- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 07 August 2015 17:10
- Hits: 1565
บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) : Market Comment
ค่าเงินในภูมิภาคอ่อนค่าเพิ่มเติมในระยะสั้น
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลง จากแรงขายหุ้นกลุ่มสื่อ จากการเปิดเผยผลประกอบที่ต่ำกว่าคาด ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.69%, -1.62%, -0.78%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังราคาน้ำมันดิบยังลงต่อ ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.44%, -0.08%, -0.09%, -0.42%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 0.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 0.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่าตลาดน้ำมันโลกกำลังเผชิญภาวะอุปทานส่วนเกินที่สูงขึ้น
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนที่ชัดเจน และยังอยู่ในช่วงการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/58 อยู่ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ยังต้องการรอดูผลประกอบการเพื่อประเมินเป้าหมาย SET Index ใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับลดคาดการณ์การส่งออกของไทยในปี 58 ลงเป็นติดลบ 3.0% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 1.2% ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเฉลี่ย 60 ดอลลาร์/บาร์เรล ค่าเงินบาท 35 บาท/ดอลลาร์ และราคาสินค้าเกษตรยังไม่ฟื้น ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร ทำให้ประเทศคู่ค้านำเข้าสินค้าลดลงอย่างมาก
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เกษตร และน้ำมันปรับลดลงไปมาก ประกอบกับการส่งออกรถยนต์ที่ปรับลดลงอย่างมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนรุ่นรถกระบะ ซึ่งตลาดรถกระบะมีส่วนแบ่งการตลาดคิดเป็น 11% ของมูลค่าการส่งออกของไทย แต่คาดว่าตลาดรถยนต์จะกลับมาเป็นบวกในช่วง 2-3 นับจากนี้ ทางด้านประธานสอท. ระบุว่า ภาคเอกชนเตรียมพร้อมรับมือกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง เช่น การเปิดตลาดใหม่ ๆ ปรับทิศทางการค้าชายแดนให้สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น ทั้งนี้รอบ ๆ บ้านไม่ว่าจะเป็นพม่า เวียดนาม และลาว ถือว่ามีเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดีกว่าไทย เชื่อว่าคำสั่งซื้อส่วนใหญ่จะเข้ามาช่วงปลายไตรมาส 3 ซึ่งในส่วนของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา น่าจะช่วยผู้ประกอบการได้บ้างในเรื่องของกำไร
ส่วนปัจจัยต่างประเทศนั้นเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มสื่อ อาทิเช่น นิวยอร์ก ไทม์ส ทเวนตี้-เฟิร์สท์ เซนจูรี ฟ็อกซ์ อิงค์ เวียคอม ไทม์ วอร์เนอร์ วอลท์ ดีสนีย์ ซึ่งผลประกอบการออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ในขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเช่นกันจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเมื่อคืนนี้ยังคงปรับตัวลงเล็กน้อย จากความวิตกกังวลอุปทานพลังงานที่มากขึ้น สอดคล้องกับโกลด์แมน แซคส์ ที่ระบุว่า ตลาดน้ำมันโลกกำลังเผชิญภาวะอุปทานส่วนเกินที่สูงขึ้น นอกจากนี้ตลาดยังกังวลการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้ จะทำให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น ส่วนสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาคระยะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการอ่อนค่าเพิ่มเติมของค่าเงินริงกิตมาเลเซีย และรูเปียห์อินโดนีเซียที่อ่อนค่าจากต้นปีขึ้นไปสู่ระดับ 12% และ 9% ตามลำดับ ซึ่งอาจกดดันให้ค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค ซึ่งอาจส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยในแง่ของเม็ดเงินลงทุนที่อาจชะลอชั่วคราว
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ต่ำกว่าระดับ 1,420 จุด แนะนำ ชะลอการเก็งกาไร
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (0) 2682 9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]