมีแนวรับที่ 24.50 และ 24.20 และมีแนวต้านที่ 26.50 และ 28.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 23.50 ลงไป
N. D. Rubber (NDR TB; THB 4.14) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.30 และ 4.40
แนวรับ : 4.14 และ 4.10
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวกำลังฟอร์มตัวในรูปแบบสามเหลี่ยม ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ฟื้นตัวเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ NDR โดยมีแนวรับที่ 4.14 และ 4.10 และมีแนวต้านที่ 4.30 และ 4.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.04 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ยังผันผวน
โผ ครม. ใหม่ที่ประกาศออกมา โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจที่นำโดย ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ดูเหมือนหลายฝ่ายจะให้การยอม แต่ปฎิกริยาในตลาดหุ้นยังนิ่งๆ แม้จะเรียกร้องมาก่อนหน้านี้ เหตุคงเป็นเพราะนักลงทุนยังกังวลข่าวการวางระเบิด และที่สำคัญคือ นักลงทุนคงจับตามองว่าจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ หรืออยากฟังวิสัยทัศน์ในการปฏิรูปเศรษฐกิจ เรามองว่าหากทางทีมเศรษฐกิจใหม่มีวิสัยทัศน์หรือมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่โดนใจนักลงทุน ก็น่าจะที่ทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น
ปัจจัยที่ยังเขย่าตลาดหุ้นในต่างประเทศ คือ ความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวไปมากกว่านี้ จนทางการจีนอาจจะต้องลดค่าเงินหยวนลงอีก นอกนั้นก็เป็นเรื่องทิศทางดอกเบี้ยในสหรัฐ หลัง Fed Minutes เมื่อคืนนี้ทางประธาน Fed ก็ออกมาบอกว่า การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐคงยังต้องรอดูตัวเลขการจ้างงานและตัวเลขเฟ้อยังต่ำกว่าระดับที่ทาง Fed ตั้งไว้รวมทั้งยังกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้นักลงทุนมองโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. มีต่ำลง ส่วนราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงเมื่อคืนนี้ หลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด การปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ คาดจะยังส่งผลต่อราคาหุ้นพลังงานของไทยอีกระยะ หลังราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงมาอยู่ที่ระดับ 40 ดอลลาร์ต่อบารเรล์
เรามองว่าดัชนี SET ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ คาดจะยังทรงตัวในระดับที่ต่ำกว่า 1400 จุด ต่อไปอีกระยะ จนกว่าตลาดจะได้รับข้อมูลชัดเจนว่าเหตุผลของการวางระเบิดมาจากอะไร รวมทั้งตลาดยังรอดูนโยบายของทีมเศรษฐกิจใหม่ อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้า ทิศทางดัชนี SET น่าจะยังอยู่ในภาวะผันผวนต่อไป จากความผัวผวนของราคาน้ำมัน การแข็งตัวของค่าเงินดอลลาร์รวมทั้งตลาดหุ้นจีน อย่างไรก็ตามอาจมีแรงซื้อคืนหุ้นที่ลงไปลึกโดยเฉพาะกลุ่มที่โยงท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมาในหลายวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้น หุ้นจะลงและฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
หุ้นที่ปรับตัวลงลึกในช่วงวันที่ 18-19 ยังคงเป็นหุ้นที่โยงกับการท่องเที่ยวอย่าง CENTEL AOT CPN นอกนั้นจะเป็น PTT BEC ซึ่งปรับตัวลงไปมากว่า 7% (ดูรูปด้านซ้าย) โดยราคาหุ้นที่เกี่ยวโยงกับการท่องเที่ยวอาจจะยังดีดตัวขึ้นได้ไม่มากในช่วงนี้ ซึ่งยังต้องรอดูผลของการเลื่อนหรือการยกเลิกของนักท่องเที่ยวว่ามีมากน้อยขนาดไหน นอกจากนั้นอาจต้องจับตาดูการออกมาเตือนของนานาชาติต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์เริ่มคลายตัวหุ้นที่น่าจะดีดตัวได้เร็วสุดในบรรดาหุ้นที่ลงไปลึกๆ คือ AOT เนื่องจากในอดีตเมื่อเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองหรืออื่นๆหุ้น AOT มักจะดีดตัวกลับได้เร็ว (ดูรูปด้านขวา) นอกจากหุ้นมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง ราคาหุ้นที่ดิ่งลงไปในปัจจุบันที่ระดับ 262 บาท เป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ยกลางของนักวิเคราะห์ที่ 320 บาท
วันนี้คาดทิศทางดัชนี SET จะยังได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของราคาน้ำมัน แต่อาจได้รับผลบวกทางจิตวิทยาของทีมเศรษฐกิจใหม่ ดังนั้นดัชนี SET น่าจะเปิดในแดนลบจากแรงกดหุ้นพลังงาน แต่จะมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มที่โยงการท่องเที่ยว โดยวันนี้แนวรับอยู่ที่ 1370-1365 จุดและแนวต้านที่ 1385-1390 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,371.12 จุด ลดลง 8.00 จุด (-0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 23,583.38 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่แกว่งลง หลังราคาน้ำมันโลกลดลง รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งอาจจะผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก บ้านเราเช้านี้ถูกกดดันจากแรงขายในกลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ดัชนียังผันผวน
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดภาคบ่าย แกว่งตัวในแดนลบต่อเนื่อง โดยกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลดลงยังกดดันตลาด ทำให้โอกาสรีบาวน์กลับยังมีไม่มาก อย่างไรก็ตามแรงขายในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเริ่มเบาบางลง หลังสถานการณ์เริ่มทรงตัวได้และไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรเพิ่มเติม โดยยังมองเหมือนเดิมคือ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และ โรงแรม และกลุ่มสายการบิน ราคาปรับตัวลงมาในจุดที่สามารถสะสมลงทุนระยะยาว ระยะสั้น ปัจจัยที่ต้องกลับมาให้ความสนใจคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจของ ครม. ชุดใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยบวกหนุนตลาดได้หลังจากนี้
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Turnover List preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : EIC, IFEC-W2, AJD*, CEI*, MILL*, WIIK*, TRT-W2* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
TTCL (TTCL TB; THB 24.50) - ซื้อ
N. D. Rubber (NDR TB; THB 4.14) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]