- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 13 August 2015 16:45
- Hits: 1375
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Test 1400
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันอังคาร แม้ว่า SET INDEX จะมีความพยายามฟื้นตัว ผลักดันด้วยหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่เมื่อจีนประกาศขยายแบนด์การซื้อขายเงินหยวน 1.9% ทำให้เงินบาทอ่อนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ค่อนข้างเร็ว เกิดแรงขายในหุ้นหลัก โดยเฉพาะ AOT ส่วน ADVANC ลดลงมากกว่าเงินปันผลระหว่างกาล กดดัน SET INDEX ปิดลบถึง 11.81 จุด มาอยู่ที่ 1,408.32 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,900 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางวันที่ 5 ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีก 1,215 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures วันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,940 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีกเล็กน้อย 122 ล้านบาท แม้ว่าเงินบาทจะอ่อนค่ามากถึง 20 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
นายกฯ ยืนยันพร้อมเสนอรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ คาดว่าจะเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้า หลังงาน Bike for Mom
ค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 35.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ วานนี้ คาดว่าการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างชาติผันผวนไปอีกสักพัก
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงอ่อนแอ จากแรงกดดันของอุปทานที่เพิ่มขึ้น
จีนกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนกลางเช้านี้ที่ 6.4010 หยวน/ดอลลาร์ จากวันก่อนหน้า 6.3306
มุมมองต่อตลาด
เราลดน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น "กลางถึงลบ" ครั้งแรกในรอบ 26 วันทำการ SET INDEX มีโอกาสทดสอบแนวรับ 1,400 จุด อีกครั้ง จากการขยายกรอบค่าเงินหยวนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความผันผวนในสินทรัพย์แทบทุกประเภททั่วโลก เราประเมินผลกระทบดังกล่าวเป็นเพียงระยะสั้น ดังนี้
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ กลับอ่อนค่า 0.91% ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา แต่เงินยูโรกลับแข็งค่าอย่างโดดเด่น 1.32%
ราคาน้ำมันดิบปรับฐานลงแรง จากความอ่อนแอของอุปสงค์น้ำมันในจีนที่เติบโตต่ำ ขณะที่อุปทานจากกลุ่มโอเปคกลับเพิ่มขึ้น เท่ากับว่าอัตราเงินเฟ้อในเอเชีย ซึ่งเป็นประเทศบริโภคน้ำมันเป็นหลัก จะยังสามารถอยู่ในระดับต่ำ เอื้อต่อการคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายได้ต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีน เพราะตลาดกังวลถึงความสามารถในการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนได้รับผลกระทบ แต่เราเชื่อว่าประเด็นนี้มีน้ำหนักจำกัด และเป็นช่วงสั้นๆ เท่านั้น
จับตาอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ริงกิต มาเลเซีย / รูเปียะ อินโดนีเซีย และวอน เกาหลีใต้ เพราะดุลบัญชีเดินสะพัดที่เปราะบาง และ/หรือ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ ปัจจัยนี้ อาจทำให้ตลาดหุ้นของประเทศเหล่านี้ปรับฐานลงแรง รวมถึงตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่อื่นๆ อย่าง TAIEX / PSE / เวียดนาม ต่างชาติซื้อสุทธิหนาแน่นนับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา อาจเผชิญกับการปรับพอร์ตหุ้นที่ค่อนข้างแรงในช่วงนี้
คาดกนง. จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ในการประชุมนัดหน้า หลังค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 35.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ กลับมองว่าการขยับของธนาคารกลางจีนครั้งนี้ เพื่อให้ค่าเงินหยวนระหว่าง Onshore - Offshore ใกล้เคียงกัน และนำไปสู่การพิจารณานำเงินหยวนเข้าสู่ SDR ที่ IMF จะมีพิจารณาในปลายปีนี้
สำหรับตลาดหุ้นไทย แรงขายจากต่างชาติยังคงดำเนินต่อไป เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชียเกิดใหม่ อีกทั้งกลุ่มน้ำมันที่เผชิญกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับฐานลงแรง ย่อมกดดันในภาพรวมของการลงทุน อย่างไรก็ตาม แรงขายจากกลุ่มน้ำมัน ย่อมมีกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มท่องเที่ยว ช่วยลดแรงกดดันได้ในระดับหนึ่ง ประเด็นการปรับครม. โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ที่อาจเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ในสัปดาห์หน้า เรียกความเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง พิจารณาเข้าซื้อเก็งกำไรแบบจำกัดวงเงินบริเวณ 1,400 จุด +/- เน้นหุ้นที่งบ 2Q58 เติบโตเด่น และมีแนวโน้มเป็นบวกต่อในช่วงที่เหลือของปีนี้"
