- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 05 August 2015 15:58
- Hits: 1625
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
เด้งสั้น ก่อนแกว่งตัวรอผลประชุม กนง. ช่วงบ่าย
KGI คาด SET วันพุธรีบาวด์สั้น ก่อนแกว่งตัว รอผลประชุม กนง. วันนี้ 14.30 น. (เมื่อวาน SET ลงแรงกว่าที่เราคาด) ทั้งนี้หาก กนง. ลดดอกเบี้ย 0.25% ตามมุมมองนักเศรษฐศาสตร์ KGI (ซึ่งเป็นกรณีเซอร์ไพรส์ตลาด) จะส่งผลดีต่อจิตวิทยา SET โดยรวมและหุ้นที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ย (อ่านรายละเอียดในส่วนถัดไป) แต่จะกดดันหุ้นกลุ่มธนาคารเล็กน้อย ด้านปัจจัยภายนอกเป็นกลาง ตลาดน้ำมันรีบาวด์เล็กน้อยแต่ยังอยู่ในทิศทางที่ไม่แข็งแกร่งหลังปริมาณผลิตน้ำมันกลุ่ม OPEC เดือน ก.ค. อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เงินดอลล่าร์ฯ แข็งค่าต่อหลังผู้ว่าเฟดแอตแลนตา Dennis Lockhart ให้สัมภาษณ์ชี้ว่าเจ้าหน้าที่เฟดพร้อมขึ้นดอกเบี้ยใน ก.ย. นี้ (มุมมองเดียวกับนักเศรษฐศาสตร์ KGI) ซึ่งประเด็นเรื่องเฟดนี้อาจกดดันให้ต่างชาติขายสุทธิต่อในช่วงสั้นนี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
รับเสี่ยงได้เก็งกำไร BKD, กลุ่มบ้าน AP* + SPALI*
BKD (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 4.2 บาท) 1) คาดกำไรไตรมาส 2/58 ±35 ล้านบาท (+170% QoQ) จากการรับรู้รายการส่งมอบงานโครงการมากขึ้น + ไม่มีการบันทึกหนี้สงสัยจะสูญราว 9.8 ล้านบาท จากหน่วยงานราชกาลเช่นในไตรมาสแรก (คาดจะทยอยบันทึกกลับภายในไตรมาสที่เหลือของปีนี้) 2) Backlog ปัจจุบัน 3 พันล้านบาท เพียงพอที่จะทำให้รายได้ปี 2558 – 2559 เติบโตเฉลี่ย 40% ต่อปี แม้จะไม่มีการประมูลงานตกแต่งสำนักงานหน่วยงานราชการที่ชะลอไปในช่วงปี 2557 - 58 (หากการประมูลกลับมาจะยิ่งเป็นบวก) 3) ต้นปี 2559 เตรียมบันทึกรายได้งานตกแต่งบ้านจัดสรรที่ประเทศกัมพูชาที่การก่อสร้างล่าช้าในปีที่ผ่านมา (มูลค่างานของ BKD รวม 1.5 พันล้านบาทรับรู้ภายใน 3 ปี) 4) คาดบริษัทฯเตรียมสรุปแผนใช้เงินลงทุนธุรกิจใหม่ จากเงินที่จะได้จากการแปลงสภาพ BKD-W1 ใน ก.พ. 59 ราว 600 ล้านบาท (เป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการฯ) ... รูปแบบราคาสร้างฐานที่ ±3.4 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” จุด Stop loss ที่ 3.36 บาท
กลุ่มบ้าน (AP*, SPALI*) ล่าสุด PE กลุ่มอสังหาฯ ปรับลงมาอยู่ในระดับ 6 – 7 เท่า และปันผลต่อปี 4 – 5% เราประเมินว่า Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ + นักเศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ คาด กนง ลดดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมวันที่ 5 ส.ค. (อย่างช้า 16 ก.ย.) หากมีการลดดอกเบี้ยจริงจะเป็น Positive Surprise ต่อหุ้นในกลุ่มฯ หากไม่ลดตามคาดก็มีผลต่อราคาไม่มาก เพราะไม่มีการคาดหวังก่อนหน้า i) AP* Presales ใน 1H58 เด่นที่สุดในกลุ่มฯ ราคาหุ้น Oversold ด้วย RSI ±25 จุด ประเมินแนวรับ 5.8 บาท (เป็นจุด Stop loss) แนวต้าน 6.2 บาท และ 6.35 บาท ตามลำดับ ii) SPALI* คาดกำไรไตรมาส 2/58 โต YoY และ QoQ เด่นสุดในกลุ่ม ราคาหุ้น Oversold ด้วย RSI ±30 จุด ประเมินแนวรับ 16.7 บาท (เป็นจุด Stop loss) แนวต้าน 17.4 บาท และ 18 บาท ตามลำดับ... ดูบทวิเคราะห์ประมาณการฯไตรมาส 2/58 วันที่ 29 ก.ค.58 เพิ่มเติม
