- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 11 August 2015 17:56
- Hits: 4814
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
กังวลเศรษฐกิจโลก
คาดว่าดัชนี SET จะปรับตัวลดลงในวันนี้หลังจากที่เรามองว่าประเด็นข่าวในเชิงลบต่างๆ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศจะกดดันภาพรวมเศรษฐกิจไทย สำหรับปัจจัยในประเทศพบว่าสภาองค์การนายจ้างฯ ที่ล่าสุดรายงานกำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการใช้ที่อ่อนแอทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศพบว่าแวดล้อมไปด้วยมุมมองลบจากทั้งสัญญาณเตือนล่าสุดจาก PBOC การหดตัวที่ผิดคาดของเศรษฐกิจเยอรมนี รวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ที่กำลังจะใกล้เข้ามา
หุ้นเด่นวันนี้ : SAWAD (ราคาปิด 38.25 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 58 ของ AWS 48.00 บาท)
บมจ. ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรายย่อยลำดับต้นๆ ที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงเพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่ไม่สามารถขอสินเชื่อจากธนาคารได้ รัฐบาลพยายามกำจัดการกู้เงินนอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูงเกินจริงซึ่งเป็นประโยชน์ต่อแนวทางการทำธุรกิจของ SAWAD และทำให้บริษัทมีการเติบโตสูงอีกด้วย นอกจากนี้ SAWAD ได้ลงทุนในธุรกิจรับติดตามทวงถามหนี้สินและจัดการสินทรัพย์ที่อาจได้รับความเสียหายจากการล้มละลายเพื่อเสริมกำไรหลัก เราประมาณการอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 3 ปีแบบสะสม (CAGR) อยู่ที่ 38% ระหว่างปี 2557-2560 อิงจากการเติบโตของสินเชื่อที่สูงมากจากการขยายสาขาอย่างรวดเร็วและส่วนต่างดอกเบี้ยที่มากขึ้น ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ NPL ratio อยู่ที่ระดับ 5.7% สิ้นปี 2557 Price Pattern ของ SAWAD ที่เคยแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 37.25-42 บาท แล้วเกิดการหลุดจากกรอบการแกว่งตัวดังกล่าวลงไป
จนกระทั่ง Price Pattern ของ SAWAD ได้เกิดสัญญาณ Doji ซึ่งมีนัยสำคัญที่เป็นการบ่งบอกถึง Reversal Pattern โดยมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 37.25 บาท ซึ่งเป็นกรอบล่างที่ SAWAD ได้หลุดลงจากกรอบดังกล่าวไปก่อนหน้านั้นนั่นเอง (เราเคยแนะนำเล่นเก็งกำไรใน SAWAD จากการที่ Price Pattern ของ SAWAD มีรูปแบบที่เรียกว่า Reversal Pattern แม้ว่าในขณะนั้น Price Pattern ของ SAWAD ยังไม่ได้เกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ก็ตาม โดยไปขายทำกำไรระยะสั้นที่ 37.25 บาท) ล่าสุด Price Pattern ของ SAWAD กลับมาเกิดความแข็งแกร่งครั้งใหม่อย่างชัดเจนจาก 1) Price Pattern ของ SAWAD ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ และ 2) Price Pattern ของ SAWAD สามารถปิดตลาดเหนือแนวต้านสำคัญที่ 37.25 บาทได้สำเร็จ เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ SAWAD ที่ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ คาดว่า Price Pattern ของ SAWAD ในระยะสั้นน่าจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเพื่อไปทดสอบเป้าหมายสำคัญที่ 39.25 บาท (แนวต้านอยู่ที่ 38.50, 38.75, 39.25; แนวรับอยู่ที่ 38.00, 37.50, 37.25)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
กำลังการผลิตลดลงในครึ่งแรกของปี 58 สภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (EconThai) รายงานว่าการจ่ายโอทีของครึ่งแรกปีนี้ลดลงถึง 21.1% ขณะที่กำลังความสามารถในการผลิตลดลงสู่ 55% สภาองค์การนายจ้างฯ กล่าวว่าผลสำรวจคาดการณ์สำหรับครึ่งปีหลังยังคงดูอ่อนแอ โดยกำลังการผลิตน่าจะคงที่ (Bangkok Post)
ภาษีมรดกมีผล ม.ค.หน้า ตามที่กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันพุธ ภาษีมรดกและการรับให้ทรัพย์สินมีผล ม.ค.ปีหน้า สำหรับการรับมรดกจะถูกเก็บที่อัตรา 5% สำหรับมรดกมูลค่าเกิน 100 ลบ. และ 10% สำหรับกรณีอื่น สำหรับการให้ทรัพย์จะเก็บที่อัตรา 5% ในส่วนที่มากกว่า 20 ลบ.สำหรับผู้สืบทอด ขณะที่ผู้ไม่ใช่ทายาทจะถูกเก็บในอัตราเดียวกันสำหรับส่วนที่มากกว่า 10 ลบ. (Bangkok Post)
จำนวนผู้โดยสารต่างประเทศยังเติบโตต่อ ตามข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA), การเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารซึ่งวัดในรูปรายได้ต่อคนต่อกิโลเมตร (RPKs) เพิ่มขึ้น 5.7% YoY ในเดือน มิ.ย. จากอุปสงค์การท่องเที่ยวที่ยังแข่งแกร่ง แต่การขนส่งสินค้าทางอากาศวัดในรูปตัน-กิโลเมคร (FTK) เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย 1.2% สะท้อนการปรับลดลงของกิจกรรมทางการค้า (Bangkok Post)
รายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเพิ่มขึ้น 30% ค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 30% หลังการปรับราคาประเมินที่ดินใหม่ตามกรมธนารักษ์ คาดว่าจะทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเพิ่มขึ้น 30-50 พันลบ. จากที่ดิน 32 ล้านผืน โดยที่ดิน 8 ล้านผืนได้ประเมินใหม่แล้วมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 30% (Bangkok Post)
COM7 (บมจ. คอมเซเว่น) ผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีในนาม "Banana IT" ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายสินค้า ไอทีที่มีสาขามากที่สุดในประเทศ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้ COM7 ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ร้าน Banana IT, Banana Mobile และจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple ด้วย โดยมีสาขาถึง 317 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดกว่า 55 จังหวัด (SET)
MAJOR (33.25 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q58 อยู่ที่ 491 ลบ. เพิ่มขึ้น 147% QoQ และ 10% YoY ซึ่งเป็นไตรมาสที่รายงานกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หากไม่รวมรายการพิเศษ จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 430 ลบ. เพิ่มขึ้น 162% QoQ และ 10% YoY. การเพิ่มขึ้นในรูป YoY เป็นผลจากการเข้าฉายของหนังฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง และอัตราการทำกำไรที่ยังรักษาระดับได้ดี MAJOR ยังประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.55 บาทต่อหุ้น, XD 20 ส.ค.58 (SET) ความเห็น: ผลประกอบการออกมาดีกว่าที่ bloomberg consensus คาดการณ์ไว้ที่ 397 ลบ.หรือมากกว่า 8% YoY เราคาดว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังจะยังคงสดใสและคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 58 ที่ 38 บาท
PTTGC รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q58 อยู่ที่ 8.97 พันลบ. สูงขึ้น 59% QoQ และ 47% YoY และถือว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ (ประมาณการกำไรจาก Bloomberg consensus ที่ 8.42 พันลบ.) โดยธุรกิจโอเลฟินส์เป็นตัวขับเคลื่อนกำไรสุทธิในไตรมาสสองอย่างโดดเด่น หลังจากที่ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและ Spread ราคาเทียบต้นทุนสามารถยืนตัวได้ในระดับสูง ขณะที่ผลการดำเนินงานธุรกิจโรงกลั่นปรับตัวสูงขึ้น QoQ จากการบันทึกกำไรสต็อกน้ำมันตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบโลก ขณะที่กำไรจากการกลั่นปกติอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า เช่นเดียวกับธุรกิจอะโรเมติกส์ที่ได้รับอานิสงค์จากการบันทึกกำไรสต็อก ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานปกติทรงตัว (SET) ความเห็น: ถึงแม้ PTTGC จะเผชิญกับปัจจัยลบต่างๆ ในช่วงสั้น อาทิ การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ (สร้างความเสียเปรียบให้กับผู้ผลิตปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ที่ใช้ก๊าซเป็นต้นทุนวัตถุดิบ) ประกอบกับการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานปิโตรเคมีที่นานกว่าคาดในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตามในระยะยาว PTTGC จะได้แรงหนุนจากภาวะขาขึ้นของโอเลฟินส์ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า รวมถึงการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เบื้องต้นเรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมายปี 58 ที่ 71.60 บาท
ต่างประเทศ :
กรีซจะเจรจาเสร็จสิ้นในสัปดาห์นี้ กรีซใกล้จะร่างข้อตกลงขอรับความช่วยเหลืองวดที่สามแล้วเสร็จภายในวันอังคารนี้และมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับเงินช่วยเหลืองวดแรกภายในวันที่ 20 สิงหาคม จากแหล่งข่าวที่มีความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียู บรรดารัฐมนตรีคลังในเขตยูโรอาจมาพบปะกันหรือจัดประชุมทางวีดิทัศน์ในวันศุกร์นี้เพื่อลงนามอนุมัติเงินกู้จำนวน 8.6 หมื่นล้านยูโร (Reuters)
สหรัฐ :
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรยังแข็งแกร่ง ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเป็น 215,000 ตำแหน่ง ขณะที่ค่าจ้างต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.2% เทียบกับคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 223,000 ตำแหน่ง หรือ 0.2% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม มีการแก้ไขตัวเลขในเดือนพ.ค. และมิ.ย. ว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีก 14,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานในเดือนก.ค. อยู่ที่ 5.3% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 7 ปี (Reuters)
