- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 August 2015 18:04
- Hits: 1193
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์เกิด Technical rebound ได้อย่างโดดเด่น ด้วยแรงเก็งกำไรต่อโอกาสที่จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังปรับครม. ทำให้กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง/ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร / กลุ่มค้าปลีก ขยับขึ้นอย่างโดดเด่น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ปิดบวก 9.77 จุด มาอยู่ที่ 1,413.92 จุด แต่มูลค่าการซื้อขาย 35,438 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาเร่งลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง ขายสุทธิตลาด Spot เป็นวันที่ 9 อีก 2,028 ล้านบาท กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures มากถึง 12,787 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 2,608 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
การประกาศ GDP ใน 2Q58 ของไทย เช้าวันจันทร์ที่ 17 ส.ค. ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาด +2.9% yoy ชะลอตัวจาก 1Q58 ที่เติบโต 3.0% yoy
ติดตามการปรับครม.หลังเสร็จงานสำคัญ Bike For Mom วันที่ 16 ส.ค.
อัตราแลกเปลี่ยนกลางของเงินหยวนเช้านี้ 6.3969 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อนหน้าที่ 6.3975 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ
มุมมองต่อตลาด
เราคงน้ำหนักภาวะการลงทุนเป็น "กลาง" เป็นวันที่ 2 ทั้งนี้ SET INDEX มีโอกาสทะลุ 1,416 จุด ซึ่งเป็นด่านสำคัญในรอบสั้นนี้ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวเลข GDP ใน 2Q58 ที่จะประกาศก่อนเปิดตลาดเช้าวันนี้
หากขยายตัวเท่ากับหรือดีกว่า 2.9% คาดว่า SET INDEX จะขยับขึ้นยืนเหนือ 1,416 จุด ผลักดันด้วยหุ้นหลัก อย่าง PTT / SCC / KBANK เป็นต้น
แต่หากขยายตัวได้ต่ำกว่า 2.9% คาด SET INDEX จะซึมตัวลงไปแกว่งแคบ 1,410 จุด หรือต่ำกว่าเล็กน้อย เพราะความคาดหวังเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่จะถูกเร่งออกมา หลังเสร็จสิ้นการปรับครม.ภายในสิ้นเดือนนี้
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนใน 2Q58 โดยรวมถือว่าใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ การปรับประมาณการผลการดำเนินงานปี 2558 ที่จะถูกปรับลงน่าจะเป็นกลุ่มพลังงาน จากผลกระทบของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ซึมตัวลงในช่วงนี้ ทำให้งบ 3Q58 มีโอกาสสูงที่จะบันทึกขาดทุนจากสต็อคน้ำมันดิบอีกครั้ง แต่กลุ่มอื่นๆ เราเชื่อว่าตลาดจะคงประมาณการ เท่ากับว่าแรงกดดันต่อ Valuation ของ SET INDEX ที่ไม่รวมกลุ่มพลังงาน จะทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่อง
ปัจจัยต่างประเทศในช่วงนี้ อาจไม่มีน้ำหนักในการกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยมากนัก อาจมีเพียงการติดตามการประกาศค่าเงินหยวนกลางของธนาคารกลางจีนในช่วงเช้า เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของเงินหยวนที่อาจมีผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างชาติ
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่ขายทำกำไรรอบสั้นบริเวณ 1,410-1,415 จุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนอาจกลับเข้ามาเลือกลงทุนในหุ้นที่ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการปีนี้ขึ้นได้อีก หลังเสร็จสิ้นการประกาศงบ 2Q58"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH
Accumulative Buy: IFEC / TPIPL
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. TPIPL : ราคาปิด 2.18 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
a) TPIPL รายงานผลประกอบการ 2Q58 พลิกกลับเป็นกำไรจากการดำเนินนานปกติที่ 139 ล้านบาท จาก 1Q58 ที่ขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ 55 ล้านบาท จากแรงหนุนของโรงไฟฟ้าขยะ 18MW ที่รับรู้รายได้เต็มไตรมาส เพียงพอที่จะชดเชยการลดลงของธุรกิจปูนซีเมนต์ได้
b) คาดผลประกอบการ 3Q58 จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่เร่งตัวขึ้น qoq เนื่องจากโรงไฟฟ้าขยะอีก 55 MW เริ่มจ่ายไฟเข้าสู่ระบบแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนคาดว่าจะลดลงตั้งแต่ 4Q58 เป็นต้นไป
c) เนื่องจากประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้จำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปชำระคืนเงินกู้สกุลยูโรจำนวน 163 ล้านยูโร รวมทั้งรีไฟแนนซ์เงินกู้ ซึ่งจะส่งผลให้ Cost of Debt ของบริษัทลดลงจากเดิมราว 1%
d) Valuation ค่อนข้างถูก โดยซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 0.7 เท่า ต่ำกว่า SCC ที่ 3.1 เท่า และ SCCC ที่ 3.6 เท่า
2. IFEC : ราคาปิด 9.15 บาท ราคาเหมาะสม 16.10 บาท
a) ราคาหุ้นมี Sentiment เชิงบวก หลังหลุดจากเกณฑ์ซื้อขาย Trading Alert หรือ T1 มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
