- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 14 August 2015 17:37
- Hits: 1072
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX เปิดหลุดแนว 1,400 จุด ลงไปทดสอบแนวรับสำคัญ 1,380-1,385 จุด กดดันด้วยกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบ รวมถึงแรงขายกลุ่มธนาคารหนาแน่น อย่างไรก็ตาม หุ้นที่เป็น Domestic Play หรือหุ้นปันผลกลับแข็งแกร่งกว่าในภาพรวม รวมถึงการเกิด Technical Rebound ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 4.17 จุด มาอยู่ที่ 1,404.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,506 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางวันที่ 6 ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 อีก 1,859 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 5,497 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 มากถึง 3,118 ล้านบาท เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าราว 10 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
อัตราแลกเปลี่ยนกลางของเงินหยวนเช้านี้ 6.3975 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อนหน้าที่ 6.4010 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ
MSCI ปรับรอบไตรมาสนี้ ไม่มีการเพิ่ม / ตัด หุ้นไทยออกจาก MSCI Thailand และ MSCI Global Small Cap
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
การประกาศ GDP ใน 2Q58 ของไทย เช้าวันจันทร์ที่ 17 ส.ค. ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาด +2.9% yoy ชะลอตัวจาก 1Q58 ที่เติบโต 3.0% yoy
ติดตามการปรับครม.หลังเสร็จงานสำคัญ Bike For Mom วันที่ 16 ส.ค.
ติดตามพัฒนาการปฎิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนของจีน หากชะลอ / ยุติ การอ่อนค่าเงินหยวน จะเป็นสัญญาณบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
มุมมองต่อตลาด
เรากลับมาให้น้ำหนักภาวะการลงทุนเป็น "กลาง" จากวานนี้ "กลางถึงลบ" หลัง SET INDEX สามารถกลับมายืนเหนือ 1,400 จุด วานนี้ได้อีกครั้ง พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น สะท้อนแนวรับ 1,400 จุดยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ SET INDEX จะฟื้นตัวสู่ด่าน 1,415-1,420 จุดได้หรือไม่ ติดตามประเด็นเหล่านี้
อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนกลางจากธนาคารกลางจีนเช้านี้ หากอ่อนค่าต่ำกว่า 1% หรือคงอัตราแลกเปลี่ยนที่ 6.40 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าตลาดหุ้นทั่วเอเชียและไทยจะตอบรับในเชิงบวกทางจิตวิทยาการลงทุน
ระดับราคาหุ้นหลัก ไม่ว่าจะเป็น PTT / SCC / KBANK/ SCB เป็นหุ้นเป้าหมายที่ถูก SBL / DW ด้าน Put Options ค่อนข้างมาก หากราคาหลักทรัพย์เหล่านี้ฟื้นตัวเด่น ย่อมทำให้เกิดแรง Covered short / put เหมือนเช่น AOT วานนี้ที่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า เรากลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยภายในประเทศเป็นหลักอีกครั้ง ทั้งตัวเลข GDP ใน 2Q58 ประกาศในวันจันทร์หน้า และช่วงเวลาที่นายกฯ จะปรับครม. หลังเสร็จสิ้นงานสำคัญ Bike For Mom ในวันอาทิตย์ที่ 16 ส.ค. เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน และภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศได้มากหรือน้อย สะท้อนกลับมายังมูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเฉลี่ยต่อวันจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ภายใต้ upside gain ของ SET INDEX ช่วงสั้นยังคงจำกัด เพราะยังขาดปัจจัยบวกเชิงพื้นฐานที่จับต้องได้ แต่เราเชื่อว่า จากนี้ไป คณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจจะเร่งดำเนินการกรอบและแผนการเปิดประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะเห็นเป็นรูปธรรมตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นไป
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่ซื้อเก็งกำไรบริเวณ 1,400 จุดหรือต่ำกว่าวานนี้ อาจพิจารณาขายทำกำไรรอบสั้นบริเวณ 1,410-1,420 จุด และรอซื้อหุ้นเป้าหมายกลับบริเวณ 1,400 จุด หรือราคาหุ้นเป้าหมายเกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH