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH
Accumulative Buy: INTUCH
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "สะสม" ได้แก่
1. INTUCH : ราคาปิด 80.25 บาท ราคาเหมาะสม 105.00 บาท
a) INTUCH จะรายงานผลประกอบการ 2Q58 ในวันนี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบ yoy หลังบริษัทลูกทั้ง ADVANC, THCOM รายงานกำไรสุทธิ 2Q58 ขยายตัว yoy และทรงตัว qoq
b) คาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 2.30 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 2.9%
c) ปัจจัยบวกจากการประมูล 4G ในช่วงเดือน พ.ย.จะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสื่อสารให้ปรับตัวขึ้นใน 2H58 และเชื่อว่า ADVANC จะเป็นตัวเต็งในการประมูลเนื่องจากฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดย MBKET ประเมินว่า ADVANC จะชนะใบอนุญาต 4G คลื่น 900 และ 1800 MHz อย่างละ 1 ใบ
d) ราคาหุ้นมีส่วนลด 12.8% จาก NAV ของมูลค่าเงินลงทุนใน ADVANC, THCOM ที่หุ้นละ 92.32 บาท จึงแนะนำทยอยสะสมเพื่อรับเงินปันผล
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิอีก US$607 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติชะลอตัว
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีก 1,215 ล้านบาท รวม 7 วันทำการ ขายสุทธิ 8,077 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิ 50,168 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติกลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,940 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Short อีกครั้ง แม้ว่า S50U15 ปิดต่ำกว่า Set50 Index แคบลงเป็นวันที่ 2 เหลือ 10.91 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 12.45 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิเท่ากับ 49,130 สัญญา ทั้งนี้ติดตามแนวรับ SET50 Index บริเวณ 900 จุดในรอบนี้จะทำงานได้อย่างแข็งแกร่งหรือไม่
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 อีกเล็กน้อย 122 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,597 ล้านบาท น่าจะเป็นการโยกเงินบางส่วนจากตลาดหุ้นเข้าพักในตลาดตราสารหนี้ ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลง ผ่านผลตอบทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 0.58bps จากวันก่อนหน้าผลตอบแทนลดลง 0.06bps ปิดที่ 2.791%
ขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้กลับทยอยเปิดสถานะ Long ใน Metal Futures อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Long สุทธิอีก 2,346 สัญญา รวม 3 วันทำการ Long สุทธิ 3,689 สัญญา คาดว่าการมีสถานะ Long ใน Metal เพื่อเก็งกำไรต่อการฟื้นตัวของทองคำในตลาดโลก บวกกับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เป็นตัวเพิ่มผลกำไรด้าน Long
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 เป็น 721 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 411 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 เลือกพักเงินใน SCC อย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก 469 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 190 ล้านบาท รวม 5 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,722 ล้านบาท โดย NVDR ยังคงเลือกเน้นสะสม SCC สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ถูกซื้อสุทธิสูงสุด 754 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 134 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 180 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 97 ล้านบาท และกลุ่มท่องเที่ยว ซื้อสุทธิ 45 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มขนส่งถูกขายสุทธิสูงสุด 302 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 392 ลานบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ขายสุทธิ 96 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
IEA คาดราคาน้ำมันดิบจะฟื้นตัวในปีหน้า: ภายใต้สมมติฐานกำลังการผลิตน้ำมันจากนอกกลุ่มโอเปคะเริ่มลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 ในปีหน้า ขณะที่ประเทศต่างๆ จะยังคงเพิ่มปริมาณสำรองน้ำมันอย่างต่อเนื่อง และระดับปริมาณสต็อกจะเริ่มลดลง 4Q59 หรือหลังจากนั้น หากมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ส่งผลให้ปริมาณการ Oversupply เฉลี่ย 1.4 ล้านบาร์เรล/วันใน 2H58 และจะลดลงเป็น 850,000 บาร์เรล/วันในปี 2559 เทียบกับระดับ 3.0 ล้านบาร์เรล/วันใน 2Q58 ซึ่งเป็นระดับ oversupply สูงสุดในรอบ 17 ปี
ยุโรป
กรีซ และ เจ้าหนี้ ได้ข้อสรุปเงื่อนไขการช่วยเหลือรอบ 3: การเจรจาระหว่าง EC / ECB / IMF / ESM ได้ข้อสรุปแนวทางการช่วยเหลือกรีซรอบที่ 3 ด้วยวงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโร
