- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 07 August 2015 16:58
- Hits: 942
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET แกว่งตัวซึมต่อ
SET View
;แนวโน้ม สิ่งที่พอจะเป็นความหวังต่อการฟื้นตัวของ SET ได้ในระยะสั้น คือ ในทางเทคนิค SET ยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันบริเวณ 1430 จุด แต่หากหลุด 1430 จุด SET จะย้อนกลับไปตั้งหลักแถว 1420 จุด หรือมีความเสี่ยงขาลงราว 10 จุด เรายังมองทิศทาง SET เป็นการแกว่งตัวออกข้างเช่นเดิม
สัปดาห์หน้าเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลรายงานงบ 2Q58 ทำให้ตลาดยังคงแกว่งตัวผันผวน จากการเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัวเป็นหลัก นอกจากนี้ มีโอกาสเห็นแรงซื้อหุ้นปันผลที่จะทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD ในสัปดาห์หน้า เช่น DCC, SCC, SCCC (ทั้ง 3 หุ้นขึ้น XD วันที่ 10 ส.ค.) และ ADVANC (XD 11 ส.ค.)
ข่าว/ดัชนีเศรษฐกิจ
วันนี้ คาด IVL และ MAJOR รายงานผลประกอบการ 2Q58
วานนี้ LPN รายงานกำไรสุทธิ 2Q58 เท่ากับ 822 ล้านบาท (+182% QoQ, +151% YoY) ดีกว่าที่เราคาดเล็กน้อยราว 4%
พร้อมกันนี้ LPN ประกาศจ่ายปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD 19 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ดี เราปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลง 7.7% เพื่อสะท้อนแรงกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง จากสมมุติฐานเดิม 32.6% เป็น 30.8%
กลยุทธ์การลงทุน : รอดูสถานการณ์ หรือเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่มีประเด็นบวกหนุน
Top Daily Pick : SAWAD (มูลค่าเหมาะสม 49.75 บาท) ราคาหุ้นพักตัวเล็กน้อยแต่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อ, เชิงพื้นฐาน คาดกำไร 2Q58 ทรงตัว QoQ (เนื่องจากเป็น Low season) แต่เติบโตแรงถึง 54% YoY และ PLANB (มูลค่าเหมาะสม 7.15 บาท) คาดกำไรสุทธิ 2Q58 เติบโตแรง 38% QoQ, 54% YoY, รุกธุรกิจในต่างประเทศ คาดปิดดีลลงทุนในมาเลเซียภายใน 3Q58 และอินโดนีเซียใน 4Q58
Technical Pick : SAMART UNIQ SALEE TH E (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)
Theme Plays : การประมูล 4G เริ่มนับหนึ่งในเดือนนี้ (ADVANC, INTUCH)/ หุ้นอสังหาฯที่ซื้อขายด้วย P/E ratio ค่อนข้างต่ำ (SPALI, QH) / หุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (KCE, SVI, SAPPE)/ หุ้นที่คาดว่า งบ 2Q58 เติบโตโดดเด่น (CK, LPN, SPALI, PLANB, SAPPE, SYNTEC)
Strategy Talk
คาดยังได้เห็นการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยอีกในระยะถัดไป
กระทรวงพาณิชย์ปรับลดคาดการณ์การส่งออกปีนี้ จากเดิม +1.2% YoY กลายเป็น -3% YoY เนื่องจากอุปสงค์จากประเทศคู่ค้าลดลง, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลงไปมาก, ตลาดรถยนต์หดตัวแรงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เพราะผู้ผลิตรายใหญ่รายหนึ่งปรับโมเดลรถกระบะ ส่งผลให้ในครึ่งแรกของปีนี้ ยอดส่งออกหดตัวถึง 4.8% YoY
หลายสำนักวิจัยโดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ ปรับลดคาดการณ์ส่งออกในเวลาใกล้เคียงกันในช่วงหลัง (ดูกราฟด้านล่าง) เรามองว่า การปรับลดคาดการณ์ส่งออก ย่อมส่งผลกระทบต่อประมาณการ GDP ไทยปีนี้ด้วย (ส่งออก คิดเป็น 70% ของ GDP) และประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งถือเป็นปัจจัยลบต่อ Sentiment ของ SET ล่าสุด ธปท. ให้ความเห็นว่า จะปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยในวันที่ 25 ก.ย. โดยหลักเป็นการลดสมมุติฐานการส่งออก ซึ่งน่าจะออกมาใกล้เคียงกับกระทรวงพาณิชย์ และ สศค.
ปิยะภัทร์ ภัทรภูวดล นักกลยุทธ์การลงทุน