Accumulative Buy: SCC / WHA
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. SCC : ราคาปิด 522.00 บาท ราคาเหมาะสม 600.00 บาท
a) MBKET ประเมินว่า SCC จะได้ Sentiment เชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง และลดลง -29% QTD ใน 3Q58 เหลือ US$42.23/barrel
b) เนื่องจากจะส่งผลบวกโดยตรงต่อ Spread Margin ของธุรกิจปิโตรเคมี เนื่องจากเป็นสายการผลิตแบบ Naphtha Base นอกจากนั้น คาดว่าธุรกิจปูนซีเมนต์จะมีทิศทางที่ทรงตัวหรือดีขึ้น qoq จากโครงการก่อสร้างของภาครัฐฯที่เข้าสู่ระบบมากขึ้น
c) คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +32.2% yoy เป็น 44,455 ล้านบาท และต่อเนื่อง +3.6% yoy เป็น 46,083 ล้านบาท ในปี 2559
d) ผลตอบแทนจากเงินปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดการณ์เงินปันผล 2H58 หุ้นละ 8.50 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 1.6%
2. WHA : ราคาปิด 3.80 บาท ราคาเหมาะสม 5.00 บาท
a) WHA จะรายงานผลประกอบการ 2Q58 ในวันนี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะออกมาดีที่ 123 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนใน 1Q58 และเติบโต +340.2% จาก 2Q57 ที่ 28 ล้านบาท
b) เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่รวมงบของ HEMRAJ เข้าสู่งบการเงินรวมอย่างเต็มไตรมาส นอกจากนั้น จะมีกำไรพิเศษจากการขายเกาะล้านเข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการ
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการใน 2H58 ที่คาดว่าจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการจัดตั้งกองทุน REIT อาคารสำนักงาน 2 แห่ง คือ อาคาร SJ Infinite Business Center และ อาคาร Bangna Business Complex
d) จะขึ้น XW สัดส่วน 10 หุ้นต่อ 1 Warrant ในวันที่ 7 ก.ย. โดยเป็นการออก Warrant ระยะสั้นอายุ 3 เดือน เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการทำคำเสนอซื้อหุ้น HEMRAJ ในส่วนที่เหลือ จากปัจจุบันที่ถือหุ้นใน HEMRAJ แล้ว 93%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิ US$333 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$607 ล้าน โดยเป็นการขายสุทธิทุกตลาด
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเร่งปิดสถานะ Short ใน Set50 Index Futures อย่างโดดเด่น
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 เร่งขึ้นเล็กน้อยเป็น 1,859 ล้านบาท ส่งผลให้ 8 วันทำการขายสุทธิ 9,936 ล้านบาท และ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับขึ้นเป็น 52,027 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Long สุทธิอีกครั้ง 5,497 สัญญา น่าจะเป็นการปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้า เมื่อ S50U15 ปรับฐานลงแรง แม้ว่า ณ ระดับปิด S50U15 จะปิดต่ำกว่า Set50 Index แคบลงเป็นวันที่ 3 เหลือ 8.21 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 10.91 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 43,633 สัญญา
ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 เร่งขึ้นเป็น 3,118 ล้านบาท รวม 5 วันทำการซื้อสุทธิ 5,715 ล้านบาท น่าจะเป็นการโยกเงินบางส่วนจากปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Futures เข้าพักในตลาดตราสารหนี้ ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงแรง ผ่านผลตอบทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เป็นวันที่ 2 มากถึง 3.13bps จากวันก่อนหน้าลดลงเพียง 0.58bps ปิดที่ 2.759%
และนักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงมีสถานะ Long ใน Metal Futures เป็นวันที่ 4 มากถึง 1,391 สัญญา รวม 4 วันทำการ Long สุทธิ 5,080 สัญญา คาดว่าการมีสถานะ Long ใน Metal เพื่อเก็งกำไรต่อการฟื้นตัวของทองคำในตลาดโลก บวกกับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เป็นตัวเพิ่มผลกำไรด้าน Long
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 มากถึง 1,221 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 721 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 และหนาแน่นขึ้น โดยยังคงเน้นสะสม BBL / SCC
