- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 August 2015 18:14
- Hits: 1360
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +69.15, NASDAQ +14.68 และ S&P +8.15 หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสดใส (1) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) – กค. เพิ่มขึ้น 0.2%MoM หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4%เมื่อมิย. โดยเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 และดีกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% (2) การผลิตภาคอุตสาหกรรม – กค. เพิ่มขึ้น 0.6% ดีกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% และปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิต – กค. เพิ่มขึ้น 0.3% อยู่ที่ 78.0% สอดคล้องกับคาดการณ์ อย่างไรก็ตามการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน จากตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้มีการประเมินช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้น – สค. อยู่ที่ 92.9 ลดลงจาก 93.1 เมื่อช่วงท้ายกค. และต่ำกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 93.5
.....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับลดลง โดย FTSE -17.59, CAC -30.38 และ DAX -29.49 แม้คลายความกังวลเกี่ยวกับจีนลงไปบ้าง หลังธนาคารกลางจีนให้มั่นที่จะรักษาเสถียรภาพของเงินหยวน พร้อมระบุว่าไม่มีเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจที่จะสนับสนุนให้หยวนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง แต่ได้รับปัจจัยลบจากตัวเลข GDP ของยูโรโซน – 2Q/58 เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งชะลอตัวจาก 0.4% เมื่อ 1Q/58 สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้กรีซ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ย. +US$0.27 อยู่ที่ US$42.50 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากการเข้าซื้อเก็งกำไร อย่างไรก็ตามยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานส่วนเกินของน้ำมันดิบ
......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$2.9 อยู่ที่ US$1,112.7 ต่อออนซ์ ภายใต้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ข้างต้น ทำให้จับตาช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -2,028 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -54,056 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : Sideway? ภายใต้แรงกดดันจากประเด็นต่างประเทศที่ลดลง โดยเฉพาะจากนโยบายการเงินของจีน ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดสดใส ทำให้กลับมาประเมินระยะเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และคาดยังเป็นปัจจัยกดดันภาพรวมตลาด
....ขณะที่ประเด็นในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยลบจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า ซึ่งคาดยังส่งผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่อยู่ในช่วงวันสุดท้ายของการประกาศงบการเงิน และแนะจับตา (1) หุ้นกลุ่มพลังงานที่คาดยังได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ (2) ตัวเลข GDP – 2Q/58 ที่จะประกาศวันนี้ ซึ่งคาดอยู่ที่ 2.1% ชะลอตัวจาก 3.0%เมื่อ 1Q/58
...และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC, TOP และ BCP หลังผลการดำเนินงาน 2Q/58 ออกมาโดดเด่น เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น TRC และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ภาพรวมยังมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 35.32 – 35.34 คาดส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO, VNG เป็นต้น และ (5) กลุ่มท่องเที่ยวยังคงได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หุ้นที่ได้รับผลดี เช่น CENTEL
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.01 อยู่ที่ 2.20% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.66 มาอยู่ที่ 12.83
หุ้นแนะนำ : SYNTEC
ประเด็นที่ต้องติดตาม (17 สค.’58)
17/8/58 : ไทย – ตัวเลข GDP – 2Q/58 คาดอยู่ที่ 2.1%
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788