b) และผลประกอบการ 2Q58 ออกมาดี โดยมีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท +233% yoy +353% qoq แม้ว่าหากไม่รวมรายการพิเศษ จะยังมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติราว 40 ล้านบาท แต่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นจากธุรกิจพลังงานทดแทน โดยมีรายได้ขายไฟฟ้าที่ 112 ล้านบาท +23% qoq
c) แนวโน้มผลประกอบการ 3Q58 คาดว่ารายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนจะเพิ่มขึ้น qoq เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังลมแห่งแรก ที่ อ.ปากพนัง จำนวน 10MW จะเริ่มจ่ายไฟเข้าสู่ระบบ ช่วงต้นเดือน ก.ย.และเชื่อว่าจะเป็น Momentum เชิงบวก ส่งผลให้นักลงทุนมีความมั่นใจต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมากขึ้น
d) มีปัจจัยบวกรออยู่คือการประมูลโครงการโซลาร์หน่วยงานราชการใน 3Q58 โดยคาดว่า IFEC มีโอกาสได้งานเพิ่มเติมอีกราว 100 MW หลังได้รับหนังสือตอบรับจากกองทัพเรือแล้ว และเป็น Upside Risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการกำไรของเรา
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิ US$314 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$333 ล้าน และเป็นการขายสุทธิทุกตลาดต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเร่งลดน้ำหนักการลงทุนในไทยอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 9 มากถึง 2,028 ล้านบาท ส่งผลให้ 9 วันทำการขายสุทธิ 11,964 ล้านบาท และ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิสูงถึง 54,056 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Short สุทธิสูงถึง 12,787 สัญญา คาดว่าเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Short ในอัตราสูง เมื่อ S50U15 / SET50 Index ฟื้นตัวเด่นในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ขณะที่ ณ ระดับปิด S50U15 ต่ำกว่า Set50 Index ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าที่ 8.89 จุดจากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 8.21 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 56,420 สัญญา
ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 2,608 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 5,715 ล้านบาท เมื่อค่าเงินบาททรงตัวเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนในไทย และนำเงินออกนอกประเทศ รวมถึงราคาพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้น ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 3 มากถึง 3.03bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 3.13bps ปิดที่ 2.729%
แต่นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงมีสถานะ Long ใน Metal Futures เป็นวันที่ 5 อีก 345 สัญญา รวม 5 วันทำการ Long สุทธิ 5,425 สัญญา คาดว่าการมีสถานะ Long ใน Metal เพื่อเก็งกำไรต่อการฟื้นตัวของทองคำในตลาดโลก บวกกับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เป็นตัวเพิ่มผลกำไรด้าน Long
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เป็น 624 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,221 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิ 262 ล้านบาท เทียบกับวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,927 ล้านบาท และ 6 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 4,649 ล้านบาท โดย NVDR เป็นการปรับน้ำหนักการลงทุนระหว่างกลุ่มหลักเป็นสำคัญ สรุปภาพการลงทุนได้ดังนี้
1. กลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิสูงสุด 236 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 292 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 162 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 488 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มโรงพยาบาลถูกขายสุทธิสูงสุด 187 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 165 ล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 118 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลางถึงบวก
ผลผลิตภาคอุตฯ เดือนก.คง เพิ่มขึ้น 0.6% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 0.4% mom และเดือนก่อนหน้าที่ 0.1% mom แต่หากไม่รวมการผลิตยานยนต์ ผลผลิตภาคอุตฯ เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% mom เท่านั้น
ดัชนี Consumer sentiment เดือนส.ค. เท่ากับ 92.9 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 93.5 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 93.1 จุด
ยุโรป
สภากรีซอนุมัติร่างแผนเงินกู้รอบ 3: หลังมีการหารือในสภาตลอดคืนวันที่ 13 ส.ค. และท้ายที่สุดก็ได้รับลงมติรับรองร่างแผนการช่วยเหลือรอบที่ 3 วงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโรในวันที่ 14 ส.ค. เท่ากับว่ากรีซจะสามารถเบิกเงินก้อนแรกมาชำระหนี้ ECB ที่จะครบกำหนดวันที่ 20 ส.ค. มูลค่า 3.2 พันล้านยูโร ส่วนนายกฯ กรีซ จะมีการลงมติรับรองภายในปลายเดือนนี้ หลังมีการปรับครม.