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 เร่งขึ้นเป็น 1,927 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 469 ล้านบาท รวม 6 วันทำการ ซื้อสุทธิ 4,649 ล้านบาท โดย NVDR ยังคงเลือกเน้นสะสม SCC สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 679 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 180 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้างซื้อสุทธิ 488 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 754 ล้านบาท กลุ่มธนาคารซื้อสุทธิ 388 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 292 ล้านบาท
2. กลุ่มอาหาร ถูกขายสุทธิสูงสุด 215 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 87 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 96 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลางถึงบวก
ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เท่ากับ 2.74 แสนตำแหน่ง สูงกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 2.70 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.69 แสนตำแหน่ง
ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.6% mom สูงกว่า Bloomberg consensus คาดเล็กน้อยที่ 0.5% mom แต่ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% mom โดยยอดขายยานยนต์เพิ่มขึ้นถึง 1.4% mom ขณะที่ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมยอดขายยานยนต์ เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งเช่นกันที่ 0.4% mom
สินค้าคงคลังภาคธุรกิจ เดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.8% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาดและเดือนก่อนหน้าที่ 0.3% mom โดยสต็อคของดีลเลอร์ขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 1.7% mom
ยุโรป
เศรษฐกิจกรีซฟื้นตัวใน 2Q58: เติบโต 0.8% yoy หลังเศรษฐกิจทรงตัวใน 1Q58 และสวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาดหดตัว 0.5% yoy
อียูยังคงกังวลกับความสามารถในการชำระหนี้ของกรีซ: European Institution คาดว่าระดับหนี้สาธารณะของกรีซจะแตะระดับ 201% ของ GDP ในปีนี้ และค่อยๆ ลดลงสู่ระดับ 160% ในปี 2565 ภายใต้แผนการช่วยเหลือชุดใหม่ ขณะที่รัฐสภากรีซ เตรียมลงมติในแผนการช่วยเหลือชุดที่ 3 ภายในวันที่ 14 ส.ค.นี้
จีน
ธนาคารกลางจีนยืนยันจะดูแลค่าเงินหยวน: ยืนยันหากค่าเงินหยวนมีความผันผวนผิดปกติ จะเข้าดำเนินการ เพื่อให้เกิดเสถียรภาพ ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนจะปรับระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ โดย market maker จะต้องเสนอราคากลางที่อ้างอิงจากราคาปิดวันก่อนหน้า, อุปสงค์ - อุปทาน อัตราแลกเปลี่ยน และการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินสกุลหลัก มาพิจารณาร่วมกันเพื่อกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนจะโปรโมทอย่างต่อเนื่องของอัตราแลกเปลี่ยน Onshore-Offshore อย่างต่อเนื่อง
ธนาคารกลางจีนย้ำไม่จำเป็นต้องให้เงินหยวนอ่อนค่าต่อเนื่อง: การที่ตลาดประเมินว่าเงินหยวนอาจต้องอ่อนค่าไปถึง 10% เป็นการคิดที่ไม่มีเหตุผล การปรับของเงินหยวนครั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน
เอเชียแปซิฟิก
เศรษฐกิจมาเลเซียเติบโตชะลอตัว: เศรษฐกิจเติบโต 4.9% yoy ใน 2Q58 ชะลอตัวจาก 1Q58 ที่ขยายตัว 5.6% yoy และดีกว่า Bloomberg consensus คาด 4.5% yoy ภาคการบริโภคภายในประเทศ เพิ่มขึ้น 6.4% yoy ชะลอตัวจาก 8.8% yoy ใน 1Q58 ขณะที่การส่งออกหดตัว 3.7% yoy เร่งตัวขึ้นจาก 1Q58 ที่หดตัว 0.6% yoy
ธนาคารกลางเกาหลีใต้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: ไว้ที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ เพื่อรอดูผลการประชุมเฟดที่อาจเริ่มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเช่นกัน: เป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกัน โดยคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ 4% และอัตราดอกเบี้ย Special Deposit ที่ 2.5% ทั้งนี้ธนาคารกลางจะยังคงประเมินผลกระทบของการปรับลดค่าเงินหยวน รวมถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยตลาดประเมินว่าธนาคารกลางจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530