- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 10 August 2015 18:21
- Hits: 1326
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -46.37, NASDAQ -12.90, S&P -5.99, FTSE -28.60, CAC -37.36 และ DAX -94.27 หลังสหรัฐฯ เปิดเผย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร – กค. เพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง สอดคล้องกับคาดการณ์ และลดลงจากที่เพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่ง เมื่อเดือนมิย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เมย.’51 แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง แต่เป็นระดับที่แข็งแกร่ง ทำให้คาดว่าเฟดอาจตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า (16 – 17/9/58)
.....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยลบเพิ่มจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี – มิย. ลดลง 1.4 %สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และตัวเลขนี้ทำให้อาจมีการทบทวนคาดการณ์เศรษฐกิจเยอรมนีใน 2Q/58
.....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน กย. -US$0.79 อยู่ที่ US$43.87 ต่อบาร์เรล ภายใต้ความกังวลภาวะอุปทานล้นตลาด หลังล่าสุดโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยปัจจุบันตลาดน้ำมันโลกมีปริมาณน้ำมันส่วนเกินอยู่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับระดับ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วง 6M/58 และหากการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้ จะทำให้อิหร่านสามารถผลิตและส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นด้วย
......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธค. +US$4.0 อยู่ที่ US$1,094.1 ต่อออนซ์ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานข้างต้น ทำให้คาดว่า เฟดอาจตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามยังมีความไม่แน่นอนอยู่และอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,741 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -48,136 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : แกว่งแคบ? แม้ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังถูกกดดันจากประเด็นในประเทศ (-) ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี ทั้งการบริโภคในประเทศ การลงทุนภาคเอกชน และส่งออก ขณะที่ Fund Flow ล่าสุดต่างชาติขายสุทธิยังขายสุทธิต่อเนื่อง และทำให้ YTD มูลค่าขายสุทธิสูงกว่า 48,000 ล้านบาท ซึ่งยังแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ที่ยังมีทิศทางอ่อนค่า และคาดยังส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงหุ้นในกลุ่มพลังงานที่มีโอกาสลดลงตามราคาน้ำมัน
.....อย่างไรก็ตามคาดมีแรงเก็งกำไร (1) กลุ่มธนาคาร จากแรงกดดันส่วนต่างดอกเบี้ยลดลงในช่วง 2H/58 หลัง กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% และ (2) อยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงาน – ต้นสัปดาห์หน้า
….ทางด้านประเด็นต่างประเทศ คาดได้รับปัจจัยกดดันจากความเป็นไปได้ที่เฟดอาจมีการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี หลังตัวเลขการจ้างงานออกมาตามคาด ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่ง สอดคล้องกับการส่งสัญญาณของประธานเฟดในช่วงก่อนหน้านี้
...และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC และ BCP หลังผลการดำเนินงาน 2Q/58 ออกมาโดดเด่น เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, CK, SEAFCO และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 35.09 – 35.11 คาดส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO, VNG เป็นต้น (5) กลุ่มท่องเที่ยวยังคงได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หุ้นที่ได้รับผลดี เช่น CENTEL และ (6) หุ้นในกลุ่มเดินเรือ เช่น TTA และPSL ที่คาดมีแรงเก็งกำไรตามดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ล่าสุดอยู่ที่ 1,200 – 1,220 ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดนับจากต้นปี’58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.06 อยู่ที่ 2.17% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.38 มาอยู่ที่
13.39
หุ้นแนะนำ : AAV
ประเด็นที่ต้องติดตาม (10 - 14 สค.’58)
10/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีแนวโน้มการจ้างงาน (ETI) - สค.
11/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงาน ต่อหน่วย – 2Q/58 (2) สต็อกสินค้าและยอดค้าส่ง - มิย.
12/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกน้ำมัน (2) งบประมาณของรัฐบาลกลาง - กค.
13/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ราคานำเข้าและส่งออก - กค. (3) ยอดค้าปลีก - กค.
(4) สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ - มิย.
14/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) - กค. (2) การผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิต - ก.ค.
(3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้น - สค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788