- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 19 August 2015 18:56
- Hits: 2009
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Krungsri Securities: Money Wizard
Daily Strategy
ตลาดหุ้นวานนี้: SET ร่วงลง – 36.13 จุด (-2.56%) ปิดที่ 1,372.61 จุด ต่ำสุดในรอบ 17 เดือน เกิดจาก Panic Sell หลังเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์ที่เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงในรอบหลายปี แรงขายส่วนใหญ่มาจากกองทุนในประเทศที่ขายสุทธิ 12,030 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,876 ล้านบาท และต่างชาติยังขาย TFEX 7,775 สัญญา เป็นวันที่ 3 แต่ต่างชาติซื้อในตลาดพันธบัตร 1,370 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: เรามีมุมมองตลาดเป็นกลางถึงบวก และ SET น่าจะรีบาวด์หลัง Panic Sell เพราะเชื่อว่าการปรับลงของตลาดวานนี้ได้สะท้อนปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นมากเกินไป
กลยุทธ์วันนี้: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำเล่นเก็งกำไรระยะสั้น จากความคาดหวังว่า SET จะมีโอกาสรีบาวด์หลัง panic sell วานนี้ ส่วนนักลงทุนทั่วไปแนะนำ wait and See ไปก่อน
Trading วานนี้ : KTB
กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มดี: พลังงานทดแทนและสื่อสาร
High Div. Stock: ADVANC, TVO, INTUCH, BTS
KSS report วันนี้: BJCHI (ซื้อ/เป้า 9.40 บาท) – Initial Coverage / ผลกำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
หุ้น/ข่าว/ประเด็นสำคัญวันนี้:-
(+) ทูลเกล้าฯ ปรับ ครม. ใหม่ คาด ดร. สมคิดนั่งรองนายกฯ คุมเศรษฐกิจ เชื่อเสริมความเชื่อมั่นและบรรยกาศการลงทุนดีขึ้น : วานนี้ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่าได้นำรายชื่อคณะรัฐมนตรีใหม่ ขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นทีเรียบร้อยแล้วรอเพียงการโปรดเกล้าฯ ลงมาเท่านั้น โดยครม. ประยุทธ์ 3 ได้ปรับตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจใหม่ทั้งหมด โดยคาดว่าจะแต่งตั้ง ดร. สมคิด จาตุศรีพทักษ์ เป็นรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงค์ เป็น รมว.คลัง นายอุตตม สาวนายน เป็น รมว. ICT และสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็น รมช. พาณิชย์ (ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ) เราเชื่อเป็นบวกต่อตลาดเพราะเป็นบุคคลที่ผู้ชำนาญการด้านเศรษฐกิจ
(0) ผลการสืบสวนหาคนร้ายลอบวางระเบิดแยกราชประสงค์คืบหน้า แต่ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริง : ความคืบหน้าของเหตุลอบวางระเบิดวานนี้ได้เกิดระเบิดอีกครั้งบริเวณสะพานสาทร แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้พบผู้ต้องสงสัยลอบวางระเบิดแยกราชประสงค์ผ่านกล้องวงจรปิดแล้ว เชื่อว่าน่าจะเห็นความคืนหน้ามากขึ้นและการระเบิดน่าจะอยู่ในวงจำกัดมากขึ้น ส่วน 23 ประเทศที่ออกมาเตือนการท่องเที่ยวในไทยนั้นเป็นระดับการเตือนในขั้นต้นที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งผลกระทบจะค่อนข้างจำกัด
(+/-) วันนี้ให้จับตาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีน เพราะวานนี้ร่วงกว่า 6.15% หวั่นเศรษฐกิจจีนอาจจะชะลอตัวมากกว่าคาด รวมถึงคืนนี้ติดตามรายงานการประชุม FOMC ครั้งที่ผ่านมา รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ค ของสหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดด้วย
(+) เมื่อคืนราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น US$0.75/ดอลลาร์ อยู่ที่ US$42.62/ดอลลาร์ จากที่คาดการณ์ในตลาดว่า EIA จะรายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐคืนนี้จะปรับตัวลงอีก ทำสถิติลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 สำหรับหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับลงแรงวานนี้น่าจะเป็นผลกระทบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 6 ปี 4 เดือน มากกว่าที่จะเป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงมาแล้วก่อนหน้านี้ หากมองเฉพาะมุมของราคาน้ำมันดิบเรายังเชื่อว่า Downside Risk ที่ราคาน้ำมันดิบจะปรับลงมีค่อนข้างจำกัด แต่พร้อมจะรีบาวด์หากมีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระทบ
(-) กองทุนในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายหนักทั้งตลาดหุ้นและ TFEX ทำให้มองว่าอาจมีแรงขายต่อเนื่องจากคำสั่งขายที่ค้างท่อวานนี้ : วานนี้กองทุนในประเทศขายหุ้นสุทธิ 12,030 ล้านบาท (ซึ่งไม่เคยเห็นบ่อยนัก) ต่างชาติขายสุทธิ 6,876 ล้านบาท และหากตรวจสอบจากรายงานซื้อขายหุ้นของโบรกเกอร์วานนี้พบว่า PHATRA มียอดขายสุทธิมากที่สุด 5,834 ล้านบาท รองมาเป็น TISCO 2,278 ล้านบาท CS 1,741 ล้านบาท และ CLSA 1,610 ล้านบาท จากตัวเลขดังกล่าวเราเชื่อว่าต่างชาติจะยังขายต่อ ส่วนกองทุนในประเทศเชื่อเป็นการปรับพอร์ตครั้งใหญ่ เนื่องจากไม่เคยเห็นปริมาณการขายที่หนักมาก่อน
(+) BJCHI (ซื้อ/เป้า 9.40 บาท) – Initial Coverage / ผลกำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และจะเห็นกำไรสุทธิเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 3Q15 จากแรงหนุนของ Backlog ในมือที่แข็งแกร่ง
ธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯเพราะมีรายได้กว่า 90%มาจากต่างประเทศ
ฐานะการเงินแข็งแกร่งมากมี D/E ต่ำเพียง 0.16 เท่า และ Div. yield สูงถึง 7%