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงเนื่องจากความกังวลในการดำเนินนโยบายแบบควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ข่าวดีกลายเป็นข่าวร้าย ข้อมูลแสดงถึงเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งนำไปสู่การเทขายทั้งกระดาน ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.27% ดัชนี S&P500 ร่วงลง 0.29% และดัชนีแนสแดคปิดลดลง 0.26% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 1.8% ดัชนี S&P500 ลดลง 1.2% และดัชนีแนสแดคลดลง 1.7% (Reuters)
ยุโรป :
ตัวเลขการสั่งสินค้าของเยอรมนีชะลอตัวในเดือนมิ.ย. แต่ยอดการสั่งซื้อยังมีแนวโน้มสดใส ตัวเลขการสั่งสินค้าของเยอรมนีในเดือนมิ.ย. ลดลง 1.4% สวนทางกับความคาดหวังว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ต้องปรับประมาณการไตรมาส 2/58 โดยด่วน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวแสดงถึงยอดการสั่งซื้อของอุตสาหกรรมที่มากที่สุดนับแต่ต้นปี 2554 เนื่องจากมีความต้องการจากต่างประเทศสูง (Reuters) ความเห็น: มีการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/58 ของเยอรมนีในวันศุกร์นี้ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้น 0.5% QoQ
เอเชีย :
BOJ แถลงยังคงมาตรการ QQE กระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ต่อไป และคงมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจ ผู้ว่าฮารู ฮิโกะ คุโรดะ กล่าวว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคฟื้นแล้วในเดือน ก.ค. และมองว่าการส่งออกจะต่อยๆฟื้นตัว แต่จากการสำรวจของรอยเตอร์ นักเศรษฐศาสตร์เฉลี่ยมองว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัว 1.9% YoY ในไตรมาส 2 หลังจากขยายตัว 3.9% YoY ในไตรมาสที่ 1 ซึ่งเท่ากับการหดตัว 0.5% QoQ สำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ในวันที่ 17 ส.ค.(Reuters)
ญี่ปุ่นเกินดุลบัญชี เดินสะพัดเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกันในเดือน มิ.ย. ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่น 5.586 แสนล้านเยน (4.49 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนมิ.ย. เทียบกับนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเกินดุล 7.736 แสนล้านเยน (Reuters)
ทางการจีนถูกกดดันให้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาออกมาน่าผิดหวังตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน ก.ค. ลดลง 5.4% YoY เทียบกับนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะหดตัว 5.0% ถือว่าย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2009 และลดลงเป็น เดือรที่ 40 ติดต่อกันแล้ว การลดลงของ PPI เป็นสัญญาณไม่ดี เพราะหมายถึง กำไรของธุรกิจอุตสาหกรรมทั้งหมดและเหมืองแร่หดตัว การส่งออกร่วงลง 8.3% ในเดือน ก.ค. ร่วงลงมากสุดใน 4 เดือน จากอุปสงค์ในตลาดโลกของสินค้าจีนอ่อนแอแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะหดตัวเพียง 1.0% (Reuters)
ธนาคารกลางจีนเตือนเศรษฐกิจจีนจะชะลอ PBOC กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวใน 2-3 เดือนข้างหน้าจากการดำเนินความพยายามในการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน เศรษฐกิจจีนยังคงขึ้นอยู่กับมาตรการของทางการในการรักษาสมดุลระหว่างเสถียรภาพและการสร้างการเจริญเติบโตโดยผ่านการลงทุนภาครัฐ (Reuters)
หุ้นจีนพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ จากรายงานมีเม็ดเงินมหาศาลพร้อมจะกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้น จากรายงานข่าวของ Bloomberg ที่บริษัทอำนวยสินเชื่อซื้อหุ้นของทางการจีน เตรียมเงินที่พร้อมลงทุนในหุ้นอีก 2.0 ล้านล้านหยวน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ประกาศตัวเลขจ้างงานส่งผลต่อราคาทอง ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรแข็งแกร่งทำให้หุ้นลง กลับทำให้ทองคำตลาดจรปรับขึ้นเล็กน้อย 4.7 ดอลลาร์ สู่ 1,093.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากผู้ค้าโภคภัณฑ์พิจารณาว่าการสร้างงานต่ำกว่าที่คาด (Reuters) ความเห็น: สาเหตุที่ทำให้ทองคำปรับขึ้นน่าจะเป็นเพราะทองได้ปรับตัวลงมาลึกมากแล้วระยะหนึ่ง และด้วยทองตลาดจรปรับลดลง 1.6 ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ถือว่าลดลงมา 7 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว
ราคาน้ำมันดิบร่วงจากความกังวลอุปทานสหรัฐล้น ตามที่มีรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้น 6 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา และถือเป็นจำนวน 32 แท่นในรอบระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา NYMEX ปิดลง 79 เซนต์หรือ 1.8% สู่ระดับ 43.87 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 91 เซนต์หรือ 1.8% มาอยู่ที่ 48.61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094