- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 06 August 2015 16:48
- Hits: 1474
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อกรอบจำกัด ตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชี้แนวโน้มดอกเบี้ย
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ บวกแคบ/แกว่งตัว (วานนี้บวกกรอบจำกัด ตามคาด) การที่ กนง. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยใกล้ถึงจุดต่ำสุด (อ่านเพิ่มในบทวิเคราะห์เศรษฐกิจวันนี้ – คาดดอกเบี้ยจะไม่ลงแล้ว) ผนวกแรงเก็งกำไรหุ้นงบไตรมาส 2/58 โดดเด่นยังค้ำตลาด อย่างไรก็ดี SET จะขึ้นไม่แรงเพราะนักลงทุนส่วนหนึ่งรอประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ผ่านตัวเลขสำคัญในคืนวันที่ 7 ส.ค. ได้แก่การจ้างงานและอัตราว่างงานเดือน ก.ค. ด้านปัจจัยเมื่อคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีบ้างไม่ดีบ้าง ดัชนี ISM ภาคบริการพุ่งสูงสุดรอบเกือบ 10 ปี แต่ยอดจ้างงานเฉพาะภาคเอกชน (ADP private survey) +1.85 แสนคน ต่ำกว่าคาดพอสมควร ส่วนตลาดน้ำมันปรับฐานอีกครั้ง หลังสหรัฐฯ รายงานปริมาณผลิตน้ำมัน ก.ค. เพิ่มขึ้น และเทรดเดอร์ยังกังวลต่ออุปทานน้ำมันจากอิหร่านในระยะถัดไป ภาพรวม SET ยังอยู่ในช่วงไซด์เวย์ แนะนำเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางมีประเด็นเด่น ต่อไปก่อน
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร EA, BKD
EA (เป้าพื้นฐาน 22.7 บาท) 1) ราคาหุ้น Break แนวต้าน Sideway ที่ 21.7 บาทขึ้นมาได้ ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 22.5 บาท และ 23 บาท ตามลำดับ 2) ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนช่วงที่ผ่านมาปรับลงแรง จากการเลื่อนการประมูลงานต่างๆของทางการไฟฟ้าฯ แต่คาดในเดือน ส.ค.นี้จะเริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ (ดูย่อหน้าถัดไป) ... วันนี้บริษัทฯจัดงานเยี่ยมชมโครงการโซลาร์ฟาร์มขนาด 90MW ที่ จ.ลำปาง (COD ไปเมื่อเดือน ก.พ.)
BKD (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 4.2 บาท) 1) คาดกำไรไตรมาส 2/58 ±35 ล้านบาท (+170% QoQ) จากการรับรู้รายการส่งมอบงานโครงการมากขึ้น + ไม่มีการบันทึกหนี้สงสัยจะสูญราว 9.8 ล้านบาท จากหน่วยงานราชกาลเช่นในไตรมาสแรก (คาดจะทยอยบันทึกกลับภายในไตรมาสที่เหลือของปีนี้) 2) Backlog ปัจจุบัน 3 พันล้านบาท เพียงพอที่จะทำให้รายได้ปี 2558 – 2559 เติบโตเฉลี่ย 40% ต่อปี แม้จะไม่มีการประมูลงานตกแต่งสำนักงานหน่วยงานราชกาลที่ชะลอไปในช่วงปี 2557 - 58 (หากการประมูลกลับมาจะยิ่งเป็นบวก) 3) ต้นปี 2559 เตรียมบันทึกรายได้งานตกแต่งบ้านจัดสรรที่ประเทศกัมพูชาที่การก่อสร้างล่าช้าในปีที่ผ่านมา (มูลค่างานของ BKD รวม 1.5 ล้านบาทรับรู้ภายใน 3 ปี) 4) คาดบริษัทฯเตรียมสรุปแผนใช้เงินลงทุนธุรกิจใหม่ จากเงินที่จะได้จากการแปลงสภาพ BKD-W1 ใน ก.พ. 59 ราว 600 ล้านบาท (เป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการฯ) ... รูปแบบราคาสร้างฐานที่ ±3.4 บาท รอสัญญาณ Breakout แนวต้าน 3.50 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” จุด Stop loss ที่ 3.36 บาท
… กลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC, EA, GUNKUL) ราคาหุ้นในกลุ่มฯปรับลงแรงในเดือนที่ผ่านมาเราประเมินว่าเป็นโอกาส “ซื้อสะสมเพิ่ม” จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารหลายบริษัทฯ ล่าสุดโครงการต่างๆ อยู่ระหว่างพัฒนาตามแผน และบางส่วนอยู่ระหว่างรอการเปิดประมูลจากการไฟฟ้าฯ (ความล่าช้าของการไฟฟ้าฯเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในกลุ่มฯ) 1) คาดประกาศร่าง TOR โครงการโซลาร์สหกรณ์ฯภายใน ส.ค.58 (อย่างช้า ก.ย.58) และการเลื่อนกำหนด COD เป็นการยืดเส้นตายการขายไฟฟ้า ผู้ประกอบการที่ทำโครงการเสร็จก่อนจะขายไฟฟ้าก่อนก็ได้ 2) รอผลการประชุม กพช วันที่ 13 ส.ค. คาดมีความชัดเจนเรื่องแผนการประมูล FiT Bidding เพิ่มเติม แนะนำ “สะสม” IFEC ล่าสุดราคาปรับลงด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบาง ขณะที่ PE ปี 2559 ลดลงเหลือเพียง ±13 เท่า โครงการฯในปีนี้อาจล่าช้าจากภาครัฐฯเป็นสำคัญ แต่คาดไม่กระทบต่อประมาณการฯ ปี 2559 - 2560