ด้านรัฐสภาเยอรมัน ยังไม่สามารถรับรองแผนช่วยเหลือกรีซ: ส่งผลให้เงินกู้ Bridging loan จะยังเป็นทางเลือกให้แก่กรีซ หากแผนช่วยเหลือฉบับที่ 3 ไม่สามารถอนุมัติได้ทันเวลา เพื่อให้กรีซนำเงินไปชำระหนี้ที่ครบกำหนดของ ECB ในวันที่ 21 ส.ค. เนื่องจาก รัฐบาลในอียูต้องการเวลาในการพิจารณาและประเมินเบื้องต้นของแผน
อัตราการว่างงานอังกฤษเพิ่มขึ้น: แรงงานที่ต้องการหางาน เพิ่มขึ้น 25,000 ตำแหน่ง เป็น 1.85 ล้านตำแหน่ง ส่วนการจ้างงานรวมกลับลดลง 63,000 ตำแหน่งใน 2Q58 แม้ว่าอัตราการว่างงานรวมจะทรงตัวที่ 5.6%
จีน
ธนาคารกลางจีนขยายกรอบการซื้อขายเงินหยวนตลอด 2 วันทำการที่ผ่านมา
วันแรก 11 ส.ค. ขยายกรอบการซื้อขาเงินหยวนมากถึง 1.9% เป็นการขยายกรอบมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2537 โดยเป็นการปรับกรอบเพียงครั้งเดียว และเพื่อต้องการให้ค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพและอยู่ในระดับที่เหมาะสม
วันที่ 12 ส.ค. ธนาคารกลางจีนได้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1.6% ต่ำกว่าค่ากลาง
ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาต่ำกว่าคาดต่อเนื่อง:
ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 10.5% yoy ในเดือน ก.ค. ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 10.6% yoy และต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดเพิ่มขึ้น 10.6% yoy
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค.ขยายตัว 6.0% yoy ชะลอตัวลงแรงจากเดือนก่อนที่ 6.8% yoy และต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดที่ 6.6% yoy สำหรับผลผลิตใน 7M58 เพิ่มขึ้น 6.3% yoy ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อยที่ 6.4% yoy
เอเชียแปซิฟิก
สิงคโปร์ปรับประมาณการ GDP ปีนี้ลง: ประเมินเศรษฐกิจเติบโต 2.0-2.5% ในปีนี้ ลดลงจากประเมินครั้งก่อนที่ 2.0-4.0% หลังเศรษฐกิจ 2Q58 เติบโต 4.0% yoy ชะลอตัวจาก 1Q58 ที่ขยายตัว 4.1% yoy เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวมากกว่าคาดใน 1H58 และช่วงที่เหลือของปีจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
กลุ่มโอเปครายงานกำลังการผลิตน้ำมันสูงสุดในรอบ 3 ปี: ในเดือนก.ค. กลุ่มโอเปค ผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 100,700 บาร์เรล/วัน เป็น 31.5 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2555
ตัวเลขเศรษฐกิจอินเดียออกมาเชิงบวก:
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 3.8% yoy สำหรับเดือน มิ.ย. เป็นการเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 2.5% yoy และดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด 3.5% yoy นำโดยภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น 4.6% yoy
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ค.ชะลอตัวลงอยู่ที่ 3.78% yoy จากเดือนก่อนที่ 5.40% yoy และต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด 4.40% yoy ซึ่งเป็นไปตามที่ธนาคารกลางอินเดียคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า นอกจากนี้ธนาคารกลางคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือน ก.ย.
ไทย
จีนลดค่าเงินหยวน ไม่กระทบไทย ชี้ส่งออกแย่ทั่วโลก: รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากที่ประเทศจีนลดค่าเงินหยวน เชื่อว่า จะไม่กระทบกับประเทศไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว แม้ว่านักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในไทยต้องจ่ายแพงขึ้นประมาณ 2% ถือว่าไม่มาก เพราะหากต้องเคยเสียค่าพักคืนละ 2,000 บาท ก็ต้องจ่ายเป็น 2,040 บาท เท่านั้น อย่างไรก็ตาม การลดค่าเงินหยวนของจีนเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นปัญหาที่ทุกประเทศประสบและหาทางการแก้ไข ซึ่งการลดค่าเงินก็เป็นแนวทางหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาหากดูปริมาณการส่งออกไม่ได้ลดลงมาก แต่ด้านราคาลดลงมากซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันลดลงมาก
สปช.นัดเสวนาแลกเปลี่ยนความเห็นร่างรธน. 1 ก.ย. ก่อนลงมติ 5-7 ก.ย.: โฆษกกรรมาธิการ(กมธ.)ปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ กมธ.ปฏิรูปการเมืองจะนัดประชุมเพื่อพิจารณาถึงเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญหลังจาก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ส่งร่างรัฐธรรมนูญให้กับ สปช.แล้ว ในวันที่ 1 ก.ย. กมธ.ปฏิรูปการเมือง จะร่วมกับ กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธานฯ จะร่วมจัดเวลาเสวนาเพื่อให้ สปช.เข้าร่วมแสดงความเห็นและอภิปรายเกี่ยวกับเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะตัดสินใจรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะนัดประชุมเพื่อลงมติในวันที่ 5-7 ก.ย.นี้
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530