- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 04 August 2015 17:25
- Hits: 2204
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-/+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -91.66, NASDAQ -12.90, S&P -5.80, FTSE -7.66, CAC +37.91 และ DAX +134.73 ภายใต้ปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (1) การใช้จ่ายของผู้บริโภค - มิย. เพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 4 เดือน และเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงในช่วงท้าย 2Q/58 และ (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต – กค. อยู่ที่ 52.7 ลดลงจาก 53.5 เมื่อมิย. รวมถึงปัจจัยกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันที่ลดลง
.....ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทขนาดใหญ่ รวมถึงไฮเนเกนส์ และคอมเมิร์ซแบงก์ ซึ่งช่วยชดเชยปัจจัยลบจากตลาดหุ้นกรีซที่ปรับลดลง จากการกลับมาเปิดทำการเมื่อวานนี้เป็นวันแรก หลังปิดทำการประมาณ 5 สัปดาห์
....ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน กย. -US$1.95 อยู่ที่ US$45.17 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยลบจาก (1) การคาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) – กค. จะเพิ่มต่อเนื่อง หลังการผลิต - มิย. เพิ่มขึ้น 283,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับเฉลี่ย 31.38 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี (2) จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ ล่าสุด เพิ่มขึ้น 5 แห่ง เป็น 664 แท่น และ (3) อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้
......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธค. -US$5.7 อยู่ที่ US$1,089.4 ต่อออนซ์ ภายใต้ปัจจัยกดดันจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น จากการคาดการณ์เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ตามการซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยรอตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร - กค.ในวันศุกร์นี้ (7/8/58)
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,430 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -43,522 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
(-) กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI) - กค. อยู่ที่ 106.57 ลดลง 1.05%yoy และต่ำกว่าที่คาดว่าจะลดลง 0.98% โดยปรับลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) ไม่รวมหมวดอาหารสด และพลังงาน - กค.อยู่ที่ 105.93 เพิ่มขึ้น 0.94%yoy สูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.90% และ 7M/58 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.85% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 1.18% คาดอาจมีการพิจารณาปรับลดเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปี’58 จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.6 - 1.3%
ทิศทางตลาด :
ทิศทางตลาด : Sideway? ภายใต้ปัจจัยในประเทศที่มีทั้งบวก / ลบ โดย (+) จากความคาดหวังในเชิงบวกต่อการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล เพื่อให้การเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย หลังหลายๆ หน่วยงานปรับลด GDP ลงที่ 3.0% และกลุ่มธนาคารที่คาดมีแรงเก็งกำไร จากแรงกดดันส่วนต่างดอกเบี้ยลดลงในช่วง 2H/58 ภายใต้การคาดการณ์ กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ขณะที่ (-) จาก Fund Flow หลังต่างชาติกลับมาขายสุทธิ มูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท ยังแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ ที่ยังมีทิศทางอ่อนค่า และคาดยังส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงปัจจัยกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ลดลง อย่างไรก็ตามอยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงาน – กลางสค. คาดอาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาบ้าง
….ทางด้านประเด็นต่างประเทศ คาดได้รับปัจจัยกดดันจากความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะจีน ขณะที่ยังคงมีประเด็นที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี) ภายในปีนี้ หลังที่ผ่านมาประธานเฟดส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามยังมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง ภายใต้ความคาดหวังในเชิงบวกหลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อ่อนแอ ทำให้คาดเฟดอาจชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป
...และยังแนะติดตาม (1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น IRPC, PTTGC และ BCP คาดผลการดำเนินงาน 2Q/58 จะออกมาโดดเด่น เรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง – ยาว (2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น ITD, CK, SEAFCO และ UNIQ (3) ค่าเงินบาท ล่าสุดมีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 35.09 – 35.11 คาดส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO, VNG เป็นต้น (5) กลุ่มท่องเที่ยวยังคงได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หุ้นที่ได้รับผลดี เช่น CENTEL และ (6) หุ้นในกลุ่มเดินเรือ เช่น TTA และPSL หลังดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปรับขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 1,151 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับจากต้นปี’58
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.06 อยู่ที่ 2.15% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.44 มาอยู่ที่ 12.56
หุ้นแนะนำ : ERW
ประเด็นที่ต้องติดตาม (4 – 7 สค.’58)
4/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ค - กค. (2) ยอดสั่งซื้อของโรงงาน - มิย.
5/8/58 : ประชุม กนง. (คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50%ต่อปี)
สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน - กค. (2) ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ - มิย.
(3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย - กค. (4) ดัชนี PMI ภาคบริการ - กค. (5) สต็อกน้ำมันราย
6/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
7/8/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - กค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788