รัฐสภาเยอรมันจะโหวตพิจารณาแผนเงินกู้กรีซวันที่ 19 ส.ค.: เกี่ยวกับแผนช่วยเหลือกรีซรอบที่ 3 วงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโร รัฐมนตรีของเยอรมัน ต่างปฎิเสธแนวทางการลดหนี้ "Haircut" ให้แก่กรีซ แต่จะให้ยืดเวลาการชำระหหนี้ออกไป
จีน
ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนกลางแข็งค่าเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ: เช้าวันที่ 14 ส.ค. ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนกลางที่ 6.3975 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับกลางที่วันก่อนหน้าที่ 6.4010 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ
IMF ให้ความเห็นเชิงบวกต่อการปรับค่าเงินหยวนของธนาคารกลางจีน: และเป็นการขยับไปสู่การปรับระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็น Floating rate ใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการเปิด / เพิ่มความยืดหยุ่น / สอดคล้องกับระบบการเงินโลก พร้อมยืนยันว่าค่าเงินหยวน ณ ปัจจุบัน ไม่ได้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
เอเชียแปซิฟิก
โอมานเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันแตะระดับ 1.0 ล้านบาร์เรล/วัน: เดือนก.ค. โอมานได้เพิ่มกำลังการผลิต 0.5% mom เป็น 894,000 บาร์เรล/วัน และน้ำมันเบา จากการกลั่นของก๊าซอีก 107,000 บาร์เรล/วัน แต่การส่งออกกลับลดลง 13% mom เป็น 797,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากโรงกลั่น Orpic ได้เพิ่มกำลังการผลิต ทำให้โอมานส่งออกน้ำมันได้ลดลง
ยอดค้าปลีกสิงคโปร์ขยายตัวเด่นสุดในรอบ 4 เดือน: เพิ่มขึ้น 6.9% yoy ในเดือน มิ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 6.1% yoy และดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด 3.5% yoy นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มขึ้น 0.6% mom สวนทางกับที่ตลาดคาดลดลง 2.6% mom แต่หากไม่รวมรถยนต์ยอดดังกล่าวลดลง 3.0% yoy
ดัชนีราคาค้าส่งของอินเดียต่ำสุดเป็นประวัติการณ์: ลดลง 4.05% yoy ในเดือน ก.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้า ลดลง 2.40% yoy และลดลงแรงกว่า Bloomberg Consensus คาด -2.90% yoy ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีราคาค้าปลีก โดยราคาอาหารและพลังงานลดลง 1.16% และ 12.81% yoy ตามลำดับ ทำให้ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางอินเดียมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายก่อนการประชุมในวันที่ 29 ก.ย.
เศรษฐกิจไต้หวันเติบโตต่ำกว่าคาด: GDP ขยายตัว 0.52% yoy สำหรับ 2Q58 ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้าที่เติบโต 0.64% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาดเพิ่มขึ้น 0.60% yoy ทั้งนี้การบริโภค, การใช้จ่ายภาครัฐฯและการลงทุนเพิ่มขึ้น 2.85%, 0.05% และ 1.33% yoy ตามลำดับ
เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวน้อยกว่าคาด: หดตัว 1.6% yoy สำหรับ 2Q58 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่เติบโต 4.5% yoy แต่ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 1.8% yoy นอกจากนี้เป็นการหดตัว 0.4% qoq โดยการบริโภคภาคเอกชนหดตัว 0.8% qoq และการลงทุนภาคธุรกิจหดตัว 0.1% qoq
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530