(+) กลุ่มพลังงานทดแทน ราคาหุ้นในกลุ่มฯปรับลงแรงในเดือนที่ผ่านมาเราประเมินว่าเป็นโอกาส “ซื้อสะสมเพิ่ม” จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารหลายบริษัทฯ ล่าสุดโครงการต่างๆ อยู่ระหว่างพัฒนาตามแผน และบางส่วนอยู่ระหว่างรอการเปิดประมูลจากการไฟฟ้าฯ (ความล่าช้าของการไฟฟ้าฯเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในกลุ่มฯ) 1) คาดประกาศร่าง TOR โครงการโซลาร์สหกรณ์ฯภายใน ส.ค.58 (อย่างช้า ก.ย.58) และการเลื่อนกำหนด COD เป็นการยืดเส้นตายการขายไฟฟ้า ผู้ประกอบการที่ทำโครงการเสร็จก่อนจะขายไฟฟ้าก่อนก็ได้ 2) รอผลการประชุม กพช วันที่ 13 ส.ค. คาดมีความชัดเจนเรื่องแผนการประมูล FiT Bidding เพิ่มเติม แนะนำ “สะสม” IFEC ล่าสุดราคาปรับลงด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบาง ขณะที่ PE ปี 2559 ลดลงเหลือเพียง ±13 เท่า โครงการฯในปีนี้อาจล่าช้าจากภาครัฐฯเป็นสำคัญ แต่คาดไม่กระทบต่อประมาณการฯปี 2559 - 2560 และ “เก็งกำไร” GUNKUL* (ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 19 ส.ค. อนุมัติการเพิ่มทุน 6:1 ที่ราคา 22 บาท ราคาปิดวานนี้ยังต่ำกว่าราคาเพิ่มทุน)
… SAMART* (เป้า Consensus 30 บาท) 1) ราคาหุ้นปรับลงกว่า 50% สะท้อนงบไตรมาส 2/58 อ่อนแอแล้ว ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมฯ จะฟื้นตัวใน 2H58 - 2559 จากการเดินหน้าโครงการลงทุนระบบโทรคมนาคมต่างๆ + Upside จากโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 2,000MW คาดจะเซ็น MOU กับทาง กฟผ ในไตรมาส 4/58 2) ราคาเริ่มสร้างฐาน ±20.5 บาท และราคา Laggard SAMTEL ที่เริ่มรีบาวด์ แนะนำ “ทยอยสะสม” สำหรับการลงทุน 1 – 3 เดือน
… BANPU* (เป้า Consensus 30.5 บาท) 1) คาดงบไตรมาส 2/58 ทรงตัว QoQ ประเมินว่าราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมาในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมากว่า 20% สะท้อนแนวโน้มงบไตรมาส 2/58 ไปแล้ว เรายังคงประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 จะเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นแบบไตรมาสต่อไตรมาส จากการเริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าหงสา (เฟส 1 เดือน มิ.ย.58, เฟส 2 เดือน พ.ย.58 และเฟส 3 เดือน มี.ค. 59) 2) บ.ลูก BPP (ธุรกิจโรงไฟฟ้า) เข้า IPO ปีหน้า สำหรับการลงทุน 1 – 3 เดือน
… UWC (ยังไม่มีเป้า Consensus) สำหรับนักลงทุนที่ “รับความเสี่ยงได้สูง” แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ประเมิน Downside ด้านราคาน้อย ประเมินแนวรับ 0.59 บาท หากวันนี้ยืนเหนือ 0.60 บาทได้มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 0.70 บาท 1) แนวโน้มผลการดำเนินงานธุรกิจงานโครงสร้างเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง และเสา 3G+4G โตเด่นใน 1 – 3 ปีนี้ 2) ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล 9.9MW เตรียม COD ไตรมาส 3/59 และอยู่ระหว่างปิดดีลซื้อหุ้นธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ COD ไปแล้วเพิ่มเติม (ได้ข้อสรุปภายบางส่วนในไตรมาส 3/58)