… SAMART* (เป้า Consensus 30 บาท) 1) ราคาหุ้นปรับลงกว่า 50% สะท้อนงบไตรมาส 2/58 อ่อนแอแล้ว ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมฯ จะฟื้นตัวใน 2H58 - 2559 จากการเดินหน้าโครงการลงทุนระบบโทรคมนาคมต่างๆ + Upside จากโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 2,000MW คาดจะเซ็น MOU กับทาง กฟผ ในไตรมาส 4/58 2) ราคาเริ่มสร้างฐาน ±20.5 บาท แนะนำ “ทยอยสะสม” สำหรับการลงทุน 1 – 3 เดือน
… BANPU* (เป้า Consensus 30.5 บาท) 1) คาดงบไตรมาส 2/58 ทรงตัว QoQ ประเมินว่าราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมาในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมากว่า 20% สะท้อนแนวโน้มงบไตรมาส 2/58 ไปแล้ว เรายังคงประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 จะเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นแบบไตรมาสต่อไตรมาส จากการเริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าหงสา (เฟส 1 เดือน มิ.ย.58, เฟส 2 เดือน พ.ย.58 และเฟส 3 เดือน มี.ค. 59) 2) บ.ลูก BPP (ธุรกิจโรงไฟฟ้า) เข้า IPO ปีหน้า แนะนำ “ทยอยสะสม” สำหรับการลงทุน 1 – 3 เดือน
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: SCC*, KTB*, SAMART*, BANPU*
พอร์ตเก็งกำไร: IFEC, TSR, PLANB
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
GUNKUL* (คงแนะนำซื้อ เป้าพื้นฐาน 26.0 บาท ลดจาก 30.8 บาท) คาดกำไรไตรมาส 2/2558 ที่ 96 ล้านบาท, +99% QoQ แต่ -9% YoY แต่คาดกำไรจะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลังเนื่องจากงาน trading และ EPC ทั้งในส่วนของ solar farm และ wind farm และเราคงประมาณการกำไรปี 2558 ที่ 724 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2557
ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
(+) ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเดือน ก.ค.58 เพิ่มขึ้น 38% YoY (อินโฟเควสท์) ข่าวดังกล่าวยังคงเป็นบวกต่อธุรกิจในกลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มที่เกี่ยวเนื่อง (ได้แก่ กลุ่มสายการบิน และกลุ่มโรงพยาบาล) ซึ่งเราเห็นว่า ทิศทางเชิงบวกดังกล่าว นอกจากจะช่วยค้ำเศรษฐกิจในประเทศที่อยู่ในภาวะชะลอตัวในปี 2558 แล้ว ยังถือว่าสอดคล้องกับมุมมองที่คาดการณ์ไว้ว่า การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยยังคงต่อเนื่อง แม้ในช่วง low season ก็ตาม ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจากจีนและมาเลเซีย ยังคงครองสัดส่วนสูงสุดสองลำดับแรกในเดือน ก.ค.58 เรายังคงมุมมองทางบวกต่อกลุ่มสายการบินและกลุ่มโรงพยาบาล โดยมีหุ้น Top picks ได้แก่ AOT*, AAV*, BH* และ BDMS* ด้วยราคาเป้าหมาย 345, 6.36, 218 และ 24.30 บาท ตามลำดับ
(+) กระทรวงการท่องเที่ยวผลักดันมัลติเพิล วีซ่า (เดอะ เนชั่น) ข่าวดังกล่าวเป็นบวกต่อธุรกิจกลุ่มท่องเที่ยว, กลุ่มสายการบิน และกลุ่มโรงพยาบาล โดยเมื่อวาน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นายกฯ ได้ลงนามในกฎกระทรวงมหาดไทยภายใต้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 เปิดช่องทางให้ชาวต่างชาติจากทุกประเทศสามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้หลายครั้ง (multiple visa) ภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยมีค่าธรรมเนียม 5,000 บาท ซึ่งจะมีผลหลังจากลงในราชกิจจานุเบกษา 60 วัน ทั้งนี้ เราเห็นว่า ทิศทางธุรกิจกลุ่มท่องเที่ยวยังเป็นไปในทางบวก อีกทั้งยังช่วยค้ำเศรษฐกิจไทยอยู่ในขณะนี้เมื่อเทียบกับภาพรวม ซึ่งการปรับปรุงเรื่องดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในอนาคต
(+) GENCO ยันขายหุ้น PP ระดมเงิน ลงทุนอสังหาฯ-พลังงาน-ชำระหนี้ (ข่าวหุ้น) "GENCO" ยืนยันนำเงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุน PP จำนวน 2,300 ล้านบาท ลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ โครงการพลังงานขยะหรือพลังงานทางเลือก และชำระหนี้
Strategic SET daily
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘กรอบราคา 1432 – 1440 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1440 จุด อาจผลักราคาขึ้นทดสอบต้าน 1454 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1432 จุดนั้น อาจกดราคาลงทดสอบแนวรับ 1419 จุด
แนวรับวันนี้: 1432/1419 แนวต้านวันนี้: 1440/1454
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]