… หุ้นอื่นๆ ที่แนะนำก่อนหน้า 1) PLANB (เป้า Consensus 5.9 บาท) รูปแบบราคากลับไปสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกรอบ ประเมินแนวรับ 5.95 บาท แนวต้าน 6.40 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” 2) KCE* (เป้า Consensus 57 บาท) สำหรับนักเก็งกำไรสั้น หากวันนี้ปิดสูงกว่า 53 บาท แนะนำ “Let profit run” รอขายแนวต้าน 56.5 บาท แต่หากปิดต่ำกว่า 53 บาท แนะนำ “ขาย” 3) TSR (เป้าพื้นฐาน 9.5 บาท) แนะนำ “สะสม” กำไรปกติไตรมาส 2/58 โต 20% QoQ (อาจมีบันทึกหนี้สงสัยจะสูญตามมาตรฐานบัญชีทำให้กำไรทรงตัว QoQ) ขณะที่แนวโน้มยอดขายไตรมาส 3/58 – ไตรมาส 4/58 โตเด่น (ภัยแล้ง + เริ่มขายแอร์ยี่ห้อ เฟดเดอร์)
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: SCC*, KTB*, SAMART*, BANPU*
พอร์ตเก็งกำไร: IFEC, TSR, PLANB
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
HMPRO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 9.6 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้อยู่ในเชิงกลางๆ แม้ผู้บริหารจะมีความกังวลเกี่ยวกับกำลังซื้อที่อ่อนแอในต่างจังหวัด แต่การมุ่งเน้นไปที่ตลาดซึ่งมีศักยภาพสูง, การขยายสาขา, การฟื้นตัวของห้างในรูปแบบ Mega Home และการเติบโตอย่างน่าประทับใจของรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ คาดจะช่วยให้ผลประกอบการในปีนี้ออกมาดีต่อเนื่อง
ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
(+) STEC* ลุ้นผลประมูลงาน 6.1 หมื่นล้านบาท ช่วงไตรมาส 4/58 (สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย) โดยเป็นรถไฟรางคู่ 3 เส้น มูลค่ารวม 5.1 หมื่นล้านบาทและงานสร้างโรงไฟฟ้าเอกชนมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท แม้ STEC ประเมิน มีโอกาส 20-30% ในการชนะงานประมูล แต่งานใหม่จะเริ่มรับรู้รายได้ปี 2559 ดังนั้น มีแนวโน้มสูงที่เราจะปรับประมาณการกำไรปี 2558 ลงจากปัจจุบันที่ 1.5 พันล้านบาท เนื่องจากผลกระทบของการชะลอตัวจากการประมูลงานจากรัฐบาลในช่วง 1H58 อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของธุรกิจที่ยังสดใสและกำไรที่คาดจะกลับมาเติบโตดีปีหน้า ทำให้เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” STEC ราคาเป้าหมาย 30.60 บาท
(+) CHO เซ็นเมล์ NGV ฉลุย ศาลยกคำร้องเบสท์ริน (ข่าวหุ้น) CHO พ้นขวากหนาม ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง “เบสท์รินกรุ๊ป” กรณีขอให้ยกเลิกประมูลจัดหารถเมล์ NGV 489 คัน พร้อมสัญญาซ่อมบำรุง ฟากขสมก.เล็งนัดเซ็นสัญญา 17 ส.ค.นี้
(+) ITD* - ROJNA เซ็นทวายวันนี้ ล่าสุดคว้า 3 งานใหม่ มูลค่า 1.23 พันล้าน (ข่าวหุ้น) วันนี้ “ITD-ROJNA” จ่อเซ็นสัญญาสัมปทานพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือน้ำลึกทวาย กับคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของเมียนมาร์ ขณะที่ล่าสุดคว้างานใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 1,233 ล้านบาท
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘ค่าเฉลี่ยเก้าวันที่รับ 1430 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1430 จุด อาจสะสมแรงผลักราคาขึ้นทดสอบต้าน 1454 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1430 จุดนั้น อาจกดราคาลงทดสอบแนวรับ 1411 จุด
แนวรับวันนี้: 1430/1424/1411 แนวต้านวันนี้: 1440/1454
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]